ฟังอีกเสียง! เส้นเลือดในท้องโป่งพองเหตุดับ ไม่เกี่ยวฉีดวัคซีนเพราะ..?
สืบเนื่องจากกรณีที่ พบผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตกและเสียชีวิตหลังรับ วัคซีนโควิด ซึ่งทางด้าน นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เผยผลการสอบสวนเบื้องต้น ว่าผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย มีโรคประจำตัวหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ได้รับการผ่าตัดใน รพ.เอกชนในช่วงปลายเดือน ม.ค. 64 และพักรักษาใน รพ. นาน 40 วัน จากนั้นแพทยให้พักฟื้นที่บ้าน เมื่อกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ป่วยเห็นว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง จึงเข้ารับการฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64 โดยไม่มีอาการข้างเคียง สบายดี
หลังฉีดวัคซีนผ่านไป 3 วัน ได้รายงานในแอปพลิเคชันหมอพร้อมว่าอาการปกติ แต่ในการติดตามอาการวันที่ 7 ติดต่อผู้ได้รับวัคซีนไม่ได้ วันที่ 8-9 มีอาการแน่นหน้าอก จุกที่ลิ้นปี่ เหนื่อย เป็นลม จึงเข้ารักษาใน รพ. โดยอาการทรุดลง และเสียชีวิตในวันที่ 13 มี.ค.64 แพทย์สรุปว่า ผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง แตกรั่ว ซึ่งเป็นโรคประจำตัวเก่าของเขา แต่ผู้ป่วยมีประวัติเข้ารับการฉีดวัคซีน 10 วัน ก่อนมีอาการจึงต้องรายงานเข้าระบบ โดยโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง เหมือนมีระเบิดเวลาติดอยู่กับตัว ข้อมูลทางการแพทย์สรุปว่าการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน
"โควิดวัคซีน อาการที่เกิดร่วมด้วย อาการข้างเคียงที่เป็นข่าว การเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิดในประเทศไทย ผู้ป่วยมีเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง ที่เป็นมานานแล้ว (Aortic aneurysm) ที่พบได้ในผู้สูงอายุ และถ้าไม่ได้ตรวจทางรังสี อย่างละเอียด จะไม่รู้เลยว่าเป็น และเส้นเลือดนี้พร้อมที่จะแตกได้ทุกเมื่อ เนื่องจากเป็นเส้นเลือดแดงใหญ่ ถ้าเกิดการแตกจะมีเลือดออกจำนวนมาก และเสียชีวิตทันที เป็นเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วนมาก
ในผู้ป่วยรายนี้ได้รับวัคซีนและมีอาการดังกล่าว จึงตัดสินได้ค่อนข้างง่าย ว่าอาการดังกล่าวเป็นอาการที่เป็นมาก่อนนานแล้ว เพิ่งมาแสดงอาการ เพราะการแตกของเส้นเลือด จึงไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน เกิดขึ้นได้เองอยู่แล้ว โรคนี้พบได้ในผู้ที่มีอายุมาก และพบได้ในคนปกติอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนั้นในทำนองเดียวกัน เมื่อฉีดวัคซีนแล้วป่วยเป็นโรคอย่างอื่นที่ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะหาสาเหตุว่าเกิดในภาวะปกติหรือเป็นผลของวัคซีน การฉีดวัคซีนในหมู่มาก โดยเฉพาะทั่วโลกฉีดไปแล้วประมาณ 500 ล้านโดส ก็ต้องพบเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น และมีผู้เสียชีวิตหลังให้วัคซีนอย่างแน่นอน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องฟังข้อมูลสรุปทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ด้วยเหตุและผล #หมอยง"