ปกติประเทศอินโดนีเซียนับว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีความเคร่งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส หรือการนอกใจให้ได้เห็นจนชินตา แต่กลับมีหุบเขาที่ห่างไกลที่หนึ่งในประเทศอินโดนีเซียกลับมีความเชื่อที่น่าประหลาดใจ ดังนั้นชาวอินโดนีเซียส่วนหนึ่งจึงได้นำเรื่องของโชคลาง ความเชื่อและเพศสัมพันธ์มาร่วมกัน
เว็บไซต์ชื่อดังแห่งหนึ่งได้มีการนำเสนอข่าวความเชื่อที่ฟังแล้วดูแปลกใหม่อย่างเช่น "การมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าเพื่อความเป็นสิริมงคล!!!" โดยกล่าวว่า บนหุบเขากุนุง เคมูกุส ของอินโดนีเซียไม่มีการค้าประเวณีแต่อย่างใด สิ่งที่คุณจะพบเจอเมื่อไปถึงที่นั้นคือเทศกาลปากว่าตาขยิบ หรือเทศกาลเซ็กส์หมู่นั้นเอง โดยทางรัฐบาลของอินโดนีเซียก็ได้ประโยชน์จากความเชื่อดังกล่าวเช่นกัน จึงไม่มีดำเนินคดีแต่อย่างใด เทศกาลเซ็กส์หมู่นี้ไม่ได้พึ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมานานแล้วถึง 16 ศตวรรษ หรือราวๆ 500 กว่าปีแล้ว โดยที่นั้นมีตำนานเล่าว่ามีเจ้าชายแห่งชวาพระองค์หนึ่งอยู่กินกับแม่เลี้ยงของตนที่หุบเขาแห่งนี้ จนทำให้เกิดเป็นตำนานความรักบาปที่ผู้คนต่างหลั่งไหลกันไปสักการะ จนเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า ถ้าลองได้มีเซ็กส์โดยไม่บาปสักครั้งในชีวิตก็จะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง และมีการจัดเป็นเทศกาลทุก ๆ สองสัปดาห์โดยเฉพาะ โดยผู้ที่จะเข้าร่วมจะต้องทำพิธีกรรมชำระร่างกายและจิตใจด้วยน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะจับคู่กับคนแปลกหน้าที่พึ่งใจเพื่อมีอะไรกัน
แน่นอนว่าเหล่าสาวอาชีพขายบริการต่างแห่ไปรอรับแขกที่หุบเขาเป็นจำนวนมาก และผู้ที่ไปใช้บริการก็มีหลากหลายอาชีพตั้งแต่นักการเมืองจนถึงกรรมกร มีผู้เล่าว่าความเชื่อที่ผิดบาปนี้ ถูกนำมาจากความเชื่อของ 3 ศาสนารวมกัน คือ ฮอนดู อิสลาม และพุทธ แน่นอนว่ามีผู้ที่ไม่เห็นด้วยและออกมาต่อต้านเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงมีการกดดันให้รัฐบาลเข้าควบคุมเพื่อไม่ให้ประเทศต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงมีผู้คนเข้าไปใช้บริการมากกว่าปีละ 5,000-8,000 คนต่อปี