สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่มณฑลซูเจียง ประเทศจีนมีเด็กชายวัย 8 ขวบคนหนึ่งมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 13 กิโลกรัมภายในเวลา 2 เดือน
ทำให้เพื่อนบ้านพากันมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงที่เห็นน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วขนาดนี้ กลัวว่าจะเสียสุขภาพ หรือร่างกายเกิดความผิดปกติอะไรหรือเปล่า? เพราะตอนแรกที่เขาเป็นคนทานน้อยนั้น มีแต่แม่ของเขาที่คอยเป็นห่วงและให้กำลังใจลูกชายว่า ต้องกินให้มากกว่านี้ เพื่อ......
▼หลังจากรู้สาเหตุว่าที่เด็กชายคนนี้ต้องกินให้มากเพื่อเพิ่มน้ำหนักก็เพื่อ "พ่อ" ของเขานั้นเอง
เมื่อตอนต้นปี พ่อของเด็กชายคนนี้เกิดเป็นลมล้มลงกระแทกพื้นในห้องน้ำ ขณะที่กำลังอาบน้ำอยู่ ด้วยสาเหตุป่วยเป็น "โรคโลหิตจาง" ทั่วไป
นึกไม่ถึงว่า หลังจากนำตัวพ่อส่งโรงพยาบาลแล้ว กลับตรวจพบว่าพ่อเป็น "โรค มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน" หรือ "ลูคีเมีย" โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาเคมีบำบัด
มันต้องผ่านการ "ปลูกถ่ายไขกระดูก" สันหลัง แต่ ... .. เป็นการยากที่จะหากระดูกที่ถูกต้องตรงกัน เหมือนในละครท้องถิ่น
▼เว้นแต่ว่า จะมีญาติๆหรือคนในครอบครัว ที่เข้า
กันได้ สุดท้ายหมอตรวจพบว่า ลูกชายของเขามีไขกระดูกที่เข้ากับพ่อได้ อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลบอกว่าผู้บริจาคไขกระดูกจะต้องมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมหรือมากกว่านัั้น ก่อนที่จะทำการปลูกถ่าย มิฉะนั้นอาจเกิดความเสี่ยงที่มากเกินไป ดังนั้นเด็กชายวัย 8 ขวบคนนี้ก็เริ่มกินทุกอย่างมากขึ้น
▼ถึงแม้ว่าในตอนแรก เขายังปรับตัวไม่ได้ เพราะอาหารที่มากมายเหล่านั้น เขากินไม่หมด แต่เมื่อนึกถึงพ่อของเขา มันก็เป็นแรงผลักดันให้เด็กชายพยายามกิน เคี้ยวๆๆ กลืนๆๆเข้าไป
จนระยะเวลาผ่านไป 2 เดือน ด้วยความพยายามของเขา ที่กินทุกอย่าง ทำให้น้ำหนักของเด็กชายคนนี้ เพิ่มขึ้นมาเป็น 46.50 กิโลกรัม
▼เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เด็กชายคนนี้ได้ทำการผ่าตัด การปลูกถ่ายไขกระดูก เพื่อบริจาคให้พ่อ จนพ่อของเขาอาการค่อยๆดีขึ้น ฟื้นฟูจนร่างกายแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ
อายุเล็กๆเพียงเท่านี้ ก็สามารถทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ ช่างกล้าหาญจริงๆ!!
เด็กชายคนนี้ไม่สนใจคำพูดและสายตาของคนรอบข้าง พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองสามารถอ้วนขึ้นและมีเกณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพราะนี่คือโอกาสที่จะช่วยชีวิตของพ่อเขาไว้ได้
แบ่งปันความรักอันยิ่งใหญ่นี้ให้คนทั้งโลกได้รู้ถึง ความรักของครอบครัวนี้กัน