เมาเป็นเหตุ! สาวแจ้งความหลัง ถูกข่มขืน กลับต้องช็อกหนักเมื่อผลตรวจชี้ คนร้ายคือคนใกล้ตัว

เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า หญิงสาวชาวอังกฤษรายหนึ่ง ตื่นขึ้นมาในบ้าน หลังจากออกไปดื่มเหล้าที่บาร์มาตลอดทั้งคืน เธอรู้สึกผิดปกติและคิดว่าตัวเองถูกข่มขืน ด้วยความที่เธอเมามาก เธอจึงจำไม่ได้และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หญิงสาวรู้สึกกลัวมาก เธอรีบแจ้งให้สามีรับรู้ ซึ่งสามีแนะนำให้แจ้งตำรวจ จากการตรวจร่างกายพบว่าหญิงสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง และผลการตรวจดีเอ็นปรากฏว่า ผู้กระทำคือสามีของเธอเอง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2559 โดยหญิงสาวและสามี วัย 35 ปี ของเธอ กำลังเดินทางไปงานเลี้ยงบาร์บีคิวที่บ้านเพื่อน ทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกัน หญิงสาวโมโหมาก เธอเปิดประตูลงจากรถ และขึ้นรถเมล์ไปบาร์ในเมืองเรดดิ้ง ส่วนสามีและลูกชายไปงานบาร์บีคิวที่บ้านเพื่อนตามเดิม

หญิงสั่งเหล้ามาดื่มเป็นจำนวนมาก และในเวลาประมาณ 01.00 น. เธอก็เมาหัวทิ่ม จนอีกชั่วโมงให้หลังก็มีชาวบ้านไปแจ้งสามีว่า พบเห็นภรรยาของเขานอนเมาไม่ได้สติอยู่บนม้านั่งข้างถนน เขาจึงเดินทางไปรับเธอ และเมื่อพาเธอกลับมาถึงบ้านแล้ว เขาจึงฉวยโอกาสลักหลับเธอ

ในระหว่างการสอบสวนนั้น สามีอ้างว่าเขากับภรรยามีเพศสัมพันธ์กันเมื่อราว ๆ หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น แต่ผลการตรวจร่างกายและดีเอ็นเอกลับแสดงสิ่งที่ตรงกันข้าม และในการพิจารณาคดีในชั้นศาล ผู้พิพากษากล่าวว่า สามีได้ลงมือข่มขืนภรรยาขณะที่เธอมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ด้วยความที่เธอไม่ได้สติ มันจึงไม่ใช่การกระทำโดยความยินยอม
ศาลจึงตัดสินว่าสามีมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา โดยพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 7 ปี เขายังต้องถูกขึ้นทะเบียนเป็นอาชญากรทางเพศ และถูกสั่งห้ามติดต่อภรรยาไม่ว่าในทางใดก็ตาม ถ้าหากต้องการติดต่อ ต้องกระทำผ่านทนายเท่านั้น
ทางด้านภรรยากล่าวว่า ชีวิตแต่งงานของเธอพังลง เธอเจ็บปวดมากจนไม่สามารถทำใจอาศัยอยู่บ้านหลังเดิมได้อีก และจำต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แต่ที่แย่ที่สุดก็คือ ความเจ็บปวดจากการถูกหักหลัง โดยสามีของเธอเอง ซึ่งเป็นผู้ชายที่เธอรักและเชื่อใจมากที่สุดในโลก