สมาชิกเฟซบุ๊ก "Golfz Saensabai" โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์สุดอึ้งหนุ่มหอบเหรียญสลึง 300 บาทถ้วนจ่ายค่าปรับ แต่โดนตำรวจสวนกลับแจงกฎหมายให้ใช้เหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ ชำระเงินได้ครั้งละไม่เกิน 10 บาท ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเงิบต้องควักธนบัตรมาจ่ายโดยเร็ว และต้องโกยเหรียญกลับบ้าน
ทั้งนี้พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 11 "เหรียญกษาปณ์เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไม่เกินจำนวนที่กำหนดโดยกฎกระทรวง" (เหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้คราวละ 10 บาท)
ด้านนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนมีเหรียญกษาปณ์ที่เก็บไว้ที่บ้านเพราะความไม่สะดวกในการนำมานับแลกเหรียญเปลี่ยนเป็นธนบัตร ส่งผลให้เหรียญกษาปณ์เหล่านี้ ถูกวางไว้ที่บ้านมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนเหรียญกษาปณ์ทั้งหมดที่ผลิตออกมามูลค่ารวม 54,000 ล้านบาท และทำให้กรมต้องผลิตเหรียญเพิ่มเติม
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กรมธนารักษ์โดยส่วนบริหารเงินตรา จึงศึกษาการบริหารจัดการเหรียญกษาปณ์สมัยใหม่ที่มีการดำเนินการอยู่ในต่างประเทศ ที่เปิดโอกาสให้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ทั่วประเทศ
โดยเอกชนจะตั้งเครื่องนับและรับแลกเหรียญตามห้างสรรพสินค้า และสาขาของนาคารพาณิชย์ต่างๆ จากนั้นจะออกสลิปเพื่อให้ผู้แลกนำไปขึ้นเงินต่อไป สำหรับเหรียญที่รับแลกแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหรียญชำรุดออกและทำความสะอาดเหรียญที่ยังสมบูรณ์เพื่อบรรจุถุงเพื่อนำกลับไปใช้ในระบบเศรษฐกิจประเทศต่อไป