ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 สิงหาคม ที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. รรท.ผบก.น.1 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. รรท.ผบก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รองผบก.น.1 รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่ น.ส.เอ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วิราลักษณ์ หลังใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพวิดีโอ ของ น.ส.เอ ในลักษณะเปลือย อันเป็นการกระทำลามก อนาจาร และถูกส่งต่อ เผยแพร่ลงสังคมออนไลน์ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้
พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวว่า จะสอบปากคำว่า น.ส.วิราลักษณ์ วาโทรศัพท์หายตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ ส่วนการที่ น.ส.วิราลักษณ์ ระบุว่า ได้นำคลิปดังกล่าวส่งต่อให้เพื่อนสนิทดูเท่านั้น ถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำ น.ส.เอ เบื้องต้นให้การว่าวันเกิดเหตุเดินทางไปห้องดังกล่าว เนื่องจากจะไปหาเพื่อนของเพื่อน คาดว่าเมื่อ น.ส.เอ และผู้ชายคนดังกล่าวเจอกันแล้วก็น่าจะถูกใจกัน จนกระทั่ง น.ส.วิราลักษณ์ ผู้ถูกกล่าวหาไปพบเจอ และเกิดเหตุการณ์ตามในคลิปดังกล่าว
ต่อมาเวลา 13.45 น. น.ส.วิราลักษณ์ พร้อมน.ส.เนตินาฎ ยวงสะอาด ทนายความจากมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.สมพงษ์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี โดยระหว่างที่ผ่านผู้สื่อข่าวและกล้องของสื่อมวลชน น.ส.วิราลักษณ์ ได้ยกมือไหว้ตลอดทาง
น.ส.วิราลักษณ์ กล่าวว่า มารับทราบข้อกล่าวดังกล่าวทั้ง2ข้อหา ยอมรับกับความผิดที่กระทำลงไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายถึงขนาดนี้ อยากขอโทษนายแฟนหนุ่ม ครอบครัวแฟนหนุ่ม น.ส.เอ และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตนทำลงไป นอกจากนี้อยากให้กรณีของตนเป็นกรณีตัวอย่าง ให้ทุกคนเห็นว่าสื่อโซเชียลรุนแรงมาก และการกระทำโดยไม่คิดส่งผลร้ายรุนแรงกับตัวเรามาก ตอนนี้ตนรู้สึกแย่ และเครียดมาก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบกับตัวเอง กับงาน และทุกๆด้าน จนไม่มีที่ยืนในสังคม แต่ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ตนทำจริงๆ
น.ส.วิราลักษณ์ กล่าวทั้งน้ำตาด้วยว่า พยายามโทรศัพท์หาน.ส.เอ เพื่อขอโทษ และพูดคุยไกล่เกลี่ย แต่น.ส.เอ ไม่รับทราบ เข้าใจว่ายังไม่พร้อมพูดคุยกับตน ยืนยันว่าอยากขอโทษกับสิ่งที่ทำไป กับอารมณ์โกรธที่ไม่ได้ยั้งคิด แต่ก็อยากขอความเห็นใจเช่นกัน ว่าหากเป็นใครเจอแบบนั้นก็อาจจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ ขอโทษที่ทำให้น.ส.เอ เดือดร้อน และเสื่อมเสีย อย่างไรก็ดีในส่วนของแฟนหนุ่มตั้งแต่เกิดเรื่องก็ห่างกัน และเพิ่งจะได้พูดคุยกันเมื่อวันที่10สิงหาคม โดยแฟนหนุ่มยอมรับผิดว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องดังกล่าว แต่ในส่วนของเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุนั้น ทางแฟนหนุ่มเล่าเรื่องราวให้ฟังแล้ว ตนยังไม่พร้อมพูดรายละเอียดเรื่องดังกล่าวกับสื่อ
ด้านพ.ต.อ.นครินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำน.ส.วิราลักษณ์ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะแจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ ข่มขืนใจหรือบังคับขืนใจให้กระทำการ หมิ่นประมาท ดูหมิ่นซึ่งหน้า และกระทำการให้ได้รับความอับอาย จากนั้นจะนัดน.ส.วิราลักษณ์ ไปพบที่ศาลแขวงพระนครเหนือในวันที่ 13 สิงหาคม เวลา 09.00 น. เพื่อฝากขัง
ต่อมานายตอง (สงวนชื่อจริง) ลูกชายนางสาวไทยคนหนึ่ง แฟนหนุ่มของน.ส.วิราลักษณ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดีดังกล่าว โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ น.ส.วิราลักษณ์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก Manow Sutthiprapa ว่า "โดนกล่าวหาว่าถือปืน.....ทั้งที่มีแค่มือ.....คือสังคมไทยเป็นอะไรกันไปหมด...ต้องหาพยาน ต้องเตรียมเงินประกันตัวเอง 100,000 บาท จะหามาจากไหน?แค่ลำพังแค่นี้ก็โดน...ไม่มีชิ้นดี..ต้องหาพยานต้องหาเงิน..คือเราไม่ได้รวย!!เราเป็นหัวหลักครอบครัว!!!ป๊าเราก็เป็นอัมพาต แม่เราช่วยไม่ได้ เพราะเราช่วยครอบครัว ทุกวันนี้รู้ว่านาวทำผิดที่ถ่าย...แต่ไม่คิดว่าจะซ้ำเติมกันกันขนาดนี้ หนูจะหามาจากไหน..มะนาวขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ ค่ะขอบคุณที่เข้าใจความรู้สึกของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ขอบคุณจากใจค่ะทุกคน แต่นาวจะรับไม่ไหวแล้วจริงๆ"