ส่องด่วนเกิดอะไรขึ้น ทำไมพิมรี่พายติดเทรนด์ มัดรวมให้แล้ว!!

     แฮชแท็ก #พิมรี่พาย ทะยานติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตกระหึ่ม!! ปม แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง พิมรี่พาย-พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ วิจารณ์ผู้ทำคลิปแนะนำเรื่องความงาม หรือ บิวตี้บล็อกเกอร์ ชื่อ อายตา-ศรสวรรค์ ใจมั่น ที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านบัญชีในเว็บไซต์ยูทูบ ด้วยถ้อยคำรุนแรง หลังจากฝ่ายหลังติคุณภาพแป้งแต่งหน้าที่สั่งมาจากแม่ค้าออนไลน์รายนี้ ด้านเพจดัง Poetry of Bitch ได้สรุปไทม์ไลท์ทะลุจุดเดือดของทั้งคู่เอาไว้ให้คนที่ตามเผือกเรื่องนี้ไม่ทันตามนี้ >>>>

สรุปดราม่า #พิมรี่พาย #อายตา
-----
การรีวิวของ "อายตา"
:
1- "อายตา" (EYETA) เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ที่มีผู้ติดตามในยูทูบ 1.2 ล้าน ในเฟซบุ๊ก 1 ล้าน และในอินสตาแกรมอีกเกือบ 3 แสนคน

2- อายตาเคยบอกว่าเธอเป็นบิวตี้บบล็อกเกอร์สายตลก พูดจาตรงไปตรงมา เวลารีวิวอะไรเธอจะพยายามให้ออกมาดี แต่ถ้ามีข้อเสียหรือใช้ไม่ค่อยดีเธอก็จะบอกความจริง

3- ดราม่านี้เริ่มขึ้นเมื่ออายตาสั่งแป้งพัฟของ "พิมรี่พาย" มา 3 ตลับ (เบอร์ 1, 2 และ 3) แต่พอเปิดแล้วพบว่าตลับเบอร์ 2 ซึ่งคาดว่าน่าจะเหมาะกับผิวของเธอนั้นเนื้อแป้งแตก เธอไม่อยากส่งเคลมเพราะกลัวนาน และตื่นเต้นอยากรีวิวเลย

4- หลังตบแป้งไปสักพักอายตาก็บอกว่ามันไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าผิดพลาดที่ตรงไหน อาจเป็นเพราะเนื้อแป้งแตกทำให้ติดพัฟไม่เต็มที่ หรืออาจเพราะสีไม่เข้ากับผิวของเธอ

5- จากนั้นอายตาลองรีวิวอีกครั้งโดยใช้แป้งเบอร์ 3 ซึ่งเธอบอกว่ามันดีขึ้นมาก และพบว่าผิวของเธอเหมาะกับเบอร์ 3 มากกว่า

6- แล้วอายตาก็สรุปข้อดีของแป้งว่า ปกปิดดี ติดทน ค่อนข้างเรียบเนียน และคุมความมันดี แต่ข้อเสียคือเนื้อแป้งหนาทึบ ไม่มีความโปร่งให้แสงเข้าเลย ทำให้ผิวดูทึบขาดมิติ ราคา 690 บาทถือว่าค่อนข้างสูง ทำให้คาดหวังประมาณหนึ่ง แป้งตัวนี้ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน ไม่ได้ขี้เหร่ ไม่ได้ทำให้หน้าบ้ง แต่ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น

7- อายตาบอกว่าตอนนี้เทรนด์การแต่งหน้าผู้หญิงไทยเปลี่ยนไปมาก เมื่อ 5 ปีที่แล้วคนอาจจะอยากได้แป้งที่หนาทึบ ทาแล้วปกปิดไปเลย แต่เทรนด์ 2-3 ปีที่ผ่านมาคนอยากได้แป้งที่ปกปิดแต่บางเบา ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทึบ ไม่โบก

