สรุปว่าไม่ได้ปลด!!พิธีกรดีเบต แค่สลับตัวตามความถนัด(คลิปชนวนโซเชียลเดือด)!

จากกรณีที่ อรวรรณ ชูดี ผู้ประกาศช่อง โมเดิร์น ไนน์ ทีวี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าถูกสั่งให้ ยุติการทำหน้าที่พิธีกรรายการ ดีเบต ที่จัดร่วมกับ อ.วีระ ธีรภัทร

ภายใต้หัวข้อ ประชันวิสัยทัศน์ คนรุ่นใหม่ การเมืองไทยในความคิดของคนรุ่นใหม่ ควรเป็นอย่างไร? ออกอากาศทางช่อง โมเดิร์น ไนน์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ระบุว่า

"คารวะพลังบริสุทธิ์ของน้องๆนิสิต นศ.ทั้ง 100 คน ในห้องส่ง จาก 16 สถาบัน ทั้งในกทม. เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ที่แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง ในรายการดีเบตของช่อง 9
ในคำถามดังต่อไปนี้

เห็นด้วยหรือไม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจไม่ร่วมการดีเบต (เห็นด้วย 6 ไม่เห็นด้วย 94)
เห็นด้วยหรือไม่ ที่ รธน.60 ในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกให้ ส.ว. 250 คนร่วมโหวตเลือกนายกฯ (เห็นด้วย 1 ไม่เห็นด้วย 99)

เห็นด้วยหรือไม่ เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จำเป็นสำหรับประเทศไทย (เห็นด้วย 2 ไม่เห็นด้วย 98)
เห็นด้วยหรือไม่ ว่าประเทศไทยมีการปกครองแบบประชาธิปไตย เต็มใบหรือครึ่งใบก็ได้ ถ้าทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น (เห็นด้วย 17 ไม่เห็นด้วย 83)

พวกเขาไม่ทราบคำถามล่วงหน้า มีเพียงข้าวกล่องและรถรับส่ง ในการมาร่วมรายการ แต่ 100 เสียงในคืนวันที่ 28 ก.พ. ของเหล่าเฟิร์สโหวตเตอร์เหล่านี้
  
กำลังขย่มขวัญไปถึงผู้มีอำนาจ จนมองว่านี่คือการชี้นำโจมตีรัฐบาล ทั้งที่เป็นประเด็นที่คนไทยทั้งประเทศมีสิทธิ ในการแสดงความคิดเห็นต่ออนาคตของพวกเราทุกคน

ในฐานะ 1 ในพิธีกร และผู้ทำหน้าที่คิดรูปแบบรายการดีเบต ทั้ง 2 ครั้งของช่อง 9 ขอยอมรับการตัดสินใจของบอร์ด อสมท. และผู้บริหารในการให้ยุติการทำหน้าที่ ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ในฐานะวิชาชีพสื่อสารมวลชน ที่มีอายุงานเกือบ 30 ปี ดิฉันไม่ยินยอมรับการตราหน้าว่า ทำหน้าที่ลำเอียง"

ล่าสุดเป็นที่แน่นอนแล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความเข้าใจผิดหลัง นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยใหญ่ บมจ อสมท ชี้แจงกรณีมีข่าวการปลดพิธีกรรายการดีเบต เลือกตั้ง 2562 ว่า อาจมีความคลาดเคลื่อนในข้อมูล จึงใคร่ขอเรียนดังนี้

1.อสมท มีการทำโครงการรายการสดดีเบต 4 ครั้ง เพื่อรณรงค์ให้คนไทย ได้ทราบถึงแนวคิดนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ในวันที่ 21 , 28 ก.พ และ 7 , 14 มี.ค.62 ซึ่งฝ่ายบริหารได้ให้แนวคิดและกรอบการจัดรายการให้มีความเป็นกลาง มีความเท่าเทียมกัน และมีความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างจากสถานีแห่งอื่นๆ โดยในวันที่ 21 ก.พ. : หัวข้อ ประชันวิสัยทัศน์พรรคการเมือง วันที่ 28 กพ : หัวข้อ" คนใหม่ การเมืองใหม่ วันที่ 7 มีค : หัวข้อ "สวัสดิการรัฐ ฝันเฟื่อง...เรื่องจริง" วันที่ 14 มีค : หัวข้อ"ประเทศไทย ..หลังเลือกตั้ง"

