ฉาวอีก! จ่อเอาผิดผีน้อย คลอดลูกในเกาหลี ไม่ไป รพ. ปล่อยทารกดับ

เเฟนเพจเฟซบุ๊ก ไทยกุกข่าวเกาหลี #Thaikuk News ได้โพสต์เรื่องราวของสาวไทยคลอดลูกที่บ้านพักไม่ยอมไปโรงพยาบาล สุดท้ายทารกเสียชีวิต

พบผีน้อยสาวไทยคลอดลูกแต่ไม่ไปโรงพยาบาลทำให้เด็กเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ศาลแขวงโซลเผย เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ได้มีคำสั่งตัดสินจำคุก หญิงไทย เอ (37) เป็นเวลา 2 ปีและคุมประพฤติ 3 ปี ฐานให้กำเนิดบุตรแต่หลังคลอดเธอไม่ได้ดูแลทารกในฐานะแม่ ทำให้ทารกดับหลังคลอด

ศาลเผยหลังการพิจารณาคดี เธอเป็น ผีน้อยชาวไทย ที่ลักลอบเข้ามาทำงานในเกาหลีและพลาดท้อง หลังท้องใกล้คลอดเธอไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากใครเนื่องด้วยตนเป็นผีน้อย และกลัวถูกส่งกลับไทย นั่นคือสิ่งที่เธออ้าง

29 มี.ค. 2020 เธอคลอดลูกในกวานนัก-กู แต่เธอไม่ได้ดูแลทารก และไม่ให้นมทารก และไม่นานทารกน้อยก็จากไป แต่ผู้เป็นแม่ไม่แม้แต่จะโทรเรียกรถฉุกเฉินเข้าให้การช่วยเหลือลูกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เอ เธอเข้ามาอาศัยอยู่ในเกาหลีตั้งแต่ พฤษภาคม 2018 และทำงานนวดในเกาหลี เธอร่วมรักกับลูกค้าจนกระทั่งตั้งครรภ์

ในระหว่างการสอบสวน เอ ให้การว่า ตัวเธอมีโรคประจำตัวที่เรียกว่า ธาลัสซีเมีย ซึ่งทำให้ประจำเดือนเธอมักมาไม่ปกติอย่างเช่น 28 สัปดาห์จะมาแค่ครั้งเดียว ทำให้เธอไม่ทราบว่าเธอตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอด

กระนั้นทางศาลก็ไม่อาจรับฟังคำให้การที่ไม่น่าจะฟังขึ้นของเธอที่ตั้งครรภ์แต่กลับไม่รับรู้ แม้จะผ่านไปกว่า 35 สัปดาห์แล้ว การที่เธอปฏิเสธว่าไม่ทราบถึงการตั้งครรภ์นั้นดูจะเป็นไปไม่ได้ และร่างทารกนั้นก็มีอายุกว่า 35 สัปดาห์แล้ว

เอ ยังคัดค้านศาลว่า ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดูแลเด็กหลังคลอด เธอยืนยันว่าเธอตัดรกเด็กและใช้น้ำล้างหน้าเด็กอย่างดีหลังคลอดลำพัง และศาลก็ได้สวนกลับถึงลักษณะการดูแลว่า หากเช่นนั้นทำไมไม่ให้นมลูกและปล่อยทารกอยู่ตามลำพังโดยไม่ใส่ใจกระทั่งทารกเสียชีวิต

ข้อคัดค้านของ เอ ยังไม่จบเธอยังให้เหตุผลว่าตัวเธอเองไม่ได้เก่งภาษาเกาหลี ไม่สามารถขอร้องใครให้มาช่วยเธอได้จริงๆ แต่ศาลก็โต้กลับไปว่า เอ มีการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆได้ ทั้งคนไทยที่เคยช่วยเธอย้ายที่ทำงาน หรือแม้แต่เพื่อนที่อยู่ในลิสต์เพื่อนช่องทางออนไลน์ที่สามารถช่วยเธอได้ ทำไมถึงไม่ติดต่อขอความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม คำให้การและคำโต้แย้งของ เอ ฟังไม่ขึ้นทุกข้อโต้แย้ง เธอมีเจตนาที่จะให้ทารกเสียชีวิตเพราะเธอไม่สามารถดูแลทารกน้อยได้หากทำงานนวดในเกาหลีใต้

ในท้ายที่สุด เธอก็ยังคงไม่ยอมรับถึงการกระทำผิดที่เธอทำลงไปและยังยืนกรานว่าตัวเธอนั้นต้องการให้เด็กเกิดขึ้นมาจริงๆ