8- อายตาทิ้งท้ายว่า เธอรีวิวตรง ๆ จริงใจ ตรงไหนดีก็ชม ตรงไหนสามารถพัฒนาได้ก็ใส่ความคิดเห็นลงไป เพื่อให้เป็นประโยชน์กับแบรนด์และผู้ชม

---

ฟีดแบคจาก "พิมรี่พาย"
:
9- ต่อมาพิมรี่พายไลฟ์ขายของแล้วพูดถึงเรื่องนี้ว่า มีคนโทรมาหาตนรัว ๆ ว่าอายตารีวิวแป้ง ด่าก่อนแล้วค่อยชม ซึ่งก็เป็นธรรมดา ถ้าชมก่อนเดี๋ยวจะดูปลอม จะดูเหมือนจ้าง เลยต้องด่าก่อน

10- พิมรี่พายบอกว่า "แต่ว่ามึงก็โง่เนอะ มึงก็เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มาเป็น 10 ปีแล้ว e-dok ก็ไม่ดังซะที มึงเอาพัฟกด ๆ ๆ ๆ แล้วมึงก็บอกว่าอุ๊ยหนา ลูกกู 6 ขวบยังทำเป็นเลย อยากได้บางก็เอาแปรงปัดเอา อยากได้หนาค่อยเอาพัฟกด เรื่องมันมีแค่นี้เอง แป้งกูของดี ๆ ต้องได้ด่าซักนิดนึง มึงจะได้มีคนดู"

11- "ฝากไปบอกถึงคุณ ๆ ที่มีความรู้ในการแต่งหน้าทุกท่าน หรือไม่มีความรู้ก็ดี ถ้าอยากได้บางให้ใช้แปรงปัดที่หน้า อยากได้เข้มให้ใช้พัฟ อยากได้เข้มกว่านั้นอีกให้เอาพัฟชุบน้ำซับแป้งแล้วกด เท่านั้นจบ ใคร ๆ ก็รู้ ลูกกูเด็กผู้ชาย 9 ขวบยังรู้เลย ด่าได้ไม่ว่า แต่จะบอกว่ารู้ทันนะ"

อายตาชี้แจง
:
12- ต่อมาอายตาไลฟ์ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ในการรีวิวเธอก็บอกอยู่แล้วว่า ไม่แน่ใจว่าที่ออกมาแบบนั้นเพราะเป็นที่ผิวของเรา หรือเป็นเพราะแป้งแตกทำให้ผงแป้งไปฝังอยู่ในพัฟเยอะ เวลารีวิวอะไรเธอพยายามให้มันออกมาสวยอยู่แล้ว

13- ยอมรับว่าเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มานาน 7-8 ปีแล้วแต่ไม่ดัง มีคนตามแค่ล้านกว่า ๆ ไปเดินตลาดก็มีคนทักบ้างแต่ไม่ดังจริง ๆ ไม่โกรธที่พิมรี่พายพูด แต่รู้สึกว่าผิดประเด็นไปหน่อย เพราะตนพูดถึงเนื้อแป้ง ถ้าไม่ดังไม่มีสิทธิ์รีวิวหรือ พร้อกับยกมือไหว้และพูดติดตลกว่า "ขอโทษด้วยที่หนูไม่ดัง หนูก็อยากดังเหมือนกัน แต่หนูดังได้แค่นี้"

14- ส่วนเรื่องที่พิมรี่พายบอกว่าอยากได้บาง ๆ ทำไมไม่ใช้แปรงแทนพัฟ อายตาบอกว่าเธอแต่งหน้าเป็นประมาณหนึ่ง รู้ว่าการใช้แปรงจะทำให้บางเบากว่าการใช้พัฟ และปกติในชีวิตประจำวันเธอก็ใช้แปรงในการแต่งหน้า แต่ในบริบทนี้เป็นการรีวิว เธออยากเป็นตัวแทนของคนที่ซื้อแป้งมา จึงใช้อุปกรณ์ที่เขาให้มาในตลับ เพราะอยากให้เห็นว่าอุปกรณ์ที่เขาให้มานั้นใช้แล้วเป็นอย่างไร

