คู่รักหลายคู่พยายามอย่างหนักเพื่อมีทายาทแต่บ่อยครั้งที่ความพยายามเหล่านั้นไม่เป็นผลสำเร็จ และนำความเศร้าเสียใจมาสู่ครอบครัว เช่นเดียวกับหญิงสาวรายนี้ ที่เธอและสามีตั้งตารอวันที่ลูกน้อยคลอดออกมาพร้อมกับเตรียมการทุกอย่างเพื่อเป็นพ่อและแม่ที่ดีเพื่อที่จะมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่เรื่องราวกลับจบลงอย่างใจสลาย และเหตุการณ์หลังจากการตายของเด็กน้อย...
พ่อ-แม่ใช้เวลา 16 วัน อุ้มลูก เดินเล่นใช้ชีวิตเป็นปกติ โดยไม่มีใครรู้ ว่าเด็กไร้ลมหายใจไปแล้ว
Charlotte Szakacs (ชาล์ล็อตต์ ซาคาคส์) อายุ 21 และแฟนหนุ่ม Attila (แอททิลา) อายุ 28 ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันและเตรียมพร้อมสำหรับการมีครอบครัวหลังจากเธอตั้งครรภ์ลูกน้อย และให้กำเนิดเธอโดยให้ชื่อว่า Evlyn (อีฟลิน)
ก่อนที่หนูน้อยจะคลอดแพทย์แจ้งว่า "ลูกของเธออาจจะคลอดมาด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรงนัก" และก็เป็นไปตามคาดเมื่อเธอคลอดด้วยสภาวะของสมองพัฒนาช้ากว่าเกณฑ์ ทำให้ร่างกายมีพัฒนาการไม่ปกติ รวมถึงอวัยวะภายในที่ทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ อีฟลิน ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
พวกเขาซึ่งไม่อาจจะทำใจรับความจริงแสนโหดร้ายนี้ได้ กับการได้อุ้มลูกแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง และการพบเจอกันผ่านตู้กระจกในห้องปลอดเชื้อ รวมถึงการที่อาการของเด็กไม่ดีขึ้น และอาจจะเสียชีวิตในเวลาไม่นาน
ท้ายที่สุด หลังจากความพยายามยื้อชีวิตไม่เป็นผล เธอและทีมแพทย์ได้ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งเธอกล่าวว่า "อีฟลินไม่แม้แต่จะพยายามหายใจเฮือกสุดท้าย เธออ่อนแอมาก ถึงขนาดที่ไม่มีแรงหายใจ และจากไปในอกฉัน"
ก่อนที่จะต้องนำร่างของเธอไปประกอบพิธี เธอและสามีได้ทำการร้องขอ "พาร่างของลูกกลับบ้าน" เพื่อมาใช้ชีวิตครอบครัวที่ทั้งคู่เฝ้ารอมาแรมปี โดยความช่วยเหลือของแพทย์ทำใหร่างของหนูน้อยแข็งตัวและเตรียมความพร้อมสู่การ "กลับบ้าน" ซึ่งพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกัน 16 วัน ทั้งการนอนกอดกัน กล่อมนอน เดินเล่น ถ่ายรูปเซลฟี่ และพูดคุยกับศพ ราวกับอีฟลินยังมีชีวิตอยู่
เมื่อเวลาของครอบครัวหมดลง ร่างของหนูน้อยถูกนำมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและหลับไปตลอดกาล ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะบ่อยครั้งที่ครอบครัวได้ร้องขอร่างไร้วิญญาณของลูกน้อย เพื่อกลับไปใช้ชีวิตครอบครัว เพื่อเยียวยาบาดแผลทางใจจากการสูญเสียลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย
ที่มา liekr