หลังเหตุบุกถึงวัดขอเจ้าอาวาสไม่ให้บวชเสี่ยโป้ อภิรักษ์ เสี่ยเน็ตไอดอลชื่อดัง ที่มีปัญหายืมเงินร้อยล้าน กานต์ วิภากร อดีตภรรยา เสก โลโซ ล่าสุด เสี่ยโป้ เปิดใจว่า ตนตัดสินใจบวชทดแทนคุณให้พ่อ แม่ และตอนที่พ่อป่วยเป็นมะเร็ง ก็ได้บนบานไว้ว่า หากพ่อหายป่วยจะบวช แต่ตนไม่ได้บวช ซึ่งทำให้ชีวิตตกต่ำ จึงตัดสินใจบวช เกรงว่าถ้าไม่บวชครั้งนี้ ก็กลัวจะไม่ได้บวชอีก เพราะโจทก์เยอะ โดยได้บอกกับ กานต์ ก็พร้อมจะอโหสิกรรมให้ แต่สุดท้ายกานต์ไม่ให้บวช กลัวตนจะเบี้ยวเงินที่ติดค้างไว้ แต่ตนบวชแค่ 7 วัน ไม่ได้บวชแล้วไม่สึก และถ้าตนจะไม่คืนเงิน ตนจะนำโฉนดที่ดินไปให้ทำไม ขณะนี้ ติดค้างเงินกานต์อยู่ 50 ล้านบาท และดอกเบี้ยอีก 10 ล้านบาท ซึ่งเมื่อก่อนตนหาเงินได้วันละ 10,000-20,000 บาท แต่ตอนเกิดเรื่องขึ้น ตนแทบจะหาเงินไม่ได้แล้ว ซึ่งอยากบอกกานต์ว่า "อยากได้ไปฟ้องศาล"
เล่นแรง ‘กานต์’ อ้างท้อง!! หวังปั่นหัวแม่เสี่ยโป้ เจ้าตัว แฉคนบงการจนงานบวชล่ม (คลิป)
ส่วนที่กานต์บอกว่า ถูกคนของเสี่ยโป้ล้อมอยู่ที่วัดพร้อมกับถูกขู่นั้น เสี่ยโป้ บอกว่า ไม่ได้มีการข่มขู่ ตนอยู่ภายในกุฏิของเจ้าอาวาสวัด และกานต์บอกว่า "ไม่ต้องบวชแล้ว" ตนก็บอกว่า "จะบ้าเหรอ" ก่อนที่กานต์ จะไปบอกทางเจ้าอาวาสว่าไม่ให้ตนบวช โดยทางกานต์พาคนมาประมาณ 10-20 คนเสียด้วยซ้ำ แต่ตนไม่อยากทะเลาะด้วย เพราะคิดว่า "เรื่องที่เกิดขึ้น มีคนสั่งมา" ในเรื่องการทวงเงิน แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าใครโดยบุคคลนี้เป็นผู้มีอิทธิพล และทราบนิสัยตนดีว่าเป็นคนใจร้อน อย่างไรก็ตามเสี่ยโป้ยังคิดที่จะบวชต่อ หากมีโอกาสก็อยากบวชให้พ่อแม่ และอยากฝากถึงกานต์ว่า ถ้าไม่ให้บวชก็ไม่เป็นไร เพราะตนเชื่อว่า "เวรกรรมมีจริง" และไม่อยากให้กานต์ตกเป็นเหยื่อของบุคคลคนหนึ่งที่ให้มาทำลายตน
ขณะที่ กานต์ เปิดเผยว่า ตอนแรกตนยินดีมากที่ทราบว่าเสี่ยโป้จะบวชเพื่อศึกษาพระธรรม แต่ตนได้บอกไว้ว่า ให้มาขออโหสิกรรมตนเสียก่อน มิเช่นนั้นจะบวชไม่ได้ แต่เมื่อเสี่ยโป้ได้มาขออโหสิกรรมแล้ว ตนจึงนำผ้าไตรจีวรไปมอบให้เพื่อเป็นการยืนยันว่า ตนยินยอมให้เสี่ยโป้บวชได้
ขณะช่วงที่ตนได้นำผ้าไตรจีวร ไปมอบให้กับทางเสี่ยโป้ ตนกลับเห็นข้อความที่ทาง แม่เสี่ยโป้ โพสต์ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะคืนเงินให้ หลังจากเห็นโพสต์ดังกล่าว จึงทราบว่าทางเสี่ยโป้ไม่คิดจะรับผิดชอบกับเรื่องที่ยืมเงินไป และตนทราบว่าถ้าปล่อยให้ทางเสี่ยโป้บวชได้ ตนจะไม่มีสิทธิ์ทวงเงินที่เสี่ยโป้อย่างแน่นอน เนื่องจาก ตนคงไม่กล้าที่จะทวงเงินกับผู้ที่อยู่ในผ้าเหลือง
