จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก Accessibility Is Freedom ซึ่งเป็นเพจรณรงค์เกี่ยวกับสิทธิของคนพิการ ได้เผยเรื่องราวของ นายมานิตย์ อินทร์พิมพ์ หรือ ซาบะ นักเคลื่อนไหวเพื่อคนพิการ
หลังก่อเหตุทุบกระจกลิฟต์ของรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศก จนได้รับความเสียหาย ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ลุมพินี นั้น
ล่าสุด วันที่ 12 มีนาคม 2561 นายมานิตย์ เปิดเผยถึงสาเหตุการทุบกระจกว่า สถานีนี้มีการออกแบบที่ผิดพลาด ลิฟต์ถูกล็อกไว้ตลอดเวลา ไม่เคยถูกแก้ไขทั้ง ๆ ที่สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย แต่ผู้ให้บริการเลือกการแก้ปัญหาด้วยการล็อกลิฟต์
นายมานิตย์ ระบุอีกว่า "คนพิการมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ เดินทางได้ลำบากแล้ว เจออุปสรรคทุก ๆ อย่าง ไม่เคยแก้ไขลองมาเป็นคนพิการแบบผมดู"
นอกจากนี้ นายมานิตย์ ยังเคยให้ความเห็นไว้ว่า ลิฟต์แบบยาวที่สามารถขึ้นทะลุไปได้ทุกชั้น ผลก็คือ จะทำให้บีทีเอส ไม่สามารถควบคุมผู้โดยสารได้ กระทบถึงทั้งความปลอดภัยและการควบคุมการจำหน่ายตั๋ว สถานีต้องปิดลิฟต์ และเปิดเมื่อจำเป็นต้องใช้เท่านั้น
นายมานิตย์ ได้ยกตัวอย่างลิฟต์ที่บีทีเอส สถานีอโศก ฝั่งหน้าห้าง Terminal 21 ว่าเป็นลิฟท์แบบเปิด ทำให้ผู้โดยสารที่กำลังรอลิฟต์ต้องทนตากแดด ตากฝน กดเรียก รอเจ้าหน้าที่มาเปิดลิฟท์ให้ และยังมีผลกระทบคือเจ้าหน้าที่ต้องมาคอยดูแล เปิด-ปิด ลิฟท์ตลอดเวลา ทั้งที่เจ้าหน้าที่เองก็มีจำนวนจำกัด จึงไม่สามารถดูแลผู้โดยสารได้ในเวลาเร่งด่วน จึงถือเป็นปัญหาที่ยังรอแก้ไข โดยเชื่อมั่นว่าความผิดพลาดในการออกแบบเพียงเท่านี้ยังมีแนวทางที่จะสามารถจัดการได้โดยที่ไม่ต้องปิดลิฟต์