เพจ China Xinhua News รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ภาพของ Saida Ahmad Baghil เด็กสาวชาวเยเมนได้รับความสนใจไปทั่วโลก เพราะถึงแม้เธออายุได้เพียง 18 ปี แต่กลับเป็นโรคขาดสารอาหารอย่างรุนแรง จึงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล Al-Thawra ในเมือง Al Hudaydah ประเทศเยเมน
สำนักข่าว Reuters ระบุว่า เนื่องจากร่างกายเธออ่อนแอมาก จึงไม่สามารถนั่งตัวตรงหรือทานอาหารได้ ได้แต่ประทังชีวิตด้วยน้ำผลไม้ นม และชาเท่านั้น นางพยาบาลของเธอเล่าว่า "การเจ็บป่วยของเธอเกิดขึ้นเพราะปัญหาความยากจนและสงครามในประเทศ"
เนื่องจากประเทศเยเมนอยู่ภายใต้สงครามกลางเมืองเพื่อต้องการแบ่งแยกประเทศ รวมถึงปัญหากลุ่มหัวรุนแรงต่างๆได้แก่ กลุ่มอัลเคด้า และกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) มาเป็นเวลาเนิ่นนาน ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคม 2015 เมืองซาน่า (Sanaa) เมืองหลวงของเยเมนถูกกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธเข้ายึดครอง สงครามกลางเมืองรอบใหม่จึงปะทุขึ้นใหม่อีกครั้ง จนถึงปัจจุบันได้ดำเนินมายาวนาน 19 เดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพของ Baghili ทำให้ประชาคมโลกหันมาสนใจประเทศยากจนที่สุดที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอาหรับแห่งนี้ ว่ามีปัญหาด้านมนุษยธรรมที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนรออยู่
เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา สหประชาชาติ (UN) แถลงการณ์ว่า สถานการณ์ปัจจุบันในเยเมนนับเป็นวิกฤตการณ์ที่รุนแรงที่สุดในโลก โดยมีรายงานระบุว่า ครึ่งหนึ่งของประชากรเยเมนจากทั้งหมด 28 ล้านคนกำลังประสบกับปัญหาขาดแคลนอาหาร อีกทั้งเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบจำนวน 3 ล้านคนทั่วประเทศก็เสี่ยงที่จะขาดแคลนสารอาหารอย่างรุนแรง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว "เข้าขั้นวิกฤตที่รุนแรงที่สุด" แล้ว
ทั้งนี้ Baghili มาจากหมู่บ้าน Shajn ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ประสบกับปัญหาขาดแคลนสารอาหารตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว หลังจากสงครามกลางเมืองเริ่มปะทุขึ้น ความยากจนก็กระจายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้อาการเจ็บป่วยของเธอรุนแรงมากขึ้น หลังจากนั้นเพียงสองเดือน อาการของเธอก็เข้าสู่ขั้นวิกฤต ทั้งยังเป็นโรคบิดด้วย ด้วยความช่วยเหลือขององค์กรการกุศล ทำให้คนในครอบครัวสามารถพาเธอเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ในที่สุด