เพจดังซัด“คนไทยสองมาตรฐาน”ป๊อบ-แมท‘คบซ้อน’เหมือนกัน แต่จุดจบต่างกัน!
"โครงสร้างข่าวของแมท และป๊อบ จริงๆคล้ายกันมาก นั่นคือ "สถานะคบซ้อน" แต่สิ่งที่แตกต่างคือ
1) "Status"
- ในขณะที่ ป๊อบเป็นคนกลาง ระหว่างหญิง 2 คน
- แมทเป็นมือที่ 3 (ในมุมมองของสังคม ส่วนใหญ่กล่าวหาเธอแบบนั้น แม้ผมจะเคยเขียนยืนยันว่าไม่ใช่)
2) เพศ: ชายผิดพลาด และหญิงผิดพลาด
3) ลักษณะของความผิด:
- คุณป๊อบคือผิดจริงโคตรๆ ดองมาเป็น 10 ปี
- ส่วนแมท ความผิดยังไม่ชัดเจน เกิดขึ้นไม่กี่เดือน (แถมผิดจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่คนส่วนใหญ่ ตัดสินกรณีนี้ ว่าเธอผิด)
- ป๊อบ พิมพ์ยอมรับผิดใน IG และแถลงข่าวแยบยล นิ่มนวล ภาษาดีงาม ด้วยการยอมรับผิด และสารภาพบาป แม้รักจริงทั้ง 2 ฝั่ง
- ส่วนแมท ตอบโต้นักข่าวรุนแรง ภาษา ท่าทีที่ใช้ และกิริยาดูแข็งกร้าว ทั้งในการสัมภาษณ์ และข้อความทาง social network ที่ตอบโต้ผู้คนที่มาตำหนิเธอ ไม่ได้มีท่าทีขอโทษ หรือสำนึกผิด (เพราะเธอมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด)
ปัญหาคือความผิดพลาดนิดเดียวที่ "โกหก" ที่เธอเปิดว่าไม่เคยรู้จักสงกรานต์ (เพราะกลัวเป็นข่าว และกลัวคนเข้าใจเธอผิด) แค่เริ่มต้นด้วยโกหก แม้ความจริง (อาจจะ) ไม่แย่งผัวเขา แต่นั่นคือชนวนเหตุของเรื่องราวพาซวยทั้งหมด
แม้เจตนาไม่เลวร้าย แต่ 'การไม่พูดความจริงทั้งหมดตั้งแต่แรก' พาแมทซวยหนัก นั่นเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตเธอ
5) บทสรุป:
- ป๊อบทำให้ข่าวจบสิ้นภายในไม่กี่วัน พร้อมมีคนช่วยเหลือแสดงความเห็น support เขา
- แต่แมท เธอโดนรุมด่า กระหน่ำอยู่หลายเดือน จนต้องออกมาขอโทษทุกคน ในสิ่งที่เธอพูดออกไป และไม่มีคนดังท่านใดออกมา support แมทเลยในช่วงที่เธอถูกกระทำทางสังคมอย่างรุนแรง
เขียนเรื่องนี้เพื่อบอกข้อความสำคัญไม่กี่ประเด็นคือ
แม้ว่าเราผิด แต่เรานำเสนอดี เราฉลาดที่จะพูด คนฟัง และสังคมพร้อมเปิดรับ ให้โอกาสเสมอ แต่ในขณะที่แม้คุณไม่ได้ทำอะไรผิด (ผมยังคิดว่าแมทไม่ได้แย่งสงกรานต์มาจากแอ๊ฟ เค้าเลิกยุ่งกันมาเป็นปี แค่ไม่ได้หย่า) แต่ถ้าคุณมีท่าทีที่คนไม่ชอบ หมั่นไส้ มีคำพูดที่ดูไม่สำนึก หรือไม่แยแสกระแสสังคม คุณจะโดนลงโทษทางสังคม (social punishment) อย่างรุนแรง จากการรุมด่านินทา (social bullying) เพราะผลลัพธ์จากการตีความผ่านการสื่อสารที่คุณสร้างขึ้น
"บุคลิก สไตล์การพูด ท่าที และคำที่ใช้" มันฆ่าตัวเราได้เลย ว่าเราจะรอด หรือจะร่วง! ทำให้เราต้องระวังสิ่งที่ออกไปจากตัวเราให้มากที่สุด
2) สังคมไทย คือสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ (patriarchy): ในกรณีของป๊อบ นี่ผิดเต็มๆ แต่สังคมโอบอุ้มและให้อภัย โดยมองว่าเขาผิดเพียงเรื่องเดียว แต่เรื่องอื่นๆเขาเป็นคนดีทีเดียว จริงๆผมว่าแมทก็เหมือนกันไหม? เพราะในแง่การเป็นนักแสดง หรือการศึกษาเอง แมทเจ๋งเลยนะ อ่าว! แล้วเกิดอะไรขึ้น
คุณจะเห็นว่า เคสแมทตลกตรงที่ คนด่าสงกรานต์เบามาก ซึ่งใน case นี้ คุณสงกรานต์ ยืนอยู่ตำแหน่งเดียวกับของคุณป๊อบเลย คือความเป็น ‘คนกลาง' แต่คนกลับไปรุมด่าแมท แต่สงกรานต์ดันลอยตัว เอ้า! งงเด้
สังคมไทยยังให้ค่าของเพศชายในฐานะของผู้เป็นใหญ่ (โดยที่เราเองยังไม่รู้ตัวว่าเราก็เป็นกัน) มันหล่อหลอมเราอยู่ในวัฒนธรรม นั่นทำให้การรุมด่าที่เกิดขึ้นแต่ชี้เป้าต่างกัน
