หมอมนูญ แนะ!ไทยรอสั่ง วัคซีนโควิด ครอบคลุมสายพันธุ์ใหม่
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล โพสของคนดัง หมอมนูญ แนะ!ไทยรอสั่ง วัคซีนโควิด ครอบคลุมสายพันธุ์ใหม่
หมอมนูญ หรือ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ถึงกรณี วัคซีนโควิด
โดยระบุว่า
รัฐบาลเตรียมจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดปีนี้รวมกว่า 63 ล้านโดส จำนวนนี้จริงๆแล้วสามารถครอบคลุมคนไทยเกือบทั้งประเทศรวมทั้งแรงงานต่างชาติชาวเมียนมา (ยกเว้นกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี และหญิงตั้งครรภ์) ถ้าฉีดให้ทุกคนเพียงคนละ 1 โดส
นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศให้ความเห็นในสถานการณ์ที่มีวัคซีนป้องกันโควิดไม่เพียงพอ การให้วัคซีน 1 เข็มกับทุกคน ดีกว่าให้ 2 เข็มกับคนบางกลุ่ม และปล่อยให้คนที่เหลือไม่ได้วัคซีน (ดูรูป) ยกตัวอย่างวัคซีนแอสตราเซเนกา ถ้าให้ 2 โดส มีประสิทธิภาพป้องกันการเจ็บป่วยได้ร้อยละ 82 เมื่อเทียบกับให้ 1 โดส ป้องกันการเจ็บป่วยได้ร้อยละ 76
ถ้ามีวัคซีนเพียง 1 ล้านโดส และมีประชากร 1 ล้านคน ถ้าต้องให้คนละ 2 เข็ม จะให้คนได้เพียง 5 แสนคน หลังจากฉีดวัคซีนคน 4.1 แสนคนจะมีภูมิคุ้มกัน ที่เหลือ 5.9 แสนคนไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ถ้าให้วัคซีน 1 ล้านคน คนละ 1 โดส หลังฉีดจะมีภูมิคุ้มกันมากถึง 7.6 แสนคน เราทราบดีว่าวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) หยุดการแพร่ระบาดของโรคได้ ถ้าประชากรมากกว่าร้อยละ 70 มีภูมิคุ้มกัน การให้วัคซีน 1 ล้านคน คนละ 1 โดส จึงมีประโยชน์มากกว่าให้คน 5 แสนคน คนละ 2 โดส
ข้อมูลใหม่วัคซีนแอสตราเซเนกาสามารถป้องกันการแพร่เชื้อได้ด้วย คนอายุ 20-49 ปีเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นมากถึงร้อยละ 70 การให้วัคซีนคนกลุ่มนี้ตั้งแต่ต้นมีประโยชน์ แทนที่จะฉีดกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดได้ด้วย
วัคซีนทุกบริษัทมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ประเทศแอฟริกาใต้และบราซิลได้ไม่ดีเลย ขณะนี้กำลังมีการพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ให้ครอบคลุมสายพันธุ์ใหม่นี้ ประเทศไทยสามารถรอสั่งวัคซีนใหม่นี้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นวัคซีนของบริษัทเดิม มาให้เข็มที่ 2 สำหรับประชาชนคนไทยและแรงงานต่างชาติทุกคนปีหน้า
โดยระบุว่า
รัฐบาลเตรียมจัดหาวัคซีนป้องกันโควิดปีนี้รวมกว่า 63 ล้านโดส จำนวนนี้จริงๆแล้วสามารถครอบคลุมคนไทยเกือบทั้งประเทศรวมทั้งแรงงานต่างชาติชาวเมียนมา (ยกเว้นกลุ่มเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี และหญิงตั้งครรภ์) ถ้าฉีดให้ทุกคนเพียงคนละ 1 โดส
นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศให้ความเห็นในสถานการณ์ที่มีวัคซีนป้องกันโควิดไม่เพียงพอ การให้วัคซีน 1 เข็มกับทุกคน ดีกว่าให้ 2 เข็มกับคนบางกลุ่ม และปล่อยให้คนที่เหลือไม่ได้วัคซีน (ดูรูป) ยกตัวอย่างวัคซีนแอสตราเซเนกา ถ้าให้ 2 โดส มีประสิทธิภาพป้องกันการเจ็บป่วยได้ร้อยละ 82 เมื่อเทียบกับให้ 1 โดส ป้องกันการเจ็บป่วยได้ร้อยละ 76
ถ้ามีวัคซีนเพียง 1 ล้านโดส และมีประชากร 1 ล้านคน ถ้าต้องให้คนละ 2 เข็ม จะให้คนได้เพียง 5 แสนคน หลังจากฉีดวัคซีนคน 4.1 แสนคนจะมีภูมิคุ้มกัน ที่เหลือ 5.9 แสนคนไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ถ้าให้วัคซีน 1 ล้านคน คนละ 1 โดส หลังฉีดจะมีภูมิคุ้มกันมากถึง 7.6 แสนคน เราทราบดีว่าวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) หยุดการแพร่ระบาดของโรคได้ ถ้าประชากรมากกว่าร้อยละ 70 มีภูมิคุ้มกัน การให้วัคซีน 1 ล้านคน คนละ 1 โดส จึงมีประโยชน์มากกว่าให้คน 5 แสนคน คนละ 2 โดส
ข้อมูลใหม่วัคซีนแอสตราเซเนกาสามารถป้องกันการแพร่เชื้อได้ด้วย คนอายุ 20-49 ปีเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นมากถึงร้อยละ 70 การให้วัคซีนคนกลุ่มนี้ตั้งแต่ต้นมีประโยชน์ แทนที่จะฉีดกลุ่มนี้เป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดได้ด้วย
วัคซีนทุกบริษัทมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ประเทศแอฟริกาใต้และบราซิลได้ไม่ดีเลย ขณะนี้กำลังมีการพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ให้ครอบคลุมสายพันธุ์ใหม่นี้ ประเทศไทยสามารถรอสั่งวัคซีนใหม่นี้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นวัคซีนของบริษัทเดิม มาให้เข็มที่ 2 สำหรับประชาชนคนไทยและแรงงานต่างชาติทุกคนปีหน้า
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น