นพ. เผย วิธีเช็คระดับความรุนแรง จากคำแนะนำแพทย์จีน!?!
ล่าสุดทางด้านของ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้โพสต์ระดับความรุนแรงของโรค และขั้นตอนการรักษาทางการแพทย์ ที่ได้รับมาจากจีน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้...
ระดับความรุนแรงของโรคและการรักษาเรียบเรียงและปรับจากคำแนะนำของจีนฉบับที่เจ็ด
(จีนใช้ CT scan ปอดทั้งหมด ในที่นี้ใช้เอกซเรย์ปอดธรรมดาแทน ซึ่งมีความไวน้อยกว่ามาก )
20/3/63 ตัด lopinavir/ritonavir ทื้งเนื่องจากไม่ได้ผล ใชั darunavir/ritonavir แทน
1. อาการน้อย
คือ มีไข้แต่ใช้ยาลดไข้แล้วดีขึ้น อาจมีไอบ้างแต่ไม่เหนื่อย
(CT Chest หรือ CXR ปกติ ถ้าทำได้)
-รักษาตามอาการและสังเกตอาการ
2. อาการปานกลาง
ก) อาการปานกลางมีไข้แต่การหายใจปกติ+CTหรือCXRผิดปกติ
-เริ่มCQ+DRV/ritonavir /(2drugs)
ข) มีไข้และมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ หายใจเร็วแต่น้อยกว่า 30 ครั้งต่อนาที ร่วมกับปอดผิดปกติ
(CT chest หรือ CXR ผิดปกติ)
หรือกลุ่มปานกลางในข้อ2ก ที่ได้2drugsมาเกิน72ชม แล้วไข้ไม่ลดลง
-add Favi+ยาเดิมที่ได้มาก่อน(CQ+DRV/r )
กลายเป็น3drugs
3. อาการรุนแรง
ก)ผู้ใหญ่ มีอาการข้อใดข้อหนึ่ง
หายใจเร็วมากกว่าหรือเท่ากับ 30 ครั้งต่อนาที
ความอิ่มตัวของออกซิเจนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 93% ขณะพัก
PaO2/FiO2 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 300 มิลลิเมตรปรอท
CXRหรือ CT chestเลวลงอย่างต่อเนื่อง ภายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมง
-รักษาFavi+CQ+DRV/r
(3drugs)
ข)อาการปานกลาง2ข หรืออาการรุนแรง3กที่ได้3drugsแล้วยังทรุดลงเช่นมีไข้สูงไม่ลดลงภายใน3-5วัน
CXR หรือ CT chestแย่ลง
ให้add Remdesivir กลายเป็น4drugs(Favi+CQ+DRV/r or LOV/r+Remdesivir)
4. อาการวิกฤต
มีข้อใดข้อหนึ่ง เพราะว่าการหายใจล้มเหลวแต่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ช็อค
มีอวัยวะระบบอื่นล้มเหลวที่ต้องการการดูแล ICU
-ให้ยา3drugs Favi+CQ+DRV/r
เด็กมีข้อใดข้อหนึ่ง
หายใจเร็วมากกว่าหรือเท่ากับ 60 ครั้งต่อนาทีสำหรับเด็กอายุน้อยกว่าสองเดือน
มากกว่าหรือเท่ากับ 50 ครั้งต่อนาทีสำหรับเด็กอายุสองถึง 12 เดือนมากกว่าหรือเท่ากับ 40 ครั้งต่อนาที
สำหรับเด็กอายุหนึ่งถึงห้าปี
มากกว่า 30 ครั้งต่อนาทีสำหรับเด็กอายุมากกว่าห้าปี
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับไข้และกำลังร้องไห้หรือไม่
ความอิ่มตัวของออกซิเจนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 92% จากการวัดที่นิ้วขณะพัก
หายใจลำบาก ดูจากการทำงานของกล้ามเนื้อหายใจ เขียว และมีหยุดหายใจเป็นพักๆ
ซึมและมีอาการชัก
ป้อนนมและอาหารลำบากและมีลักษณะขาดน้ำ
เครดิตแหล่งข้อมูล : FB.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น