สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2561 กรณีทางด้านกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ได้ขายสถานทูตอังกฤษในประเทศไทย เป็นเงินจำนวนถึง 420 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 18,600 ล้านบาท
สื่อต่างประเทศได้ระบุว่า เงินที่ได้จากการขายครั้งนี้ ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ต้องการที่จะนำไปปรับปรุง ซ่อมแซมสถานทูตอังกฤษทั่วโลก ในขณะที่สถานทูตอังกฤษในประเทศไทยเอง จะย้ายจากที่ตั้งเดิมไปอยู่ในอาคารที่ทันสมัยแห่งใหม่ในปี 2562 นี้
สำหรับสถานทูตอังกฤษ แห่งนี้ถูกสร้างขั้นตั้งแต่ในปี 1922 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนวิทยุ เนื้อที่ 23 ไร่ แต่ที่สำคัญ นอกจากตั้งอยู่ในทำเลที่ดีแล้ว สถานทูตแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีความร่มรื่น เนื่องจากแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ แต่สภาพโดยส่วนใหญ่ของตัวคารนั้นเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา
สำหรับการซื้อขายสถานทูตอังกฤษครั้งนี้ ถูกเปิดเผยว่า เป็นการขายทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของอังกฤษ กันเลยทีเดียว สำหรับ รูปปั้นของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย จะไม่ถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากสถานที่แห่งนี้ มันจะถูกเก็บไว้ที่สถานทูตเดิม แต่อนุสรณ์สงครามจะถูกย้ายไปยังสถานที่ตั้งใหม่
ขณะที่ทางด้าน บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนเองตั้งใจที่จะให้สถานทูตทุกแห่งทั่วโลกนั้น มีอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ใช้งานอย่างทันสมัย เพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีสถานที่ทำงานที่ทันสมัย และปลอดภัย ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่รวมถึงสถานทูตอังกฤษในประเทศอื่น ๆ อีกด้วย
สถานทูตอังกฤษเป็นสถานทูตที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และตั้งอยู่ในทำเลทอง คือ ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ที่มีมูลค่าที่ดินสูงที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร บริษัทนายหน้าที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนขายที่ผืนนี้ประเมินราคาอยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อตารางวา ทำให้มูลค่าการซื้อขายจะสูงถึง 18,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ของสถานทูตถูกเฉือนขายให้กับเซ็นทรัล กรุ๊ป ในราคาเกือบ 1 ล้านบาทต่อตารางวา และพื้นที่ดังกล่าวได้กลายเป็นที่ตั้งของห้าง เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ในปัจจุบัน เชื่อกันว่าเซ็นทรัล กรุ๊ป เป็นกลุ่มที่ซื้อที่ดินที่เหลือของสถานทูตแห่งนี้