2.หลังจากการจัดรายการดีเบต ทีมงานได้มีการประชุมหารือ ประเมินผลและวิเคราะห์การจัดรายการทุกครั้ง เพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพของรายการ ซึ่งใน 2 ครั้งแรก การจัดรายการอาจมีบางจุดที่ไม่ค่อยไหลลื่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพิธีกรรายการสด สำหรับการจัดรายการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่อง "สวัสดิการแห่งรัฐ" ผมได้เชิญผู้บริหารสำนักข่าวไทยมาหารือ และปรึกษาว่า ในรายการดีเบตที่ต้องพูดถึงเรื่องสวัสดิการสังคมแห่งรัฐ ซึ่งเกี่ยวพันกับด้านเศรษฐกิจและการเงินการคลังของชาติ อาจจะให้พิธีกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านข่าวเศรษฐกิจ มาสลับกับพิธีกรเดิมบ้าง เพื่อสร้างความหลากหลายของรายการให้เกิดความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ชม และให้กลับมาเสนอแนวทางอีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 4 มี.ค. เพื่อจักได้สร้างรายการให้น่าสนใจ ส่วนการดีเบตครั้งสุดท้ายในวันที่ 14 มี.ค. รวมทั้งในการรายงานผลคะแนนในวันเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ตั้งแต่ปิดหีบเลือกตั้งไปจนนับคะแนนเสร็จ ก็ยังใช้พิธีกร 2 คนเช่นเดิม

3.ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของอสมท ผมตระหนักดีว่า จรรยาบรรณและเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น การทำงานของอสมท จึงให้อิสระแก่ทีมงานข่าว โดยไม่ก้าวล่วงหรือ แทรกแซง แต่อย่างใด

ในนามของฝ่ายบริหารจึงใคร่ขอเรียนให้ทราบว่า มิเคยมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ปลดพิธีกรและแทรกแซงสื่อตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด พิธีกรทั้งสองยังคงดำเนินการจัดรายการได้ตามปกติ ในอสมท ทั้งจัดรายการวิทยุและรายการข่าวโทรทัศน์เช่นเดิม

จึงขอเรียนชี้แจงในความคลาดเคลื่อนของการสื่อความและขอน้อมรับความผิดพลาดของข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ อสมท จะประชุมหารือร่วมกันกับพิธีกรทั้งสองและทีมงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพรายการให้ผู้ชมอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะดำเนินรายการดีเบตต่อไปตามแผนงานที่วางไว้ล่วงหน้า

ขอบคุณครับ
เขมทัตต์ พลเดช
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
2 มี.ค.2562

จากนั้น ผู้ประกาศสาวได้เคลื่อนไหว โพสต์ข้อความผ่านเฟ๊ชบุ้กอีกรอบ ระบุว่า

"#saveMCOT
กราบขอบพระคุณต่อกำลังใจที่เข้ามาในทุกช่องทาง และน้อมรับความเห็นต่าง โดยขอให้กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา เวลาเป็นข้อพิสูจน์

ในความเป็นจริงที่ดิฉันและทีมงานเพื่อนพี่น้องชาวอสมท ที่เกี่ยวข้องในการผลิตรายการดีเบตหัวข้อ "คนใหม่ การเมืองใหม่" เมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ.62 ได้เผชิญและรับรู้มีความแตกต่างจากสิ่งที่มีการชี้แจงจากผู้บริหาร ซึ่งคงไม่เกิดประโยชน์ใดๆในการขยายผลให้ขัดแย้งอีกต่อไป

แต่เป็นความไม่สบายใจของดิฉันอย่างยิ่ง ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลไปถึง ความไม่เชื่อมั่นต่อ อสมท ในการสร้างสรรค์เนื้อหาสาระ หรือการประกอบกิจการต่างๆที่ อสมท รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานทุกคนตระหนักดีถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและประชาชนตลอดมาผู้ใช้อำนาจในแต่ละยุค ที่ผ่านเข้ามา

เมื่อถึงจุดหนึ่ง ล้วนมีความเข้าใจต่อความเป็นสื่อของรัฐ ในแง่ของการตอบสนองภารกิจรัฐมากกว่าภารกิจต่อประชาชนเสมอ

ผลพวงเสียงของประชาชน ที่ตื่นตัวในเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่การ#saveorawan หรือเป็นการปกป้องสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและการรับรู้ข้อมูลข่าวสารแต่เพียงอย่างเดียว

แต่ได้ช่วย#saveMCOT อันมีพระคุณของดิฉัน เพื่อที่เราจะถอดบทเรียนนี้มาเป็นเกราะคุ้มกัน เพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้สมกับความคาดหวังของสังคมต่อไป

อรวรรณ (กริ่มวิรัตน์กุล ) ชูดี"