3) การขอโทษ และการยอมรับผิด "ความสำนึกผิด" เป็นหัวใจของการเปิดโอกาส: เราจะเห็นว่าป๊อบอ่อนโยน สุภาพ และใช้ท่าทีที่ "สำนึกผิด" ซึ่งเขารู้สึกผิดจริงๆแหละ คนมองเห็นและเชื่อในความรู้สึกที่เขามี พร้อมให้อภัยป๊อบ
แต่ในทางกลับกัน แมทไม่ได้แสดงท่าทีที่ตนผิด หรือสำนึกผิด (ก็เขาไม่ได้ผิดไง ทำไมต้องสำนึก ส่วนตัวผมก็ว่าเขาไม่ได้ผัวใครมา เขามั่นใจ เขาเลยรู้สึกไม่ต้องพยายามสำนึกใดๆ) แต่ด้วยท่าที คำพูดที่ประชดประชันบน social network ผ่าน Instagram ของเธอ นั่นทำให้คนรู้สึกไม่จบไม่สิ้น มันเริ่มไม่เกี่ยวกับเรื่องความรักในสถานะคบซ้อน แต่ที่สังคมไม่พอใจเธอ คือ "ลีลา คำพูด และการสื่อสารของเธอต่อสาธารณะ" แทนประเด็นของข่าว เพียงเพราะความเป็นสาวมั่นๆ เป็นตัวของตัวเอง จนสุดท้ายต้องออกมาขอโทษในสิ่งที่เพียงแค่เป็นตัวของตัวเอง และมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด กลายเป็นคนที่ต้องรู้สึกผิด
สังคมไทยยังชอบคนอ่อนน้อมถ่อมตน ชอบคนมืออ่อนรู้จักไหว้ และท่าทีของความสำนึก ช่วยชีวิตได้จริงๆ เพราะจะเห็นคนดังที่ออกมา support ป๊อบ ในขณะที่แมท โบเบ๋ มองไม่เห็นใครออกมาปกป้อง ยืนเคียงข้างเธอเลย เพราะอาจจะกลัวซวย โดนรุมด่าไปด้วยกับเธอก็เป็นได้
รวมทั้ง "การพูดความจริง" คือสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อเราซื่อสัตย์ และยอมรับในการกระทำ ไม่ว่าผิดถูก ถ้าเริ่มต้นด้วยโกหก แม้ไม่เจตนาปิดบัง แต่ผู้คนในสังคมไม่ชอบการไม่พูดความจริง
1) คนเรามักไม่ได้ตัดสินคนที่ "ความจริง" จากข้อมูล pure pure หรอก เราตัดสินผู้คนด้วย "อคติ" (bias) อยู่เสมอ จากไม้บรรทัดที่บิดงอของเรา ที่มันไม่เคยเที่ยงตรงเอาเสียเลย เราเห็นท่าที และคำพูดของคน ที่บางทีเราเองยังไม่รู้ว่าเขาถูก หรือผิดจริง แต่เราไปตัดสินจากเปลือกคือคุณลักษณะของการนำเสนอของบุคคล ไม่ใช่ที่ contents หรือสารที่เป็นสาระจริงๆ (ผมมีอ้างถึงทฤษฎีการสื่อสาร "The Mehrabian Formula ไว้ให้ได้อ่านเทียบเคียงเพื่อเป็นความรู้ประกอบ ใน comment ของบทความนี้ครับ)
หลายครั้ง คนเราก็แค่เกลียดคนอื่นที่ "เปลือก" ของเขา ไม่ใช่ "แก่นแท้" จริงๆของเขา ดังนั้น "สติปัญญา" ของเราจะช่วยเราแยกแยะทุกครั้ง ก่อนเราจะไปตัดสินคนอื่นครับ
2) ลักษณะของการแก้ปัญหาที่ต่างกัน ทำให้ชัยชนะในการจัดการกับชีวิตแตกต่างจริงๆนะ "สติและปัญญา" ที่เราใช้ควบคุมคำพูด และการแสดงออกของเราจึงสำคัญเสมอ ไม่ว่าเราจะผิด หรือถูกก็ตาม
การที่คุณเป็นคนดีจากเนื้อแท้ มันดีอยู่แล้ว แต่จะดีแค่ไหน ถ้าคุณมี "กลยุทธ์ในการพูด และการแสดงออก" ที่ทำให้ความเป็นคนดีมันสื่อสารออกมาข้างนอกด้วย
อย่างไรก็ดี ผมมักย้ำเสมอกับการเสพข่าว 2 ข้อหลักว่า
- ทุกข่าว #อย่าอินเกิน กับชีวิตคนอื่นเขา และไปทำชีวิตเราให้ดี พร้อมทั้ง
- หยุดให้ร้ายคน #StopSocialBullying อย่าไปด่าทอผู้คนที่คุณเองก็ไม่รู้จักเขาดีพอ คนที่คุณก็ไปตัดสินทั้งๆที่ คุณก็ยังไม่รู้ข้อมูลจริง หรือเข้าใจวิธีคิดของเขาจริงๆ อย่าไปให้ร้ายคนแล้วบอกว่า นี่ฉันกำลังวิจารณ์อยู่ เพราะด่าให้ร้ายกับวิจารณ์ต่างกันมากครับคนดูข่าวที่ฉลาดคือ คนที่เสพความจริง
เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และไปพัฒนาชีวิตของเราให้ดี ให้เราคิดให้ได้ และอย่าพลาดเหมือนเขาก็พอ"
คลิ๊กชมคลิปด้านล่าง
vvvvvvvvvvvvvvvvvv
vvvvvvvvvvvvvvv
vvvvvvvvvvvv
vvvvvvvvv
vvvvvv
vvv
v