ทูลกระหม่อม ทรงตำส้มตำโชว์ โปรโมตการท่องเที่ยวไทย ณ กรุงเบอร์ลิน

เมื่อเวลา 14.00 น. เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2561 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จถึง Berlin Exhibition Grounds สถานที่จัดงาน International Tourismus Borse (ITB)2018 โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา,นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และคณะผู้บริหาร ททท.พร้อมนำเสด็จเข้าคูหาประเทศไทย หมายเลข 221 Hall 26b ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เ สด็จขึ้นชั้น 2 คูหาประเทศไทย เพื่อประทานสัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยในรูปแบบ High Tea โดย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงสาธิตปรุงส้มตำ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานไอทีบีกันเนื่องแน่น และเมื่อพระองค์ฯ ตำส้มตำเสร็จทรงพระราชทานให้กับคนที่มาร่วมงานทั้งสื่อมวลชน คนไทยและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ก่อนการสัมภาษณ์ น.ส.เสาวนีย์ ชินะกุล ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ในฐานะตัวแทนสื่อมวลชนในนามโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ขอพระราชทานสัมภาษณ์ด้วยคำสามัญชน พระองค์ท่านทรงพระอนุญาตพูดคำสามัญชน

การเข้าร่วมงาน ไอทีบี ของประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการไทย ในครั้งนี้จะส่งผลดีการท่องเที่ยวไทยอย่างไร

ตอบ..คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากเลย อันที่จริงเป็นสิ่งที่ดีมาหลาย 10 ปีแล้ว งานไอทีบีนี้ไทยเรามาร่วมเป็น 40 ปีแล้วมั้ง อย่างไรก็ตามงานมหกรรมท่องเที่ยว ไอทีบี เป็นมหกรรมท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสำคัญที่สุดในโลก ฉะนั้นเมื่อพวกเรามาร่วมไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ คนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ททท. ท่านรัฐมนตรีท่องเที่ยว ถือเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ดีๆ ของคนไทยและทำให้เค้าเห็นว่าเมืองไทยน่าจะมาเที่ยวและมาทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในทางกีฬา ในทางสุขภาพ

ฉะนั้น ผู้ประกอบการที่มาจะได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องธุรกิจ กับผู้ค้า ได้โปรโมทสินค้าท่องเที่ยวของตนเองไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมท่องเที่ยว สปา ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ก็มีโอกาสพูดคุยกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องประชาสัมพันธ์ ว่าเรามีสถานที่ท่องเที่ยว อะไรบ้าง มากมายแค่ไหน เมื่อได้มีโอกาสเข้าร่วมไอทีบี ก็สามารถประชาสัมพันธ์ประเทศได้มากมาย เพราะมีผู้ซื้อจำนวนมากมาอยู่ที่นี่แล้ว การร่วมงานนี้ถือว่าได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์ประเทศที่คุ้มค่า เมืองไทยได้ปรากฏในสื่อต่างๆทั้ง ซีเอ็นเอ็น สื่อหลักต่างๆร่วมทั้งสื่ออินเตอร์เน็ตมากมาย

ทูลกระหม่อมฯ คิดว่าการท่องเที่ยวไทยควรพัฒนาในด้านใดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ให้มาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น และอยู่นานขึ้น

ตอบ..ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ เป็นมิตร เรามียิ้มที่สวยงาม คนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม แต่นักท่องเที่ยวยังไปที่ท่องเที่ยวหลัก เช่น ทะเล ภูเก็ต สมุย หัวหินก็มีบ้างนิดหน่อย และเชียงใหม่ ดังนั้น เราต้องพยายามเปิดสถานที่ท่องเที่ยวเมืองรอง ไม่ว่าจะเป็นเกาะต่างๆ เล็กๆน้อยๆ การท่องเที่ยวทำให้คนไทยมีรายได้ด้วย มีโอกาสช่วยเหลือการท่องเที่ยวของตัวเอง ฝรั่งบางคนก็ชอบเห็นธรรมชาติ ประเพณีต่างๆ จนมาถึงเรื่องของอาหาร เราก็มีการท่องเที่ยวเชิงศิลปะอาหาร หรือ แกสโตรโนมิกทัวร์ ตอนนี้เรามีอาหารที่อร่อย ใครก็รู้จักอาหารไทย ไทยมีสตรีทฟู้ดไม่ว่าแบบสตรีทฟู้ดแบบแพง แบบถูก แต่เราต้องพยายามทำให้สตรีทฟู้ดสะอาด เพราะฝรั่งท้องไม่แข็งแรง เดี๋ยวจะว่าเราได้

เมนูไทยที่พระองค์โปรดปรุงเป็นพิเศษ

ตอบ..โปรดปรุงหรา น่าจะเป็นขนมครกนะ เห็นในคลิปไหมชอบมาก ขนมครกทำง่าย ทำสนุก สวยงาม สบายๆ สบายใจ ว่าจะตั้งร้าน ว่า แต่ตอนนี้คงไม่ต้องตั้งแล้ว

สำหรับสุขภาพของประชาชนคนไทย ทรงห่วงใยเรื่องอะไรเป็นพิเศษ

ตอบ...ห่วงใยสุขภาพจิต ใน3-4 ปีที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องนี้มากขึ้นทุกที มันเครียด ประเทศไทย ความจริงเศรษฐกิจคนทั่วไปยังไม่ดี คนรวยยังรวยใหญ่ ส่วนคนชนชั้นกลาง ลงไปลำบากมากอยากพูดไปให้เสียงดังก้องโลกเลยว่าคนไทยยังลำบากมาก เมื่อลำบากมากเราทำงานกับชาวบ้าน คนต่างจังหวัด คนในชุมชน เราคุยกันเยอะ ฉะนั้นเศรษฐกิจไม่ดี ทำงานไม่สามารถมีรายได้ที่เพียงพอ พ่อแม่มัวแต่ทำงานต่างจังหวัด เด็กก็เครียด ไม่มีกำลังใจที่จะพัฒนาตัวเองให้ดี ลำบากทำให้ ไม่อยากเรียนหนังสือ มั่วสุมเสพยา ระบบการศึกษาต้องพัฒนา เราก็พยายามคุย สุขภาพจิต เกิดจากเรื่องทางกายไม่สบายทำให้เด็กเครียด ผู้ใหญ่เครียด ทุกคนเครียด มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า อาจเป็นโรคทางจิตมีหลายอย่าง ก็ห่วง ก็พยายามช่วยเหลือ แต่งานเราคือเรื่องของยาเสพติด ยาเสพติดมันเกิดจาก ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา หลายอย่าง สังคมไทยเกิดปัญหาความรู้สึกว่าไม่เท่ากัน

จะพระราชทานกำลังใจอย่างไรในภาวะที่ประชาชนมีความกังวล มีปัญหา

ตอบ...กำลังใจเหรอ..ก็คงแนะนำให้ สู้ๆ ก็ธรรมดาก็ให้กำลังใจประชาชนอยู่แล้ว สู้ๆ เราไม่ได้มีอำนาจ บารมี แต่มีโอกาสได้ใกล้ชิดพี่น้องชาวไทย เด็กๆ มีโอกาสรับฟังความคิดของเขา สำคัญที่สุดต้องรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น แนวทางช่วงที่ระดับที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจเด็ก การคุยต้องให้กำลังใจด้วย สู้ๆเขาได้กำลังใจแล้ว เพราะรู้ว่ามีคนบางคนที่เข้าใจและเห็นใจ