จากกระแสดราม่า ร้องเรียน ให้ระงับการฉายมิวสิกวิดีโอ เที่ยวไทยมีเฮ ที่ใช้ทศกัณฐ์ มาเป็นตัวละครหลักดำเนินเรื่อง ซึ่งผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) ให้เหตุผลว่าไม่ได้ติดใจการพาทศกัณฐ์หรือนางในวรรณคดีไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ติดใจที่ ทศกัณฐ์ ซึ่งถือว่าเป็นราชาแห่งยักษ์ทั้งปวง รวมถึงยังเป็นตัวละครในวรรณคดีที่สง่างาม น่าเกรงขาม ทำกิจกรรมไม่เหมาะ เช่น หยอดขนมครก, ขับโกคาร์ท, ถ่ายเซลฟี่, ขี่บั้งไฟ เป็นต้น
กรณีดังกล่าวทำให้มีการถกเถียงเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย กระทั่งล่าสุดมีชาวเน็ตรายหนึ่งที่ออกมาประกาศตัวว่าเป็นคนที่เรียนและทำงานสายนาฏศิลป์ไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
ประกาศท้ารบทีมงานที่ทำโฆษณา ยักษ์เที่ยวไทย ด้วยเงินเดิมพัน 1 ล้านบาท ซึ่งพบว่า มีการโต้ตอบกรณีที่ใช้ตัวละครอย่างไม่เหมาะสม จึงท้าว่า หากทำงานออกมาใหม่ให้สังคมตัดสิน ถ้าสังคมชอบงานของใครมากกว่ากันก็จะได้เงิน 1 ล้านบาท
โดยระบุว่า หากชนะจะเอาเงินไปทะนุบำรุงวงการนาฏศิลป์ต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ศิลปวัฒนธรรมไปหากิน โดยพบว่า ต่อมามีการลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไป
ทั้งนี้ สมาชิกเฟซบุ๊ก Niphon Saengpueng ได้นำมาโพสต์อีกครั้งโดยระบุว่า
"มีผู้ใหญ่ไม่ประสงค์ออกนามท่านหนึ่ง ต้องการจะรับคำท้า วางเดิมพันเงินสด ฝ่ายละ 1 ล้านบาท
ให้คุณผลิตงานตามเงื่อนไขเดียวกับหนังโฆษณาที่เป็นประเด็น ถ้าสังคมตัดสินว่าถูกใจใครมากกว่า(กระบวนการตัดสินตกลงในรายละเอียดกันต่อไป)
ชนะ รับเงินเดิมพันไป ข้อตกลงนี้เพื่อความเชื่อมั่น จะทำสัญญา วางเงินสด ต่อหน้ากันที่กรมศิลปากรเชิญนางสาวลัดดามาเป็นสักขีพยานก็ได้ครับ
จะรอคำตอบจากคุณโทนะครับ"
ทำให้ดราม่าดังกล่าว เริ่มบานปลายกลายเป็นข้อถกเถียงที่ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆในโลกออนไลน์