จากพระมหาไพรวัลย์ ถึง เจ้าแม่นางนอน ถ้ามีจริงอย่าเก่งแต่กับเด็ก!!
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล โพสของคนดัง จากพระมหาไพรวัลย์ ถึง เจ้าแม่นางนอน ถ้ามีจริงอย่าเก่งแต่กับเด็ก!!
ชมคลิปวิดิโอ
VVVVV
VVVV
VVV
VV
V
พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงภารกิจถ้ำหลวง ช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่า และผู้ช่วยโค้ช ทั้งหมด 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ถึงความเชื่อที่จะนำไปสู่ทางรอด
ระบุว่า ถ้ามองแบบใช้เหตุผล และเชื่อความเกื้อกูลกันของเหตุปัจจัย เราจะมีความหวัง เราจะเห็นว่า หน่วยงานหลายหน่วยงาน
กำลังปฎิบัติหน้าที่ กำลังจะช่วยกัน เพื่อนำเด็กออกมาจากถ้ำ ความหวังยังคงมี ถ้าตราบใดคนที่ช่วยเหลือยังลงมือทำหน้าที่อย่างไม่ลดละ และเด็กจะรอดก็เพราะการทำงานของคนเหล่านี้ ไม่ได้รอดเพราะเหตุปัจจัยอื่น นี่จึงเรียกว่า ความเชื่อที่จะนำไปสู่ความรอด
แต่เมื่อไหร่ เราไปมองเรื่องสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น ไปให้ราคาไปให้ความสำคัญกับคนทรง หรือแม้แต่พระที่เข้าไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ นั่งอ้อนวอน บรวงสรวง จุดธูป จุดเทียน เซ่นไหว้ เด็กก็จะไม่เหลือโอกาส น้ำไม่ได้ลด ฝนไม่ได้หยุดตกเพราะความพอใจของสิ่งที่มองไม่เห็น ถ้าคนใช้วิธีไสยศาสตร์เพียงอย่างเดียวในการเป็นความหวัง เด็กเด็กไม่มีทางรอดแน่ นี่จึงเรียกว่า ความเชื่อที่จะนำไปสู่ความไม่รอด
หวังว่าเมื่อพบตัวเด็กเด็กแล้ว คนจะช่วยกันสดุดียกย่องขอบคุณ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานหนัก ทั้งอดหลับอดนอนอยู่หลายวัน ทั้งต้องเสี่ยงอันตรายอะไรต่างๆ เพื่อเข้าไปในถ้ำ ทั้งที่เป็นคนต่างชาติ ซึ่งมีน้ำใจเดินทางข้ามประเทศมาช่วยเหลือ คนจะช่วยกันพูดถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ถูกนำมาใช้เพื่อการค้นหาเด็กเด็กที่ติดถ้ำ เพื่อเป็นข้อมูลศึกษาสำหรับการกู้ภัยในครั้งต่อๆไป หวังว่า เราจะไม่พากันเตรียมจัดพิธีใหญ่ บรวงสรวงขอบคุณเจ้าที่เจ้าทาง (ซึ่งไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า ) ซึ่งขังเด็กไว้ในถ้ำเป็นอาทิตย์ หากเมื่อได้ตัวเด็กเด็กออกมาแล้ว บทเรียนต้องนำไปสู่อะไรที่ดีกว่าเดิม ขอให้ระลึกถึงข้อนี้ให้มาก
ระบุว่า ถ้ามองแบบใช้เหตุผล และเชื่อความเกื้อกูลกันของเหตุปัจจัย เราจะมีความหวัง เราจะเห็นว่า หน่วยงานหลายหน่วยงาน
กำลังปฎิบัติหน้าที่ กำลังจะช่วยกัน เพื่อนำเด็กออกมาจากถ้ำ ความหวังยังคงมี ถ้าตราบใดคนที่ช่วยเหลือยังลงมือทำหน้าที่อย่างไม่ลดละ และเด็กจะรอดก็เพราะการทำงานของคนเหล่านี้ ไม่ได้รอดเพราะเหตุปัจจัยอื่น นี่จึงเรียกว่า ความเชื่อที่จะนำไปสู่ความรอด
แต่เมื่อไหร่ เราไปมองเรื่องสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น ไปให้ราคาไปให้ความสำคัญกับคนทรง หรือแม้แต่พระที่เข้าไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ นั่งอ้อนวอน บรวงสรวง จุดธูป จุดเทียน เซ่นไหว้ เด็กก็จะไม่เหลือโอกาส น้ำไม่ได้ลด ฝนไม่ได้หยุดตกเพราะความพอใจของสิ่งที่มองไม่เห็น ถ้าคนใช้วิธีไสยศาสตร์เพียงอย่างเดียวในการเป็นความหวัง เด็กเด็กไม่มีทางรอดแน่ นี่จึงเรียกว่า ความเชื่อที่จะนำไปสู่ความไม่รอด
หวังว่าเมื่อพบตัวเด็กเด็กแล้ว คนจะช่วยกันสดุดียกย่องขอบคุณ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานหนัก ทั้งอดหลับอดนอนอยู่หลายวัน ทั้งต้องเสี่ยงอันตรายอะไรต่างๆ เพื่อเข้าไปในถ้ำ ทั้งที่เป็นคนต่างชาติ ซึ่งมีน้ำใจเดินทางข้ามประเทศมาช่วยเหลือ คนจะช่วยกันพูดถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ถูกนำมาใช้เพื่อการค้นหาเด็กเด็กที่ติดถ้ำ เพื่อเป็นข้อมูลศึกษาสำหรับการกู้ภัยในครั้งต่อๆไป หวังว่า เราจะไม่พากันเตรียมจัดพิธีใหญ่ บรวงสรวงขอบคุณเจ้าที่เจ้าทาง (ซึ่งไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า ) ซึ่งขังเด็กไว้ในถ้ำเป็นอาทิตย์ หากเมื่อได้ตัวเด็กเด็กออกมาแล้ว บทเรียนต้องนำไปสู่อะไรที่ดีกว่าเดิม ขอให้ระลึกถึงข้อนี้ให้มาก
นอกจากนี้ยัง โพสต์ถึง ตำนานความเชื่อ เรื่องลี้ลับ ปม "เจ้าแม่นางนอน" บังตา และ กักขัง ไม่ยอมปล่อยเด็กๆเเละโค้ช ออกมาว่า
"นางนอนนางหนอนอะไรนี่นะ ถ้ามีจริงจะเทศนาสอนให้ไปเกิดไม่ทันเลย ตายแล้วไม่รู้จักแล้ว จะมาเฝ้าทำไมถ้ำนั่นนะ เขามีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานดูแลอยู่ มันไม่ใช่หน้าที่ของผีต้องมาเฝ้าป่าเฝ้าเขา แล้วตัวเองอาภัพความรัก มันควรจะรู้จักความรักได้ดีกว่าคนอื่นไม่ใช่หรอ ทำไมไม่มอบความรักให้เด็กแบบที่ตัวเองอยากได้ล่ะ ทำไมไม่ช่วยพาเด็กออกมาหาพ่อหาแม่ ดลจิตดลใจอะไรก็ทำไปดิ ต้องให้คนนั้นคนนี้ สวดมนต์อ้อนวอนต่อรองอะไร ตายเป็นผีแล้วยังเป็นผีเลอะเทอะอีก ชาวบ้านเขาเป็นเดือดเป็นร้อนเป็นทุกข์ใจกันทั้งประเทศ ไม่ละอายใจบ้างไง ลุกขึ้นมาเลย ถ้ามีจริง ไม่ต้องนอนแล้ว มาเข้าฝันอาตมาก็ได้นะ เดี๋ยวเจอกันในฝันอีกรอบ ให้รู้ไปว่า ผีไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีก็มี #อย่าเก่งกับเด็ก
เอาแบบสาระเลยก็แล้วกันนะ ที่จริงตเสตัสนี้ อาตมาเขียนขึ้นเพื่อต้องการให้สติกับคน ว่าอย่าไปหลงเชื่อเรื่องตำนานกันนักเลย อย่าเอาแต่อ้อนวอนขอร้องอยู่ เพราะมันไม่ทำให้สำเร็จประโยชน์ นี่พระพุทธศาสนาสอนเรื่องนี้ชัดมาก แต่คนที่อ้างว่าตัวเองเป็นคนพุทธก็ไม่เชื่อคำของพระพุทธเจ้าเลย คือมันไม่ใช่ว่าอาตมาจะเชื่อเรื่องนางนอนอะไรนี่จริงจริง เรื่องพวกนี้เชื่อแล้วมีแต่ทำให้หลงทิศหลงทาง โยมจะสังเกตว่าคนโยงกันไปเรื่อย เอารูปเจ้าหญิงของพม่า มาอ้างกันเป็นตุเป็นตะ ว่าเป็นนางนอน เอารูปในถ้ำมามโน ว่าเห็นเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ ซึ่งมันไม่เป็นสาระเลย สิ่งที่เราควรทำคือการเจริญเมตตาภาวนา ส่งกำลังใจถึงเด็กที่ประสบภัย ส่งกำลังใจถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงาน คนที่มีน้ำใจยอมขนเครื่องสูบน้ำไปที่นั่น คนมีน้ำใจบริจาคถังออกซิเจน คนมีน้ำใจเลี้ยงอาหาร คนหลายคนยอมอดหลับอดนอนค้นหาอยู่ในถ้ำ นี่ต่างหากทางที่จะนำไปสู่การช่วยเหลือ ไม่ใช่ผีสางเทวดา เป็นเพราะคนยอมก้มหัวให้กับสิ่งลี้ลับอะไรนี่เอง ถึงไม่สามารถพัฒนาตนได้ ถ้าเป็นคนพุทธต้องเชื่อหลักของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกว่า ความเพียรพยายามของมนุษย์ แม้แต่เทวดาก็กีดกันไม่ได้ นี่ขนาดเทวดานะ ไม่ต้องพูดถึงสัมภเวสีชั้นล่างๆ อะไรเลย
ในขณะที่ใครหลายคนกำลังเหน็ดเหนื่อยเสียสละเพื่อค้นหาเด็กที่หายตัวไปในถ้ำ ก็มีคนอีกหลายคนที่พยายามจะสร้างตำนาน สร้างนิยาย และนิยมชมชอบกับการนำเสนอเรื่องราวอาถรรพ์สิ่งลี้ลับ จนถึงขั้นว่า มโนเอาเองจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติและภาพถ่ายในความมืดก็มี อย่าว่าแต่ผีสางนางไม้เลย พระพุทธเจ้าบอกว่า ความเพียรพยายามของมนุษย์ แม้แต่เทวดาก็กีดกันไม่ได้ ถ้าจะมีใครสักคนเป็นฮีโร่ของเรื่องนี้ คนเหล่านั้น คือเจ้าหน้าที่ลงมือทำงาน ไม่ใช่คนอื่น "
"นางนอนนางหนอนอะไรนี่นะ ถ้ามีจริงจะเทศนาสอนให้ไปเกิดไม่ทันเลย ตายแล้วไม่รู้จักแล้ว จะมาเฝ้าทำไมถ้ำนั่นนะ เขามีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานดูแลอยู่ มันไม่ใช่หน้าที่ของผีต้องมาเฝ้าป่าเฝ้าเขา แล้วตัวเองอาภัพความรัก มันควรจะรู้จักความรักได้ดีกว่าคนอื่นไม่ใช่หรอ ทำไมไม่มอบความรักให้เด็กแบบที่ตัวเองอยากได้ล่ะ ทำไมไม่ช่วยพาเด็กออกมาหาพ่อหาแม่ ดลจิตดลใจอะไรก็ทำไปดิ ต้องให้คนนั้นคนนี้ สวดมนต์อ้อนวอนต่อรองอะไร ตายเป็นผีแล้วยังเป็นผีเลอะเทอะอีก ชาวบ้านเขาเป็นเดือดเป็นร้อนเป็นทุกข์ใจกันทั้งประเทศ ไม่ละอายใจบ้างไง ลุกขึ้นมาเลย ถ้ามีจริง ไม่ต้องนอนแล้ว มาเข้าฝันอาตมาก็ได้นะ เดี๋ยวเจอกันในฝันอีกรอบ ให้รู้ไปว่า ผีไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีก็มี #อย่าเก่งกับเด็ก
เอาแบบสาระเลยก็แล้วกันนะ ที่จริงตเสตัสนี้ อาตมาเขียนขึ้นเพื่อต้องการให้สติกับคน ว่าอย่าไปหลงเชื่อเรื่องตำนานกันนักเลย อย่าเอาแต่อ้อนวอนขอร้องอยู่ เพราะมันไม่ทำให้สำเร็จประโยชน์ นี่พระพุทธศาสนาสอนเรื่องนี้ชัดมาก แต่คนที่อ้างว่าตัวเองเป็นคนพุทธก็ไม่เชื่อคำของพระพุทธเจ้าเลย คือมันไม่ใช่ว่าอาตมาจะเชื่อเรื่องนางนอนอะไรนี่จริงจริง เรื่องพวกนี้เชื่อแล้วมีแต่ทำให้หลงทิศหลงทาง โยมจะสังเกตว่าคนโยงกันไปเรื่อย เอารูปเจ้าหญิงของพม่า มาอ้างกันเป็นตุเป็นตะ ว่าเป็นนางนอน เอารูปในถ้ำมามโน ว่าเห็นเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ ซึ่งมันไม่เป็นสาระเลย สิ่งที่เราควรทำคือการเจริญเมตตาภาวนา ส่งกำลังใจถึงเด็กที่ประสบภัย ส่งกำลังใจถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงาน คนที่มีน้ำใจยอมขนเครื่องสูบน้ำไปที่นั่น คนมีน้ำใจบริจาคถังออกซิเจน คนมีน้ำใจเลี้ยงอาหาร คนหลายคนยอมอดหลับอดนอนค้นหาอยู่ในถ้ำ นี่ต่างหากทางที่จะนำไปสู่การช่วยเหลือ ไม่ใช่ผีสางเทวดา เป็นเพราะคนยอมก้มหัวให้กับสิ่งลี้ลับอะไรนี่เอง ถึงไม่สามารถพัฒนาตนได้ ถ้าเป็นคนพุทธต้องเชื่อหลักของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกว่า ความเพียรพยายามของมนุษย์ แม้แต่เทวดาก็กีดกันไม่ได้ นี่ขนาดเทวดานะ ไม่ต้องพูดถึงสัมภเวสีชั้นล่างๆ อะไรเลย
ในขณะที่ใครหลายคนกำลังเหน็ดเหนื่อยเสียสละเพื่อค้นหาเด็กที่หายตัวไปในถ้ำ ก็มีคนอีกหลายคนที่พยายามจะสร้างตำนาน สร้างนิยาย และนิยมชมชอบกับการนำเสนอเรื่องราวอาถรรพ์สิ่งลี้ลับ จนถึงขั้นว่า มโนเอาเองจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติและภาพถ่ายในความมืดก็มี อย่าว่าแต่ผีสางนางไม้เลย พระพุทธเจ้าบอกว่า ความเพียรพยายามของมนุษย์ แม้แต่เทวดาก็กีดกันไม่ได้ ถ้าจะมีใครสักคนเป็นฮีโร่ของเรื่องนี้ คนเหล่านั้น คือเจ้าหน้าที่ลงมือทำงาน ไม่ใช่คนอื่น "
ที่มาจาก FB พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น