ตนจึงไม่ยินยอมให้เสี่ยโป้บวชเพื่อหนีปัญหา และได้เดินทางไปที่วัดประดู่บางจาก เพื่อคัดค้านการบวช แต่ทางครอบครัวของเสี่ยโป้ กลับมาโวยวาย ขณะนั้นตนจึงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในกุฏิพระ ไม่กล้าที่จะออกมา ในขณะที่ทาง "ต๋อง" มีการส่งคนมาดูแลตน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า "วัน อยู่บำรุง" ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
หลังจากนี้ กานต์จะเดินหน้าต่อสู้ในกระบวนการชั้นศาล ซึ่งขณะนี้ ได้มีการตั้งทนายในการดูแลคดีแล้ว ซึ่งในส่วนของเอกสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันจันทร์ที่ 9 เม.ย. ส่วนที่เสี่ยโป้ออกมาบอกว่า มีผู้อยู่เบื้องหลัง กานต์ก็บอกว่าเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้มาเป็นเบื้องหลังการบวช แต่เป็นเรื่องอื่น ซึ่งบุคคลที่อยู่เบื้องหลังตนมีจำนวนมาก และกลุ่มคนเหล่านี้เป็นโจทก์เสี่ยโป้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับเสี่ยโป้ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาวแต่อย่างใด แต่เป็นแค่เรื่องของการทำงานตามข้อตกลงเท่านั้น และสิ่งที่ตนต้องการตอนนี้คือ เงิน เท่านั้น อยากบอกเสี่ยโป้ด้วยว่า "เอาเงินมาคืนตนเสียดีกว่า" เพราะถือว่าผิดสัญญาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะมีมากหรือน้อย ก็อยากให้ทยอยคืนเงิน ตามงวดที่มีการตกลงกันไว้ คืองวดวันที่ 2, 4, 5 และ 15 เม.ย. และยืนยันว่าตนสามารถกลับไปคุยกับเสี่ยโป้ได้อีก ถ้ามีการจัดการเรื่องเงินได้ตามที่ตกลงกันไว้ เพราะตนโกรธใครได้ไม่นาน
นอกจากนี้ เรื่องที่มีกระแสข่าวว่า ตนไปบอก "แม่เสี่ยโป้" ว่าท้องนั้น ตนพูดจริง แต่เป็นเพียงการปั่นหัวแม่เสี่ยโป้เท่านั้น เพราะรู้ว่าเสี่ยโป้กลัวใคร แต่เรื่องที่บอกว่าจะฆ่าตัวตายนั้น ตนคิดจะทำจริง เนื่องจาก เสียใจที่เสี่ยโป้นำเงินไปผลาญ และเมื่อตนเรียกให้มาเซ็นสัญญา แต่แม่เสี่ยโป้กลับไม่ยอมเซ็น ขนาดที่ตนร้องไห้ก็ยังไม่มีใครสงสาร
โดยช่วงเวลานั้น ตนคิดจะโทรหาเสกด้วย เพราะรู้สึกที่ทำผิดต่อเสก ทำผิดต่อครอบครัวที่นำเงินไปให้ ถึงขั้นรับไม่ได้ จนคิดอยากตายไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปในสังคม ส่วนเรื่องทองที่มีการไปจำนำนั้น ตนไม่ได้เป็นคนให้ เพราะเสี่ยโป้เป็นคนนำไปเอง