กลั้นน้ำตาไม่อยู่ หนุ่มใหญ่ชีวิตสุดรันทด กรีดยางเลี้ยงลูก 2 คน ตามลำพัง หลังเมียทิ้งเพราะความจน

นายเฉลิมชัย ฉิมเรศ อายุ 40 ปี อาชีพกรีดยาง อยู่บ้านเลขที่ 76/1 หมู่ที่16 ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าว่า ตนไม่มีอาชีพ อาศัยอยู่กับลูก 2 คน ลูกชายคนโต 4 ขวบ แลูกสาวคนเล็ก 2 ขวบ ทุกวันต้องออกไปกรีดยางที่มีอยู่เพียง ไม่กี่ต้น กรีดยางแล้วเอาน้ำยางมาทำเป็นเศษยางขายเพื่อซื้อข้าวสาร ค่าอาหารและของใช้ประจำวันให้กับลูกทั้งสองคนได้กินได้อยู่รอดไปวันๆ ตาประสาคนยากจนไร้ที่พึงพา ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตของลูกจะอยู่อย่างไรต่อไปเมื่อเขาโตขึ้น

เวลาออกไปกรีดยางช่วงกลางคืนตอนดึกๆ ต้องเอาลูกทั้งสองมาไว้ในห้องเล็กๆแคบๆเพื่อไม่ให้ ลูกออกมาข้างนอกได้กลัวจะมีใครมาทำร้ายลูกแต่ก็ต้องทิ้งลูกไว้เพื่อตนจะได้ไปกรีดยางพาราจะมีรายได้ในการขายเศษยางเอามาเลี้ยงลูก ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างรันทด ต้องสู้ชีวิตตามลำพังจะไม่มีที่พึงจะไปพี่งใครที่ใหนก็ไม่ได้ เพราะทุกคนเขาก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบครอบครัวกันทั้งสิ้น ตนก็ต้องทำแบบนี้ ส่วนภรรยาก็มาทิ้งไปตั้งแต่ลูกยังเล็กอยู่ สาเหตุก็เพราะความยากจนของตนที่ไม่สามารถเลี้ยงดูภรรยาให้อยู่สุขสบายได้ หนุ่มสู้ชีวิตกล่าว

นายณัฐพงษ์ สาโรจน์(บอยจิตอาสา) กล่าวงว่า ผมเข้ามาดูแลครอบครัวนี้ด้วยความบังเอิญ ที่มีคนบอกมาจึงเข้ามาดูพบเด็กทั้ง 2 กำลังนั่งเล่นกันอยู่ ตามแขนและขามีแผลพุพองอาจเกิดมาจากยุงกัดผมดูแลครอบครัวนี้มานานแล้วเท่าที่ผมจะทำได้ และไม่เห็นมีใครหน่วยงานไดเข้ามาดูแลเขาเลย ปล่อยให้พ่อลูกทั้งสามชีวิตต่อสู้กันเองโดยตามลำพัง จะกินจะอยู่ก็ลำบากรายได้จากการกรีดยางเพียงไม่กี่ต้นคงไม่สามารถเลี้ยงคนทั้ง 3 ชีวิตให้อยู่ดีได้ ถ้ามีใครเข้ามาดูแลเขาบ้างอย่างน้อยก็น่าจะมีวิถีคุณภาพชีวิตที่ที่ดีกว่านี้ เช่นการเข้าถึงสวัสดิการต่างๆแห่งรัฐ เด็กยังเล็กอยู่มากเขายังไม่สามารถรับรู้เรื่องราวของผู้ใหญ่ได้ ตื่นนอนมาก็จะกินจะเล่นและจะนอนเพียงอย่างเดียว โดยที่เขาไม่รู้ด้วยว่าพ่อของเขาจะมีอะไรให้กินในวันนี้หรือไม่ อยากจะฝากให้หน่วนงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแบ่งเบาภาระครอบนี้ได้บ้างก็พอ เรื่องเสื้อผ้า อาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญถ้าทุกฝ่านช่วยกัน บอยจิตอาสา กล่าว