
ยังคงเป็นสถานการณ์ที่หลายคนให้ความสนใจ จากกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ประกาศใช้มาตรา 44 ให้วัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษร่วมกับเจ้าคณะจังหวัด ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจและสำนักพระพุทธศาสนา เพื่อเข้าจับกุมและดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมด้วยกำลังทหารและตำรวจ เข้าตรวจสอบบริเวณหลังสำนักงานโครงการคลองหลวงเมืองใหม่ ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งใช้เป็นพื้นที่เก็บน้ำหมักของ "ป้าเช็ง" พบพระภิกษุ สามเณร และคณะศิษย์วัดพระธรรมกาย และแรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยสแลนสีเขียวจำนวนมาก คีมลวดผูกเหล็ก กำลังช่วยกันล้อมสแลน เพื่อเตรียมขยายพื้นที่ในการชุมนุม เนื่องจากตลาดกลางคลองหลวงมีพื้นที่คับแคบ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปทำการสอบสวนต่อที่ บก.ต ชด.ภาค 1
จากการสอบรายละเอียด สามารถแยกเป็นพระ และ เณรจำนวน 11 รูป โดยในจำนวนนี้มีพระ 2-3 รูป ที่ไม่มีใบสุทธิ ส่วนสามเณรอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบวชจริงหรือไม่ ถ้าพบว่าบวชไม่จริงก็จะแจ้งความดำเนินคดีทันที ส่วนประชาชนที่ถูกควบคุมตัวมาพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว เดินทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานี จึงร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบรายละเอียด โดยหากพบความผิดก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และขยายผลต่อไปเพราะมีการข่าว รวมถึงหลักฐานทางไลน์เชื่อได้ว่ากลุ่มคนดังกล่าว มีเจตนาการย้ายถิ่นฐานจากตลาดกลางคลองหลวงมาที่พื้นที่ของป้าเช็ง เพื่อเตรียมการก่อความไม่สงบในพื้นที่
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนพบหลักฐานการสั่งการ. การโอนเงินเข้าบัญชีภายในกลุ่มพระสงฆ์จำนวน 1 แสนบาท โดยระหว่างนี้ขอเวลาตรวจสอบความเชื่อมโยงกับรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อน นอกจากนี้จากการค้นโทรศัพท์ยังพบข้อความการชักชวนให้ชุมนุมก่อความไม่สงบ ส่วนเจ้าของตลาดป้าเช็งดีเอสไอยังไม่พบความเชื่อมโยงการกระทำผิด
ล่าสุด มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ในกลุ่มพระและเณรดัวกล่าว จากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากของพระชื่อ เสถียรที่มาจากวัดแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี พบว่ามีเงินเกือบ 13 ล้านบาทอยู่ในบัญชี โดยพระเสถียรอ้างว่าเป็นเงินเก็บส่วนตัว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอกำลังเร่งประสาน ปปง.ดำเนินการตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินดังกล่าวอยู่ว่าเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายหรือไม่.
ขณะบนเฟซบุ๊ก "ปิติกรณ์ เพชรทักษิณ" ได้เเสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ด้วยเช่นกันว่า "หลังจากเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ นำกำลังตรวจค้นโกดังเก็บน้ำหมักป้าเช็ง ก่อนนำตัวพระ 2 รูป และเณร 9 รูป กับฆราวาสและคนงานรวม 23 คน มาสอบสวน เบื้องต้นจากการตรวจสอบบัญชีเงินฝากของพระชื่อเสถียร ที่มาจากวัดแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี มีเงินเกือบๆ 13 ล้านบาท อยู่ในบัญชี โดยพระเสถียรอ้างว่าเป็นเงินเก็บส่วนตัว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดีเสไอ ได้ประสาน ปปง. ดำเนินการตรวจสอบที่มาที่ของเงินดังกล่าวอยู่ ว่าเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายหรือไม่
แบบนี้เห็นทีต้องเรียกว่า "บวชแล้วรวย สึกแล้วก็รวย" รวยทั้งขึ้นทั้งล่อง ต้องยอมรับว่าวัดพระธรรมกายเขาดี สอนพระสอนเณรให้รู้จักเก็บรู้จักออม และทำมาค้าขาย อย่างรายก่อน นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล อดีตพระวัดพระธรรมกาย ซึ่งเพิ่งสึกได้ 3-4 ปี ก็มีเงินในบัญชีนิดหน่อย แค่ 4,423 ล้าน อ่านว่า สี่พันสี่ร้อยยี่สิบสามล้านบาท สอบถามก็ทราบว่า เป็นเงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของลูกชาวบ้านจนๆ ที่ไปอาศัยข้าวแดงแกงร้อนวัดพระธรรมกายชุบชีวิต ได้รับความอุปถัมภ์จากญาติโยมผู้เลื่อมใสศรัทธา นำเอาข้าวปลาอาหารมาถวาย "พอประทังชีพ" แต่ด้วยความอัจฉริยะ จึงเกิดความคิดสร้างสรรค์ "ค้าเพชรค้าพลอย" ตั้งแต่อยู่ในผ้าเหลือง ในกำแพงเมืองธรรมกาย สึกออกมาได้ไม่กี่ปี ก็เข้าที่เข้าทาง รวยไม่รู้เรื่อง ตั้งหลายพันล้าน ครูบาอาจารย์และเหล่ากัลยาณมิตรได้เห็นแล้วก็น่าภาคภูมิใจ ที่มีศาสนทายาทเก่งกาจระดับโลก
วันนี้ มีอัจฉริยะบุคคลสายธรรมกาย โผล่ที่อุบลราชธานีอีกพระหน่อหนึ่งแล้ว คือ พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประธานสงฆ์ธุดงคสถานอุบลราชธานี ที่มีเงินเกิน 10 ล้าน แต่ยังขอข้าวชาวบ้านกิน มีเงินได้บัญชีตั้ง 13 ล้าน ตอบคำถามได้สะอาดมาก "เป็นเงินเก็บส่วนตัว" แต่ไม่บอกว่า เก็บมาจากไหน ถูกหวยงวดละเท่าไหร่ ? แต่ว่ากันว่า "ส.เสถียร" น่ะ ยังรวยไม่จริงหรอก ถ้าเอาบัญชี "ห้าเสือ" มากาง ก็อาจจะ..ตะลึง แต่ละรายน่าจะเกินร้อยล้าน เผลอๆ เหยียบ..พันล้าน






กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday