จากใจผู้ประพันธ์! “เนียรปาตี” โพสต์ร่ายยาวเล่าความรู้สึก หลัง “ละครกลิ่นกาสะลอง” อวสาน ลั่น! “จบตรงกับวันเกิดตน”
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล โพสของคนดัง จากใจผู้ประพันธ์! “เนียรปาตี” โพสต์ร่ายยาวเล่าความรู้สึก หลัง “ละครกลิ่นกาสะลอง” อวสาน ลั่น! “จบตรงกับวันเกิดตน”
ยอมรับเลยค่ะว่าเป็นละครที่เรียกเรตติ้งได้ดีที่สุด เนื่งจากมีผู้ชมให้ความสนใจสำหรับละครเรื่อง "กลิ่นกาสะลอง" จากนิยายสู่ละครจอแก้ว โดยมีผู้กำกับมากฝีมืออย่าง "สันต์ ศรีแก้วหล่อ" ผู้กำกับ ที่ไร่เรียงดูชื่อตัวละครจากในนิยายลงจอทีวีที่เรียกได้ว่าเรตติ้งพุ่งกระฉูดสุดๆ
ซึ่งหลังจากที่ละครเรื่อง "กลิ่นกาสะลอง" จบนั้นผู้ประพันธ์บทอย่าง "เนียรปาตี" ก็ได้โพสต์ภาพบทละคร และได้โพสต์ร่ายยาวถึงความรู้สึก ตลอดจนกระแสตอบรับ ดังนี้
วันเกิดปีนี้พิเศษกว่าทุกปี เพราะตรงกันพอดีกับตอนจบของ "กลิ่นกาสะลอง" นวนิยายเรื่องแรกที่ถูกนำไปสร้างเป็นละครช่อง 3 และมีกระแสอยู่พอสมควร
จากนิยายสู่ละคร รู้สึกว่า...ในที่สุดก็มีผู้จัดที่ ‘เสี่ยง' จะสร้างเรื่องนี้ เพราะเขียนมานาน และพล็อตเรื่องอาจจะไม่ใหม่ หรือทันสมัยสำหรับผู้ชมปัจจุบัน อีกทั้งยังมีความยากของโปรดักชั่นอยู่หลายจุด เมื่อพี่แหม่ม ธิติมา ตัดสินใจว่าจะลุย ผมก็ลุ้นและเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ เนื่องจากผมมิได้รู้จักผู้จัดและทีมงานเป็นการส่วนตัวมาก่อน ข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับละครเรื่องนี้จึงรู้พร้อมกับแฟนคลับญาญ่าและเจมส์ มา แล้วก็ติดตามข่าวเรื่อยมาตั้งแต่วันฟิตติ้ง การถ่ายทำซีนต่างๆ ในวันต่างๆ จนถึงวันนี้ที่ "กลิ่นกาสะลอง" ได้จบไปอย่างสวยงาม
สองเสาหลักที่สำคัญ คนแรกคือ พี่สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับฝีมือดีที่หากผมจะไล่เรียงดูชื่อละครที่ตนเองติดตามแล้ว ก็นับได้ว่าติดตามงานของพี่สันต์มากที่สุด และดีใจมากขึ้นเมื่อพี่สันต์มากำกับเรื่องนี้และยังคงลายเซ็นของพี่เด่นชัดมาก อีกคนคือ พี่ปุ๊ ปารดา ซึ่งผมค่อนข้างเห็นใจว่าพี่ปุ๊ต้องทำงานหนักในการเขียนบท เพราะหลายอย่างในนิยายผมใช้วิธีการ "ละไว้ให้คิดเอง" เพื่อให้ผู้อ่านจินตนาการต่อเอาเองแบบที่คิดว่าควรจะเป็น ตัวละครที่มีทั้งแบบสุดโต่งแบบขาวกับดำ หรือตัวละครที่มีความเทาๆ อยู่บ้าง
ประกอบกับภาษาเหนือที่ในละครพูดกันทั้งเรื่อง ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักมากของทุกคน เพราะในนิยายเขียนภาษาเหนือแทรกมาพอให้ได้อรรถรถว่าเป็นเมืองเหนือเท่านั้น ในฐานะผู้ประพันธ์ ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ละครเรื่องนี้ถ่ายทอดเนื้อหาที่ผมต้องการสื่อสารได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ก็ต้องขอบคุณแรงเสริมฝ่ายอื่นๆ ในทีม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายศิลป์และฝ่ายภาพที่ทำให้ภาพของกลิ่นกาสะลองได้รับคำชมมาตลอดทั้งเรื่อง ทีมเสื้อผ้าหน้าผมที่ทำให้นักแสดงสวยหล่อเป็นธรรมชาติกันทุกคน แถมตรงตามประวัติศาสตร์ด้วย
นักแสดงน้อยแต่มาก ดังที่ได้เห็นแล้วว่านักแสดงหลักเรื่องนี้มีไม่มีคน แต่ว่าแต่ละครต้องรับบทบาทหลากหลาย คนแรกที่ต้องยืนปรบมือให้คือ "ญาญ่า" เพราะรับภาระหนักที่สุดในเรื่อง สิ่งที่ยินดีกับน้องคือ มีเสียงชื่นชมการแสดงของน้องไปในทิศทางเดียวกัน คนที่รักก็ยิ่งรักมากขึ้น คนที่เฉยๆ หรืออาจจะไม่ได้ติดตามสม่ำเสมอ ก็หลงรักญาญ่าจากการแสดงเรื่องนี้ เช่นเดียวกับ "เจมส์ มา" ที่เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่เจมส์เป็นหมอทรัพย์ที่มีอานุภาพทำลายล้างมาก ดูเป็นหมอหนุ่ม (โลกสวย) ที่มีเสน่ห์จริงๆ
สำหรับ "ป๊อป ฐากูร" ก็เป็นอ้ายมั่นฟ้าที่ห้าวได้ใจ ทำให้คนเกลียดและรักได้ตามบทบาทของตัวละคร ส่วนน้อง "ฝ้าย นันทนัช" ผมได้ดูผลงานของน้องมาบ้าง แต่ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้ ฝ้ายเป็นอีเหมยที่โดดเด่นมาก ฉากตลกก็ชวนขำ แต่ซีนดราม่าก็เล่นเอาเสียน้ำตาไปด้วยทุกครั้ง คนสุดท้ายคือ "น้องอันดา" ผู้รับบทบัวเกี๋ยงได้อย่างมีสีสันมาก เป็นภาพจำจริงๆ ว่านี่คือบัวเกี๋ยง ถึงขนาดที่ทำให้ผมเปลี่ยนความตั้งใจเดิมว่าจะไม่เขียนภาคต่ออะไรอีกแล้วที่เกี่ยวกับกลิ่นกาสะลอง มาเริ่มวางพล็อตเรื่องใหม่ที่มี "บัวเกี๋ยง" เป็นนางเอก
นักแสดงอาวุโสในเรื่องนี้ ฝีมือฟาดฟันกันเต็มที่ เหนือสิ่งอื่นใดผมขอกราบสปิริตในการแสดงของทุกท่าน เพราะหากเราจะทบทวนดูหลายๆ ซีนจะเห็นว่า นักแสดงอาวุโสเป็นผู้ถูกกระทำก็เยอะ อาทิ ฉากย่าบัวเกี๋ยงตายแล้วผีกาสะลองลูบศีรษะ ฉากผีกาสะลองเหยียบหลังลุงแก้ว ฉากซ้องปีบปะทะกับนายแคว้นและแม่ทองใบ ทุกท่านเล่นอย่างไม่ถือตัวเลย เหนือสิ่งอื่นใด ขอให้อาปุ๊รักษาสุขภาพด้วยนะครับ เพราะบางฉากอาต้องวิ่งไกลแล้วยังมีคิวบู๊อีก
น้อมรับคำติชม ต้องยอมรับว่า "กลิ่นกาสะลอง" ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีทั้งคำชื่นชม คำวิจารณ์ และข้อเสนอแนะต่างๆ มากมาย ทั้งจากฉบับนวนิยายและฉบับละคร ในส่วนของการประพันธ์ ผมมิได้มีจุดมุ่งหมายจะแหกกฎเรื่อง "กฎแห่งกรรม" แต่อย่างใด ยังคงเชื่อมั่นอยู่ว่าใครทำกรรมอย่างไรก็ต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้น ซึ่งอาจมาในรูปแบบเดิมหรือรูปแบบอื่น แต่จะหนีพ้นไปนั้นเป็นไม่มี และในเรื่องของดวงจิตสุดท้ายที่เกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิด ก็เป็นที่มาของชาติภพถัดมาของทุกตัวละคร อย่างไรก็ดี หากในนิยายผมยังไม่สามารถสื่อสารตรงนี้ได้ชัดเจน หรือพล็อตเช่นนี้มันล้าสมัยไปแล้วสำหรับปัจจุบัน ก็ขอได้โปรดให้อภัยและคิดเสียเถิดว่า นี่เป็นจินตนาการที่อาจจะไม่เข้ารูปเข้ารอยของเด็กคนหนึ่งเมื่อสิบห้าปีก่อนที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร แต่ริจะเขียนนิยายให้จบสักเรื่อง อย่างไรก็ดี เมื่อได้เผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว ผมก็พร้อมรับทั้งคำติชมและข้อเสนอแนะ เพื่อจะได้พัฒนาตนเองต่อไป
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น