15- อายตาเล่าว่าเธอเคยโดนเจ้าของแบรนด์อื่นด่าหนักกว่าพิมรี่พายอีก แต่เขาไม่ได้พูดในที่แจ้ง เธอไม่เก็บมาคิด ทำงานของตัวเองไป การที่เราใช้ไม่ถูกใจไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่ถูกใจด้วย แต่ดีใจที่พิมรี่พายรู้จักเธอเพราะเธอชื่นชมพิมรี่พายมาก พิมรี่พายเป็นแรงบันดาลใจของเธอในการช่วยเหลือผู้อื่น และเธอซื้อของพิมรี่พายตลอด

16- อายตาบอกว่า เวลาทำคลิปไม่เคยคิดว่าต้องด่าก่อนถึงจะมีคนดู คลิปของเธอมีคนดูถึงแสนวิวเธอก็ดีใจแล้ว รีวิวหลายอันเธอซื้อมาใช้เองและไม่ด่า แถมชมจนคนคิดว่าโดนจ้างก็มีมาแล้ว เธอทำคอนเทนต์อยากได้ฟีลเหมือนคุยกับเพื่อน เช่น "มึง กูใช้อันนี้มันเลิศอะ" หรือ "มึงอันนี้ไม่ได้ว่ะ"

---

 #พิมรี่พาย เทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1
:
17- เรื่องนี้ทำให้แฮชแท็ก #พิมรี่พาย ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ประเทศไทย มียอดทวีตกว่า 3 แสนครั้งแล้ว และแฮชแท็ก #อายตา ก็ติดเทรนด์เช่นกัน คนวิพากษ์วิจารณ์ว่าพิมรี่พายเหยียดคนอื่นและไม่มีมารยาท แทนที่จะขอโทษอายตาเรื่องแป้งแตก แต่กลับไปดูถูกเขา

18- คนมองว่าเดี๋ยวนี้พิมรี่พายใครแตะอะไรไม่ได้ ทำการค้าแต่ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว เหมือนพิมรี่พายล้มแล้วล้มอีก ไม่คิดปรับปรุงตัว และทุกครั้งที่เกิดดราม่าแบบนี้ก็มีคนเข้าข้างเสมอ

19- คนบอกว่าอายตามีชื่อเสียงมานานแล้ว เธอเป็นบิวตี้บลอกเกอร์ที่รีวิวด้วยความจริงใจและมีทัศนคติดี หลายคนรู้จักอายตามาก่อนพิมรี่พายด้วยซ้ำ คนที่ไม่รู้จักก็ไม่ผิด แต่ไม่มีสิทธิ์มาเหยียดว่าเขาไม่ดัง

20- แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางเสียงบอกว่า ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งยอมรับว่าการรีวิวในลักษณะนี้มีผลต่อการตัดสินใจมาก แม้จะพูดถึงทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ภาพรวมออกมาดูลบ ทำให้สินค้าดูไม่น่าซื้อมาใช้ เจ้าของแบรนด์ก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา
-----
พิมรี่พายชี้แจงแต่ไม่ขอโทษ
:
21- ล่าสุดพิมรี่พายไลฟ์และชี้แจงเรื่องนี้ว่า ตนทำงานหนักไม่มีเวลาได้ดูอินฟลูเอนเซอร์ทุกคน แต่มีเพื่อนส่งไลน์มาว่าอายตารีวิวแป้ง ด่าก่อนแล้วค่อยอวย (พร้อมกับโชว์แชตไลน์ให้ดู) ตนยังไม่ได้ดูคลิปก็มาพูดในไลฟ์เลย ฟีลเพื่อนฟ้อง หน้าแตกยิ่งกว่าแป้งตลับ

22- มีคนถามว่าแล้วจะขอโทษอายตามั้ย พิมรี่พายบอกว่า "ไม่ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้พูดขอโทษ เนื่องจากว่าเราขอโทษจนเราช้ำไปหมดแล้วแก ขอโทษจนลูกค้าจะอ้วกแล้วค่ะ" พร้อมกับหัวเราะ

เครดิตแหล่งข้อมูล : FB Poetry of Bitch