จากกรณีที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ได้โพสต์รูปภาพ พร้อมระบุข้อความว่า "เมื่อประมาณเดือน ธ.ค. 2559 ได้มีผู้ป่วยหญิงชาวไทย อายุ 82 ปี เป็นโรคเบาหวานและไขมันสูง มาหาตน โดยมีอาการพูดไม่ชัด และนึกคำพูดไม่ออก
เตือนภัย!! หนุ่ม-สาวบีบจมูกเม้มปากเวลาจาม มีโอกาสเสี่ยง “ลมเข้าสมอง” !!
จากนั้น 3 วันคุณหมอได้ทำ MRI คลื่นแม่เหล็ก พบว่าสมองมีลมอยู่บริเวณในเนื้อสมองข้างซ้าย ซึ่งหลังจากติดตามอาการพร้อมรักษา อาการหญิงคนดังกล่าวได้ดีขึ้นช้าๆ และปัจจุบันปกติ
คุณหมอระบุต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งทราบสาเหตุว่า ทำไมอยู่ดีๆลมเข้าสมองผู้ป่วยคนนี้ได้ (หลังจากอ่านรายงานในวารสาร BMJ Case Reports ของวันที่ 15 ม.ค. 2561 และกำลังเป็นข่าวดังไปทั่วโลกขณะนี้ ชี้ให้เห็นถึงอันตรายของการเอามือบีบจมูก เม้มปากเวลาจาม ด้วยการกลับไปซักประวัติใหม่ว่าผู้ป่วยทำอย่างนั้นก่อนป่วยหรือไม่
ผู้ป่วยตอบว่าก่อนไม่สบาย กำลังจะสั่งน้ำมูก เกิดจามขณะเอามือบีบจมูก เอานิ้วอุดรูหูข้างขวาและเม้มปากพร้อมๆกัน หลังทำหูข้างซ้ายอื้อและมีเสียงดัง ลมจากการจามออกทางจมูกปากไม่ได้ คงผ่านจากท่อในปากเข้าหูชั้นกลางด้านซ้ายแล้วทะลุผ่านกระโหลกใต้สมองเข้าสมองด้านซ้าย( ดูลูกศรในรูปภาพ ) รายนี้น่าจะเป็นรายแรกของโลกที่ลมรั่วเข้าสมองเกิดจากการบังคับไม่ให้จามออกทางปากและจมูก นอกจากปอดรั่ว แก้วหูทะลุ ผนังช่องคอทะลุ เส้นเลือดในสมองแตก ยังมีลมรั่วผ่านกระโหลกเข้าสมองได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าทำร้ายตัวเองด้วยการเอามือมาบีบจมูกและเม้มปากเวลาจามเด็ดขาด
ที่มา : ข่าวสด