ไขความกระจ่าง!!! ทำไมน้ำในถ้ำหลวงจึงไม่หมด หรือลดช้า?

จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือ หน่วยซีล กู้ภัย และอื่นๆ ที่ร่วมภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า และผู้ฝึกสอน รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายใน ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย อย่างแข็งขันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านไปแล้ว 10 วัน

ล่าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อ "บิ๊กเกรียน" ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความไขข้อสงสัย "ทำไมน้ำในถ้ำหลวงจึงไม่หมด (หรือลดช้า)?" ระบุว่า...

"#ทำไมน้ำในถ้ำหลวงจึงไม่หมด (หรือลดช้า)
คำถามนี้คนที่ให้คำตอบและมีมุมมองน่าสนใจนาทีนี้คงต้องยกให้"น้ารัก"กมล คุณงามความดี กับคู่หูชาวผู้ดีอังกฤษเวิร์น อันสเวิร์ธ โดยคุณกมล ยืนยันว่าน้ำในถ้ำหลวงไม่มีวันหมดเพราะแม้แต่ช่วงแล้งที่สุดยังคงมีความอิ่มตัวของเลน ทรายให้เห็น เขาบอกว่าสิ่งที่น่าฉงนสำหรับนักสำรวจถ้ำคือเสียงไหลของน้ำที่ดังแผ่วๆบ้าง ดังอย่างชัดเจนบ้างให้ได้ยินตลอดเวลาแต่เราไม่รู้ว่าสายน้ำหรือแม่น้ำใต้บาดาลมันอยู่ตรงไหนรุ่นต่อรุ่นมีทั้งนายพรานเดินป่าและนักสำรวจจึงเชื่อว่านั่นคือแม่น้ำใต้บาดาล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าแม่น้ำกิ่วนาง

"เวิร์ธ ชอบบอกว่านี่คือมาสเตอร์เคส เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ เป็นแม่น้ำใต้บาดาลสายเก่าแก่ที่ไม่เคยมีใครเห็นแต่เชื่อว่ามีปริมาณน้ำมากมายมหาศาล"
กมล ยังบอกด้วยว่า 7 ปีของการสำรวจถ้ำหลวง ทำให้เขารู้ว่ายังมีถ้ำหลัก 3 แห่งคือถ้ำหลวง ถ้ำรัก และถ้ำทรายทอง ซึ่งอยู่ในเทือกเขานางนอน สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมดในระยะทางประมาณ 3 กม.โดยถ้ำรักเขากับเวิร์ธ เป็นผู้ค้นพบเพื่อนคู่หูให้เกียรติตั้งชื่อเล่นของตนเป็นชื่อถ้ำ

"จากทฤษฎีนี้จึงเชื่อว่าน้ำมาจากทุกสารทิศ จุดนี้คือบาดาลอย่างแท้จริง มีตำนานสืบเนื่องกัจมาหลายชั่วคน เมื่อวานผมสังเกตว่าน้ำเก่าไหลไปหมดแล้ว น้ำชุดใหม่ที่เข้ามาใสมากซึ่งถือเป็นข้อดีที่หน่วยซีล จะมีโอกาสมองเห็นได้ไกลขึ้น แต่ข้อเสียของน้ำใหม่คือไหลแรง ซีลต้องทำงานทวนน้ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญลำพังเส้นทางลำบากอยู่แล้วมาเจอดำน้ำทวนน้ำ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยแต่ทุกคนก็ทุ่มเท ด้วยความอดทน ความแข็งแกร่งผมเชื่อว่าซีลทำได้แต่อย่าไปกดดันกัน"
#บิ๊กเกรียน"