แฟนเพจ ทนายเพื่อนคุณโพสต์แนะนำ กรณี เมื่อหัวขโมยขึ้นบ้านคุณ หากจำเป็นต้องเสี่ยง'ยิง' - ยิงแบบไหน ถึงรอดคุก!
จากกรณีข่าวโด่งดัง !เรื่องที่จ่าสิบตรี นายหนึ่งได้ใช้อาวุธปืนยิงโจรที่กำลังจะแอบปีนเข้าบ้านย่านลาดพร้าว เพื่อลักทรัพย์ จำนวน 8 นัดจนเสียชีวิต และถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด างแฟนเพจ ทนายเพื่อนคุณ ได้มีการโพสต์ข้อความให้ความรู้เรื่องของกฎหมาย เกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพย์สินหากมีหัวขโมยขึ้นบ้าน ทางแฟนเพจ ทนายเพื่อนคุณ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หัวขโมยขึ้นบ้านยิงแบบไหน ถึงรอดคุก ....
ตามประมวลกฏหมายอาญาของบ้านเรา จะมีวลีติดปากนักกฏหมาย ‘ การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ' เนื่องจาก ป.อาญา มาตรา 68 ได้กล่าวว่า ถ้าผู้ใดต้องกระทำการใด ๆ เพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือผู้อื่นให้พ้นจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฏหมายและภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าการกระทำนั้นสมควรแก่เหตุ การกระทำเช่นว่านั้นเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฏหมาย ดังนั้นไม่มีความผิดครับ เมื่อไม่ผิดก็ไม่ต้องติดคุก
ทนายเพื่อนคุณได้ไปค้นแนวฎีกาเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงมาบอกเล่าเป็นแนวทางกัน
เมื่อขโมยขึ้นบ้านต้องมีขั้นตอนอย่างไรก่อนยิง?
1.เมื่อเห็นขโมยหรือได้ยินเสียงผิดปกติ ให้ตะโกนถาม ว่าใคร?
2.เมื่อมั่นใจว่าเป็นขโมยแล้ว ให้ยิงปืนขึ้นฟ้าแต่ถ้าหัวขโมยไม่หนีหรือล่าถอยออกไป ก็ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ต่อไป
3.มาตรการเด็ดขาด! ก็คือยิงครับ การยิงให้ยิงเพียง 1-2 นัดและเลือกยิงอวัยวะที่ไม่สำคัญ เช่น แขน ขา เข่า ห้ามยิงหัวหรือท้องหรือยิงรัวซะหมดแม็ก ไม่เช่นนั้น การกระทำของท่านจะเป็นเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งมีเป็นความผิดแต่ศาลจะลงโทษมากน้อยเพียงใดอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ตามมาตรา 69 ป.อาญา
4. ขั้นตอนสุดท้ายโทรแจ้งตำรวจหรือกู้ภัยหรือหน่วยงานพยาบาล เพื่อแสดงถึงมนุษยธรรมเพื่อพาหัวขโมยไปโรงพยาบาลและเพื่อเป็นการยืนยันเจตนาอันบริสุทธิ์ของเราว่ามีเจตนาที่กระทำเพื่อป้องกันตัวเองและทรัพย์สิน
สรุป กฏหมายให้ความคุ้มครองวิญญูชนผู้สุจริตถ้ากระทำโดยสมควรแก่เหตุก็ไม่ผิดกฏหมายและชอบด้วยกฏหมาย แต่ถ้าทำเกินสมควรแก่เหตุเช่น รัว 8 นัดตามข่าวก็ผิดกฏหมาย ติดคุกหรือไม่ติดคุก ติดนานหรือไม่นาน ก็ต้องไปลุ้นกันยาว ๆ ที่ดุลยพินิจของศาล