ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 25 ก.พ. 60 จากเหตุการณ์ การเสียชีวิตของ นายอนวัช ธนเจริญณัฐ อายุ 64 ปี ที่ได้ผูกคอตนเองกับเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณตลาดกลางคลองหลวงที่คณะศิษย์วัดพระธรรมกายนั่งสวดมนต์อยู่ จนเป็นให้เสียชีวิตไปเมื่อค่ำวานนี้ (25 ก.พ.) จากนั้นฝ่ายวัดพระธรรมกายและศิษยานุศิษย์ ต่างก็ได้นำ กรณีนายอนวัช มาขยายผล พร้อมเรียกร้องขอให้ยกเลิกม.44 เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีต้องมีผู้เสียชีวิต
แต่ในขณะเดียวกัน ทางด้านฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามวัดพระธรรมกาย ก็ได้ออกมาตำหนิวัดพระธรรมกายว่า เพราะความดื้อด้านของพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ไม่ยอมทำตามกระบวนการทางกฎหมาย จนสุดท้ายต้องมีคนเสียชีวิตดังกล่าว
ล่าสุด นายพงศธร สัจจชลพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเป็นการเตือนสติสังคมทุกฝ่าย ที่กำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อีกทั้งยังเริ่มส่งสัญญาณความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากปล่อยไปแบบนี้อาจเกิดการรบราฆ่าฟัน กันครั้งใหม่เกิดขึ้น โดยมีข้อความทั้งหมดดังนี้
" พวกที่น่ากลัวที่สุดในสังคมไทยวันนี้ คือสื่อที่เจตนาเลือกเสนอความจริงด้านเดียว หรือครึ่งเดียว หรือแสดงทัศนะอย่างไม่บริสุทธิ์ใจ เพื่อโน้มน้าวสังคมให้รัก หรือเกลียดคนกลุ่มอื่น ไม่ว่าจะด้วยผลประโยชน์ การเมือง หรือเหตุผลอื่นใด สื่อประเภทนี้น่าจะเรียกว่า "บ่าง(ช่างยุ)มวลชน" ไม่ใช่ "สื่อมวลชน" เพราะทำหน้าที่ปั่นหัวให้ จิ้งหรีดกัดกัน หรือ เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน
คนเราเมื่อได้รับข้อมูลด้านเดียวมากเข้า จะคล้อยตาม มองปรากฏการณ์ด้านเดียวโดยไม่รู้ตัว ฝังหัว เกลียดชังคนเห็นต่าง ทนงตนว่าตัวเองมีข้อมูลมาก ใครที่พูด หรือแสดงความคิดที่ไม่ตรงกับที่ตัวเองรับรู้มา จะไม่เปิดใจรับ คิดว่าคนที่คิดต่างโง่งมงาย เกิดเป็นความขัดแย้ง เกลียดชัง ใช้ความรุนแรงทางวาจา ผรุสวาท ด่าทอคนเห็นต่าง ป้ายสีให้เขาว่าเป็นสีนั้นสีนี้ ความขัดแย้งจะขยายวง แปรเปลี่ยนไปเป็นความรุนแรงในสังคม สังคมไทยเคยเป็นสังคมแห่งมิตรไมตรี และเอื้ออาทร แม้มีความ "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" กลายเป็นสังคมที่ ทนความแตกต่างไม่ได้ มองคนเห็นต่างเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด. ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป อีกไม่นานคงได้เวลารบราฆ่าฟันกันรอบใหม่. คงหลีกเลี่ยงยากซะแล้ว "
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
