โควิดสุดร้าย กลายพันธ์ล่าสุดติดได้เร็ว รุกรานเซลส์มนุษย์สูงกว่าเดิม

เพจ Drama-addict เปิดเผยข้อมูลล่าสุด ว่าด้วยการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่นักวิจัยพบว่า การกลายพันธ์ล่าสุดนั้นร้ายแรงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากนั้นยังมีผลให้การผลิตวัคซีนล่าช้าออกไปอีก

โดยโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า

ข่าวล่าสุดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการวิจัยไวรัสที่ทำให้เกิดโรค covid-19

อย่างที่ทราบว่า พอคนติดเชื้อกันเยอะๆ ไวรัสมันก็จะมีการกลายพันธ์เกิดรุ่นลูกหลานเหลนโหลนได้หลายสายพันธ์

ตอนนี้นักวิจัยมีการตีพิมพ์งานวิจัยเกี่ยวกับ covid-19 ที่มีการกลายพันธ์ D416g เป็นลูกหลานของสายพันธ์ A ที่มีการกลายพันธ์จนเกิดการเปลี่ยนแปลงของสไปค์โปรตีน ไอ้รูปหนามๆที่เป็นโครงสร้างชั้นนอกของไวรัสน่ะ จาก D (aspartic acid) เป็น G (glycine) ซึ่งตัวนี้ เวลาอ่านโพสของนักวิจัย ตปท ที่เขาถกกันเขาจะเรียกย่อๆว่า

"G" mutation

สื่อบางเจ้าก็เอาไปพาดหัวเป็น G strain นะนั่น

จากข้อมูลพบไวรัสตัวนี้ที่ว่านี้กำลังแพร่ระบาดในยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย

ปรกติ การที่ไวรัสตัวนึง จะกลายเป็นโรคระบาดที่แพร่ไปทั่วโลกได้ จะต้องมีการบาลานซ์ระหว่าง ความสามารถในการแพร่ระบาด และความรุนแรง

ประมาณว่า ถ้าโรคมันรุนแรงเกินไป เช่น อีโบล่า ติดแล้วโอกาสตายแทบจะแน่นอนและป่วยรุนแรงในเวลาสั้นๆ โรคพวกนี้ ไม่ค่อยระบาดไกลมาก เพราะคนติดเชื้อส่วนมาก จะป่วยหนัก และตายในเวลาอันสั้น ก่อนจะมีโอกาสแพร่ไปยังคนอื่น

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา โรคระบาดระดับโลกทุกโรค ล้วนอยู่ในจุดที่บาลานซ์กันระหว่างความรุนแรง และความสามารถในการแพร่ระบาด

ส่วนไอ้สายพันธ์ G ตัวที่ว่านี่ มีนักวิจัย ตปท.ตั้งสมมุติฐานว่าอาจจะมีความสามารถในการติดต่อแพร่กระจายสูงกว่า และอาจมีความสามารถในการรุกรานเซลล์มนุษย์สูงกว่าเดิม โดยนักวิจัยพบว่า คนที่ติดเชื้อไวรัสตัวนี้ จะมีปริมาณไวรัสในเลือดสูงกว่าสายพันธ์อื่นๆ

แต่อันนี้อยู่ระหว่างวิจัยเพิ่มเติม ต้องรอนักวิจัยเขาอัพเดทข้อมูลกันต่อไป ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามันรุนแรงกว่าสายพันธ์เดิม

แต่ยังไงก็ดี การที่พบสายพันธ์ใหม่ตัวนี้ที่กำลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว อาจจะมีผลกระทบต่อการพัฒนาวัคซีนแน่ เพราะตอนนี้นักวิจัยทั่วโลก ใช้สายพันธ์ดั้งเดิมจากอู่ฮั่นในการพัฒนาวัคซีน

แต่บ้านเรานี่โชคดีอย่าง คือในไทยก็มีสถาบันวิจัยจีโนม และเขาจะเอาไวรัสที่ตรวจพบเจอในบ้านเรามาตรวจรหัสพันธกรรม เห็นว่า ไวรัสที่มีในบ้านเรา มีการกลายพันธ์จากตัวที่ระบาดในอู่ฮั่นน้อยมากๆ แต่คงต้องรอดูผลวิจัยจากนักวิจัยทั่วโลกกันต่อไป ใครสนใจเรื่องการศึกษาจีโนมของไวรัสตัวนี้ เชิญไปส่องกันที่เพจ @Center for Medical Genomics เป็นเพจศูนย์วิจัยจีโนมของมหิดลครับ