ศ.ดร.ปิ่นแก้ว โพสต์ ความน่าเศร้าของฝ่ายปชต.บางคน คือใช้ทุกอย่างเป็นเครื่องมือ
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล โพสของคนดัง ศ.ดร.ปิ่นแก้ว โพสต์ ความน่าเศร้าของฝ่ายปชต.บางคน คือใช้ทุกอย่างเป็นเครื่องมือ
เมื่อวันที่ 9 มกราคม ศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Pinkaew Laungaramsri เกี่ยวกับดราม่าช่วยเด็กดอยที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ว่า
ความน่าเศร้าของฝ่ายประชาธิปไตยบางคนคือคนเหล่านี้พร้อมที่จะใช้ทุกอย่างเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพียงเพื่อบรรลุเป้าหมายของการที่พวกเขาคิดว่ามันคือการวิพากษ์รัฐ และทั้งที่ก็รู้เต็มอกว่า สิ่งที่พวกเขา endorse นั้นคือการผลิตซ้ำวาทกรรมเหยียดชาติพันธุ์ : มนุษย์ถ้ำ, ถางป่าถางเขา, ปลูกผักไม่เป็น ฯลฯ การสนับสนุนทัศนะ patronizing ของคนเมืองต่อคนบนดอย และการเห็นด้วยกับการบิดเบือนความเป็นจริงของชีวิตของผู้คนในเขตป่า การทำเช่นนี้ ไม่เพียงทำให้ชาวบ้านกลายเป็นเหยื่อที่ไร้เสียง แต่เรื่องที่ย้อนแย้งคือ มันกลับสนับสนุนอำนาจของรัฐที่พวกเขาคิดว่าต่อต้าน ด้วยการผลิตซ้ำตรรกะของรัฐเสียเอง
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่า การผลิตสร้างภาพลักษณ์อันแสน pathetic ของเด็กบนดอยนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างกำไรในธุรกิจออนไลน์ของเหล่ายูทูบเบอร์อย่างไร (ผู้ที่สนใจโปรดเข้าไปติดตามข้อเท็จจริง หรือการบิดเบือนข้อเท็จจริงกันเอาเองในเพจศศช บ้านแม่เกิบ กศน อมก๋อย) การสะสมทุนประเภทนี้ ไม่ยักกะมีคนมีความเห็น
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ศ.ดร.ปิ่นแก้ว ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณีดังกล่าวไว้ จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันขึ้นมา เกี่ยวกับการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือเด็กดอย โดยข้อความดังกล่าว ระบุว่า
ความฝันมันสร้างกันง่ายๆด้วยการติดทีวีให้ดู ติดแผงโซล่าเซลล์ หาเกิบให้เด็กใส่ เอาไฟฉายติดให้บนหัว เลิก ถางภูเขาเป็นลูกๆ และ สอน ชาวบ้านให้หัดรู้จักปลูก ผักสลัด
ความน่าเศร้าของฝ่ายประชาธิปไตยบางคนคือคนเหล่านี้พร้อมที่จะใช้ทุกอย่างเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพียงเพื่อบรรลุเป้าหมายของการที่พวกเขาคิดว่ามันคือการวิพากษ์รัฐ และทั้งที่ก็รู้เต็มอกว่า สิ่งที่พวกเขา endorse นั้นคือการผลิตซ้ำวาทกรรมเหยียดชาติพันธุ์ : มนุษย์ถ้ำ, ถางป่าถางเขา, ปลูกผักไม่เป็น ฯลฯ การสนับสนุนทัศนะ patronizing ของคนเมืองต่อคนบนดอย และการเห็นด้วยกับการบิดเบือนความเป็นจริงของชีวิตของผู้คนในเขตป่า การทำเช่นนี้ ไม่เพียงทำให้ชาวบ้านกลายเป็นเหยื่อที่ไร้เสียง แต่เรื่องที่ย้อนแย้งคือ มันกลับสนับสนุนอำนาจของรัฐที่พวกเขาคิดว่าต่อต้าน ด้วยการผลิตซ้ำตรรกะของรัฐเสียเอง
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่า การผลิตสร้างภาพลักษณ์อันแสน pathetic ของเด็กบนดอยนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างกำไรในธุรกิจออนไลน์ของเหล่ายูทูบเบอร์อย่างไร (ผู้ที่สนใจโปรดเข้าไปติดตามข้อเท็จจริง หรือการบิดเบือนข้อเท็จจริงกันเอาเองในเพจศศช บ้านแม่เกิบ กศน อมก๋อย) การสะสมทุนประเภทนี้ ไม่ยักกะมีคนมีความเห็น
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ศ.ดร.ปิ่นแก้ว ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณีดังกล่าวไว้ จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันขึ้นมา เกี่ยวกับการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือเด็กดอย โดยข้อความดังกล่าว ระบุว่า
ความฝันมันสร้างกันง่ายๆด้วยการติดทีวีให้ดู ติดแผงโซล่าเซลล์ หาเกิบให้เด็กใส่ เอาไฟฉายติดให้บนหัว เลิก ถางภูเขาเป็นลูกๆ และ สอน ชาวบ้านให้หัดรู้จักปลูก ผักสลัด
มันไม่ใช่ความฝันของเด็กดอยหรอกแบบนี้ มันความฝันอยากจะโปรดสัตว์ชนชั้นล่าง ของพวกชนชั้นกลางในเมืองที่ไม่เคยรู้/สนห่าเหวอะไรเลยเกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ การเบียดขับชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย และการตัดขาดพวกเขาออกจากการเข้าถึงทุกอย่างในสังคม ที่อย่าว่าแต่ทีวีเลย ลำพังแค่จะทำไร่ปลูกข้าวให้มันพอกินในที่ดินที่พวกป่าไม้ยึดครอง ยัง ขัดตา พวกชนชั้นกลางในเมืองเลย
เศรษฐกิจการโปรดสัตว์ สนองตัณหาความฟีลกู๊ดของพวกคนในเมืองสร้างกำไรเสมอ โดยเฉพาะในวันเด็กแบบนี้
ซึ่งปรากฏว่า มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นต่างๆนานาเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเกี่ยวกับชนชั้นเครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น