ฤทธิ์พายุฤดูร้อนถล่มกรุงฝนตกตั้งแต่เช้าน้ำเอ่อท่วมถนน กทม.เร่งเก็บขยะหน้าตะแกรงตลอดคืน ขณะที่สำนักการจราจรฯ (สจส.) สั่งตรวจดูความแข็งแรงป้ายรถเมล์กว่า 2 พันจุดในกทม.หวั่นพังซ้ำ ด้านสระแก้วฝนตกกระหน่ำน้ำป่าเขาบรรทัดไหลทะลักตัดขาดถนนเข้าหมู่บ้าน ส่วนอุทัยธานีเกิดฝนตกหนักนาน 24 ชั่วโมงน้ำซัดคนงานก่อสร้างขี่จยย.ฝ่ากระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวพัดจมลำห้วยดับอนาถ 1 ราย ส่วนเพื่อนอีกคนว่ายเข้าฝั่งรอดตายได้หวุดหวิดจากกระแสน้ำวน
เตือน!!! รับมืออีกวันนี้ พายุฤดูร้อนถล่มกรุง กทม.สั่งล้อมคอก ตรวจป้ายรถเมล์
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่กรุงเทพฯ มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัดคลองแสนแสบ เขตบางกะปิ 86.5 ม.ม. สำนักงานเขตสวนหลวง 73.5 ม.ม. สำนักงานเขตสะพานสูง 57.5 ม.ม. สำนักงานเขตลาดพร้าว 38.5 ม.ม. ประตูระบายน้ำวัดกระทุ่มเสือปลา เขตประเวศ 32.5 ม.ม. ส่งผลให้มีน้ำท่วมบนถนนระดับความสูง 10-30 เซนติเมตร ยาว 100-3,000 เมตร กว้างเต็มผิวจราจร ที่สำนักการระบายน้ำรับผิดชอบ 12 จุด ดังนี้ 1.แยกสะพานควาย ถ.ประดิพัทธ์ เขตพญาไท 2.แยกสะพานควาย-ซ.8 ถ.พหลโยธิน เขตพญาไท 3.แยกพญาไท-ร.ร.สันติราษฎร์ ถ.ศรีอยุธยา เขตราชเทวี 4.หอนาฬิกา-ตลาดห้วยขวาง ถ.ประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง 5.แยกรัชโยธิน-ธ.กรุงเทพ ถ.รัชดาภิเษก เขตจตุจักร 6.เชิงสะพานซังฮี้ ถ.ราชวิถี เขตดุสิต 7.ปากซ.ชินเขต ถ.งามวงศ์วาน เขตหลักสี่ 8.แยกเกษตร-แยกเสนา ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร 9.กรมการขนส่ง ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร 10.ถ.ผดุงด้าว-แยกหมอมี ถ.เจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ 11.หน้ากรมปศุสัตว์ ถ.พญาไท เขตราชเทวี และ 12.ซ.อินทามระ 45-55 ถ.ประชาสุข เขตดินแดง
นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าจะมีฝนตกร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยสำนักการระบายน้ำได้มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ รวมถึงตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการเดินเครื่องสูบน้ำ เจ้าหน้าที่เดินเก็บขยะหน้าตะแกรงมาตลอดทั้งคืน ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าเนื่องจากมีกลุ่มฝนตกลงมาหนักอีก
นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพ มหานคร กล่าวหลังลงพื้นที่บริเวณอาคารรับน้ำวิภาวดี และอาคารรับน้ำรัชดาภิเษก ว่า ขอแจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลสภาพอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมทั้งขอให้เตรียมความพร้อมรับมือสาธารณ ภัย โดยการตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร จัดเก็บสิ่งของและหาสิ่งปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์จากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สภาพอากาศ และปัจจัยสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อประสานและบูรณาการหน่วยงาน เครือข่าย ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกล และแผนปฏิบัติการเผชิญเหตุ รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนว่า จะเกิดพายุฤดูร้อนในประเทศไทยในช่วงสัปดาห์นี้ซึ่งจะมีผลกระทบกับกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.เป็นต้นไป ขอให้ทุกคนไม่ประมาท เพราะช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนจะเกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และมีฟ้าผ่า ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง เพราะอาจได้รับอันตรายจากฝุ่น ลม ฟ้าผ่า ต้นไม้ล้ม และป้ายโฆษณา
นายธนูชัย หุ่นนิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เปิดเผยว่า สำหรับป้ายรถเมล์หรือศาลาพักผู้โดยสารที่อยู่ในการดูแลของกทม.มีประมาณ 2,000 แห่ง ยังไม่รวมกับป้ายรถเมล์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น ปัจจุบัน สจส.ได้มีการยกเลิกสัญญาการให้สิทธิบริษัทเอกชนดูแลบำรุงรักษาและติดตั้งป้ายโฆษณาศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางซึ่งเอกชนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้ง 2 สัญญา แบ่งเป็นกลุ่มเอ (A) และกลุ่ม ซี (C) รวม 1,054 หลัง โดยได้จ้างเอกชนเข้ามาดูแลบำรุงรักษาป้ายรถเมล์หรือศาลาพัก ผู้โดยสารอย่างชั่วคราว โดยได้กำชับให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของป้ายรถเมล์หรือศาลาพักผู้โดยสาร การทำความสะอาด และการซ่อมบำรุงไฟส่องสว่างอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลุ่มบี (B) ยังไม่หมดสัญญาจ้างกับเอกชน ซึ่งในกลุ่มนี้ เอกชนได้ดูแลบำรุงรักษาป้ายรถเมล์หรือศาลาพักผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาท สจส.ได้กำชับให้ดูแลอย่างเข้มข้นและทั่วถึง เนื่องจากระยะนี้เกิดพายุฤดูร้อน ทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง อย่างไรก็ตามป้ายรถเมล์หรือศาลาพักผู้โดยสารที่อยู่ในการดูแลของกทม. ได้มีการออกแบบให้หลังคามีส่วนโค้ง เมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำจะไหลลงทันที ไม่มีน้ำขังบนหลังคา ซึ่งกรณีป้ายรถเมล์หรือศาลาพัก ผู้โดยสารหน้า ปตท. สำนักงานใหญ่ ถนน วิภาวดีฯ ขาออก พังถล่มลงมานั้น หลังคาเป็นแบบกว้าง ไม่มีส่วนโค้ง เมื่อเกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำขังบนหลังคามากจนหลังคารับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้พังถล่มลงมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น. รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พายุฝนได้กระหน่ำลงมาอย่างหนักตั้งแต่เช้า และตกติดต่อกันอยู่หลายชั่วโมง ล่าสุดน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักลงมาท่วมพื้นที่ทางการเกษตรจำนวนหลายหมู่บ้านและไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนจำนวนหลายหลัง นอกจากนี้ น้ำที่ไหลลงมาจากเขาบรรทัดอย่างเชี่ยวกรากได้กัดเซาะถนนสายโคกแจก-บ้านหนองบัว หมู่ 4 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา ซึ่งเชื่อมต่อไปยังบ้านหนองบัว หมู่ 4 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา ถูกน้ำแทงขาดกว้างถึง 4 เมตร ถนนเส้นนี้ยาวประมาณ 4 กิโลเมตรทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านโคกแจกกว่า 100 หลังคาเรือนถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรผ่านมาตลาดได้ เนื่องจากถนนที่เชื่อมออกมาจากหมู่บ้านโคกแจกมายังบ้านสะแงก็ถูกน้ำเอ่อท่วมรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ต้องใช้รถทางการเกษตรลำเลียงคนออกมาเพื่อเดินทางเข้าตลาด
นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นอภ.ตาพระยา ได้รุดตรวจสอบร่วมกับนายกอบต. กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น พบว่ามีบ้านเรือนประชาชน หมู่ 1 ต.ตาพระยา จำนวน 5 หลังคาเรือน บ้านคลองแผง หมู่ 10 จำนวน 10 หลังคาเรือน ต.ทัพเสด็จ 30 หลังคาเรือน นอกจากนั้นไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านยังถูกน้ำท่วมเสียหายหลายร้อยไร่
ด้านนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผวจ.สระแก้ว สั่งการให้ปภ.จังหวัดลงตรวจสอบร่วมกับนอภ. อบต. พร้อมสั่งกำชับให้ติดตามสถาน การณ์อย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกลงมาอีกในคืนนี้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ผวจ.ก็จะลงพื้นที่เพื่อมอบถุงยังชีพช่วยเหลือต่อไป
ต่อมาเวลา 16.30 น. ร.ต.อ.ธีระพล นันท์สังข์ ร้อยเวรสภ.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีน้ำป่าพัดพาชาวบ้านจมน้ำเสียชีวิตที่เกิดเหตุบนถนนในหมู่ที่ 1 บ้านหน้าฝาย ต.บ้านไร่ จึงพร้อมด้วยมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานีไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุมีน้ำป่าลักษณะขุ่นสีแดงไหลเชี่ยวหลากข้ามถนนของหมู่บ้านมีชาวบ้านหลายสิบคนมุงดูเหตุการณ์ผู้จมน้ำเสียชีวิต 1 ราย และรอดตาย 1 คน นอกจากนี้ยังมีรถจยย.ถูกน้ำพัดพาจมน้ำหายไปอีก 1 คันกู้ภัยช่วยกันงมหาร่างของผู้เสียชีวิตพบคือนายภูดิษ ทองกลาง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.2 บ้านห้วยแห้ง ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากและหมุนวนหนุนดูดร่างผู้ตายจมหายก่อนมาติดกับกอไผ่ริมคลองห่างจากถนน 5 เมตร จึงนำขึ้นฝั่งพบว่าเสียชีวิตแล้ว
สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นคนงานก่อ สร้างบริษัทรับเหมาทำถนนแห่งหนึ่งภายในหมู่บ้านได้ซ้อนรถจยย.ฮอนด้า ทะเบียน กรบ 482 กทม. ของนายเซ่ฝา แซ่ตัน อายุ 39 ปี กลับบ้านหลังเลิกงานมาถึงที่เกิดเหตุเป็นจังหวะที่มีน้ำป่าไหลหลากข้ามถนนอย่างเชี่ยวกราก ผู้ตายได้ลงเดินแต่นายเซ่ฝาได้เสี่ยงขี่รถจยย.ข้ามถนนโดยมีผู้ตายดันหลังจยย.มาถึงช่วงกลางถนนกระแสน้ำที่ไหลรุนแรงได้พัดเอารถจยย.และคนขี่ลื่นไถลไปกับน้ำ ผู้ตายเห็นดังนั้นจึงพยายามจะเข้าไปช่วยดึงรถแต่ไม่สามารถทัดทานกระแสน้ำที่พัดแรงได้ถูกน้ำป่าที่เกิดจากฝนตกหนักมานาน 24 ชั่วโมงพัดร่างทั้ง 2 คนจมหายไป คาดผู้ตายหมดแรงและถูกกระแสน้ำวนพัดร่างไปติดกอไผ่เสียชีวิตในที่สุด ส่วนนายเซ่ฝาที่รอดชีวิตแข็งใจว่ายน้ำเข้าหาตลิ่งแล้วเกาะกิ่งไม้เอาไว้ทำให้รอดตายในที่สุด
ที่มา : ข่าวสด