เมื่อวันที่ 15 มกราคม เฟซบุ๊ก "โอภาส นามสมมุติ" ได้เผยแพร่ลำดับคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ซึ่งต้องคดีขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย กระทั่งในภายหลังพบว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
เนื้อหามีดังนี้
ภาพรวมของกรณีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร
ต้องคดีขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย
สรุปจากคำพิพากษาศาลชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา (1)
1. วันที่ 11 มีนาคม 2548 เวลากลางคืนหลังเที่ยง (คือช่วงหัวค่ำก่อนเที่ยงคืน) เป็นวันเกิดเหตุ มีรถกระบะชนรถจักรยานที่นายเหลือ พ่อบำรุง ขี่สวนทางมาในช่องเดินรถสวน เป็นเหตุให้รถจักรยานเสียหาย และนายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิต
เหตุเกิดบนถนนสายธาตุน้อย -นาเหนือ ใกล้สะพานข้ามห้วยลำน้ำบัง บริเวณบ้านสร้างเม็ก ตำบลท่าลาด อำเภอเรณู จังหวัดนครพนม
นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ ขี่จักรยานยนต์ตามหลังรถกระบะมาจะกลับบ้านที่อำเภอนาแก พร้อมกับเพื่อนของนางทัศนีย์ อีก 3-4 คัน
นายแพง วงศ์แก้ว ขี่จักรยานตามหลังนายเหลือ พ่อบำรุงผู้ตายมา ห่างกันราว 50 เมตร
2. วันที่ 13 มิถุนายน 2548 นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร เข้ามอบตัวต่อร.ต.อ. ทงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง พนักงานสอบสวนสภ.อ.เรณูนคร จังหวัดนครพนม และปฏิเสธข้อหา
3. วันที่ 7 กรกฎาคม 2548 พนักงานอัยการจังหวัดนครพนม โดยนายนารยะชน พวงจันทร์หอม ยื่นฟ้องนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร เป็นจำเลย ข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายและไม่หยุดช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที
4. นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาและต่อสู้คดี โดยมีนายเกรียงไกร ปริญญาพล รับเป็นทนายความ
5. ศาลจังหวัดนครพนม โดยนายศุภกิจ แย้มประชา และนางสาวเนตรนารี สิริยากรนุรักษ์
มีคำพิพากษาลงวันที่ 25 สิงหาคม 2549 ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4) (8) , 47, 78, 157 และ 160 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐานขับรถโดยประมาทอาจเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือทรัพย์สิน ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือเดือดร้อนของผู้อื่น ขับขี่รถแซงรถอื่นล้ำเข้าไปในเส้นกึ่งกลางของทางเดินรถในขณะมีรถอื่นสวนทางมา และประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อันเป็นบทที่มีอัตราโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 3 ปี ฐานไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร และไม่ไปแสดงตัวกับแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 3 ปี 2 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
6. ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 โดยนายจักรกฤษณ์ อนันต์สุชาติกุล นายบุญชู ทัศนประพันธ์ นางมัณทรี อุชชิน
มีคำพิพากษาลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 ว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังมีเหตุอันควรสงสัยว่า จำเลยเป็นผู้ขับรถยนต์กระบะชนรถจักรยานที่ผู้ตายขับขี่หรือไม่ ซึ่งจำเลยได้ให้การปฏิเสธตลอดมา จึงเห็นควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นศาลอุทธรณ์ภาค 4 อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยไว้ระหว่างฎีกา
โจทก์ฎีกา
7. ศาลฎีกา โดยนายพศวัจน์ กนกนาค นายศิริชัย วัฒนโยธิน และนายทวีป ตันสวัสดิ์
มีคำพิพากษาศาลฎีกาลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556
ว่าพยานหลักฐานของโจทก์ ที่นำสืบมา รับฟังได้โดยปราศจากสงสัยว่า จำเลยขับรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บค 56 สกลนคร ชนผู้ตาย แล้วจำเลยไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร และไม่ไปแสดงตัวกับแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที จำเลยจึงมีความผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ขอบคุณ FB โอภาส นามสมมุติ
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday