อังคณา เคลื่อนไหว!!ค้านโทษประหารชี้ไม่ช่วยลด‘อาชญากรรม’
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล โพสของคนดัง อังคณา เคลื่อนไหว!!ค้านโทษประหารชี้ไม่ช่วยลด‘อาชญากรรม’
จากกรณี กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารนักโทษเด็ดขาด นายธีรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากสังคมที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเป็นอย่างมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Angkhana Neelapaijit ระบุว่า
"รู้สึกตกใจและคาดไม่ถึงเหมือนหลายๆคนภายหลังทราบข่าวการประหารชีวิตนักโทษชายอายุ 26 ปี ที่กระทำความผิดร้ายแรงเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนก่อเหตุเขาน่าจะอายุประมาณไม่ถึง 20 ปี"
"เรื่องโทษประหารชีวิต หรือ #DeathPenalty เป็นเรื่องที่สากลพยายามรณรงค์ให้ทุกประเทศยกเลิก ด้วยความเชื่อมั่นว่า สิทธิในการมีชีวิต เป็น #สิทธิที่ไม่อาจลดทอน หรือเป็น #สิทธิที่ไม่อาจถูกพักใช้ได้ (Non-Derogable Rights) ในประเทศไทย แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทุกฉบับก็ยืนยันความพยายามในการยกเลิกโทษประหารชีวิต"
"ที่ผ่านมาเรื่องการประหารชีวิต ประเทศไทย มีการประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดสองรายเมื่อปลายปี 2552 จนปัจจุบันเกือบ 9 ปีที่ได้มีการลงโทษด้วยการประหารชีวิตอีกครั้ง ที่ผ่านมาเมื่อปี 2558 กสม ได้มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับ #โทษประหารชีวิตและหลักสิทธิมนุษยชน เช่น ควรพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่มีบทลงโทษประหารชีวิตไว้สถานเดียว เป็นโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต เพื่อให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษได้กว้างขึ้น"
"รวมถึงควรส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) ที่มุ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสียที่เสียหายจากการกระทำความผิด โดยให้ผู้เสียหาย ผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งครอบครัวและชุมชนของทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนฟื้นฟูผู้เสียหาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้กระทำผิด ให้ผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตน ด้วยการชดใช้หรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น"
"ยังคงเชื่อมั่นว่า #โทษประหารชีวิตไม่สามารถยุติอาชญากรรมร้ายแรง"
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Angkhana Neelapaijit ระบุว่า
"รู้สึกตกใจและคาดไม่ถึงเหมือนหลายๆคนภายหลังทราบข่าวการประหารชีวิตนักโทษชายอายุ 26 ปี ที่กระทำความผิดร้ายแรงเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งตอนก่อเหตุเขาน่าจะอายุประมาณไม่ถึง 20 ปี"
"เรื่องโทษประหารชีวิต หรือ #DeathPenalty เป็นเรื่องที่สากลพยายามรณรงค์ให้ทุกประเทศยกเลิก ด้วยความเชื่อมั่นว่า สิทธิในการมีชีวิต เป็น #สิทธิที่ไม่อาจลดทอน หรือเป็น #สิทธิที่ไม่อาจถูกพักใช้ได้ (Non-Derogable Rights) ในประเทศไทย แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทุกฉบับก็ยืนยันความพยายามในการยกเลิกโทษประหารชีวิต"
"ที่ผ่านมาเรื่องการประหารชีวิต ประเทศไทย มีการประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดสองรายเมื่อปลายปี 2552 จนปัจจุบันเกือบ 9 ปีที่ได้มีการลงโทษด้วยการประหารชีวิตอีกครั้ง ที่ผ่านมาเมื่อปี 2558 กสม ได้มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับ #โทษประหารชีวิตและหลักสิทธิมนุษยชน เช่น ควรพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่มีบทลงโทษประหารชีวิตไว้สถานเดียว เป็นโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต เพื่อให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษได้กว้างขึ้น"
"รวมถึงควรส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ (Restorative Justice) ที่มุ่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสียที่เสียหายจากการกระทำความผิด โดยให้ผู้เสียหาย ผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งครอบครัวและชุมชนของทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนฟื้นฟูผู้เสียหาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้กระทำผิด ให้ผู้กระทำผิดแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตน ด้วยการชดใช้หรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น"
"ยังคงเชื่อมั่นว่า #โทษประหารชีวิตไม่สามารถยุติอาชญากรรมร้ายแรง"
รวมทั้ง ล่าสุด นางอังคณา ยังเคลื่อนไหวอีกครั้ง ด้วยโพสต์ล่าสุดหลัง ถูกโพสต์ก่อนหน้านี้ ถูกวิจารณ์ ระบุว่า
"หลายปีก่อนในฐานะครอบครัวเหยื่อการบังคับสูญหายโดยรัฐที่ต้องนั่งเผชิญหน้ากับจำเลยคดีอุ้มฆ่าทนายสมชายในศาลอย่างอดทนและอหิงสาเป็นเวลายาวนานกว่าห้าเดือน ... ยังจำได้ดีถึงคำพูดที่เหยียดหยาม รอยยิ้มเย้ยหยัน กิริยาที่ดูแคลนของบรรดาผู้ต้องหาและพวกพ้อง
ยังจำได้ดีถึงความรู้สึกปวดร้าวของครอบครัว ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างหยามเหยียดของผู้ต้องหาในคดีและบรรดาพรรคพวกในวันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องคดีสมชาย และต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษมีมติงดการสอบสวน
ยืนยันว่า ความรู้สึกขมขื่นของครอบครัวที่มีตลอดมาไม่ได้มาจากการที่รัฐไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาประหารชีวิต แต่เป็นความขื่นขมที่สุดท้ายรัฐปล่อยให้ผู้กระทำผิดในคดีอาชญากรรมร้ายแรงลอยนวล โดยที่รัฐเองก็ยังไม่มีมาตรการในการคุ้มครอง ป้องกันและยุติอาชญากรรมร้ายแรงนี้ รวมถึงยังไม่มีแนวทางการฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายทางจิตใจของเหยื่อและครอบครัวอย่างจริงจัง
วันนี้รู้สึกดีใจที่สังคมมีโอกาสได้ถกแถลงเรื่องการลงโทษด้วยวิธีประหารชีวิต อยากเห็นการถกแถลงเป็นไปอย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานการเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน อย่างอดทนอดกลั้นในการใช้ชีวิตร่วมกันของผู้คนในสังคม แต่ที่เสียใจ คือ กลุ่มคนที่สนับสนุนโทษประหารชีวิตหลายคนได้ใช้วิธีการคุกคาม หยามเหยียด ไม่เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชังต่อคนที่มีความเห็นที่แตกต่าง วันนี้จึงดูเหมือนว่า #คนที่เชื่อว่าไม่ควรลงโทษด้วยวิธีประหารชีวิตกำลังถูกสังคมส่วนหนึ่งไล่ล่าประหัตประหาร โดยที่คนเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์และมิได้กระทำความผิดใดๆ"
"หลายปีก่อนในฐานะครอบครัวเหยื่อการบังคับสูญหายโดยรัฐที่ต้องนั่งเผชิญหน้ากับจำเลยคดีอุ้มฆ่าทนายสมชายในศาลอย่างอดทนและอหิงสาเป็นเวลายาวนานกว่าห้าเดือน ... ยังจำได้ดีถึงคำพูดที่เหยียดหยาม รอยยิ้มเย้ยหยัน กิริยาที่ดูแคลนของบรรดาผู้ต้องหาและพวกพ้อง
ยังจำได้ดีถึงความรู้สึกปวดร้าวของครอบครัว ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างหยามเหยียดของผู้ต้องหาในคดีและบรรดาพรรคพวกในวันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องคดีสมชาย และต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษมีมติงดการสอบสวน
ยืนยันว่า ความรู้สึกขมขื่นของครอบครัวที่มีตลอดมาไม่ได้มาจากการที่รัฐไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาประหารชีวิต แต่เป็นความขื่นขมที่สุดท้ายรัฐปล่อยให้ผู้กระทำผิดในคดีอาชญากรรมร้ายแรงลอยนวล โดยที่รัฐเองก็ยังไม่มีมาตรการในการคุ้มครอง ป้องกันและยุติอาชญากรรมร้ายแรงนี้ รวมถึงยังไม่มีแนวทางการฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายทางจิตใจของเหยื่อและครอบครัวอย่างจริงจัง
วันนี้รู้สึกดีใจที่สังคมมีโอกาสได้ถกแถลงเรื่องการลงโทษด้วยวิธีประหารชีวิต อยากเห็นการถกแถลงเป็นไปอย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานการเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน อย่างอดทนอดกลั้นในการใช้ชีวิตร่วมกันของผู้คนในสังคม แต่ที่เสียใจ คือ กลุ่มคนที่สนับสนุนโทษประหารชีวิตหลายคนได้ใช้วิธีการคุกคาม หยามเหยียด ไม่เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชังต่อคนที่มีความเห็นที่แตกต่าง วันนี้จึงดูเหมือนว่า #คนที่เชื่อว่าไม่ควรลงโทษด้วยวิธีประหารชีวิตกำลังถูกสังคมส่วนหนึ่งไล่ล่าประหัตประหาร โดยที่คนเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์และมิได้กระทำความผิดใดๆ"
ที่มา-ภาพ จาก FB Angkhana Neelapaijit
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น