หมอหม่อง เผยข้อมูลก่อนผู้ปกครองตัดสินใจ ปมวัคซีนเด็ก
"มีหลายคนถามความเห็นผมเกี่ยวกับการให้วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก ว่าตกลงจะเอาอย่างไรดี ผมเอง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนโดยตรงแต่เป็นแพทย์โรคหัวใจเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงวัคซีนบางชนิด
ผมลังเลที่จะให้ข้อมูล ความเห็นเรื่องนี้มาตลอดเพราะเห็นว่า มันไม่ง่ายเลย เกรงว่าจะชี้นำไม่ถูกต้อง
(ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มั่นใจขนาดทุบโต๊ะบอก)
จนวันนี้ ผมต้องตัดสินใจ ว่าจะเลือกอย่างไรดีกับกับลูกสาวผมเอง ผมจึงขออธิบาย ความคิดของผม เผื่อจะเป็นประโยชน์กับ คนอื่นๆที่มีลูก และกำลังตัดสินใจว่า ควรฉีดหรือไม่ ถ้าฉีดควรฉีดตัวไหน(ถ้าเลือกได้) การชั่ง risk benefit ของวัคซีนในเด็ก ไม่ง่ายนัก ข้อมูล เปรียบวัคซีนแต่ละตัว ก็มีจำกัด คงต้องพิจารณาข้อมูลเท่าที่มีให้ดีอ
รายละเอียดคือ
1.1 ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบส่วนใหญ่ 95% อาการไม่มาก หรือไม่มีอาการ รุนแรงจนเสียชีวิตพบน้อยมากๆแต่อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ทราบผลกระทบระยะยาวจนถึงผู้ใหญ่ จะมีกี่รายที่ จะมีการดำเนินโรคต่อเป็นโรคหัวใจ dilated cardiomyopathy หรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะข้อมูลเพิ่งมี (แต่โดยส่วนตัวมองว่า โอกาสเช่นนั้นมีน้อย เพราะกลไกหลักเป็นจาก ปฏิกริยาของภูมิต้านทาน ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา สาเหตุเหล่านี้จะมีผลเพียงระยะสั้น ต่างจาก ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกิดจากเขื้อไวรัสโดยตรง)
1.2 อุบัติการณ์สูงขึ้นใน เด็กผู้ชาย อายุน้อย อาจถึง 40 ราย ต่อ ล้านโดส เด็กผู้หญิง ความเสี่ยงน้อยกว่านี้ ราว 10 เท่า Moderna พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบบ่อยกว่า Pfizer (ข้อมูลจาก แคนาดา ต่างกัน 7 เท่า)
ปัญหาคือ ผมยังไม่เห็นข้อมูลนี้ของไทยเลย ว่า อัตราป่วยหนักต่อประชากรในวัยรุ่นเราเป็นเท่าใด
หาก ข้อ 2 มากกว่า ข้อ 1 เยอะๆ ก็ดูจะคุ้ม หากใกล้เคียงกัน อาจต้องพิจารณาวัคซีนที่ ความปลอดภัยสูงกว่า แต่ประสิทธิภาพต่ำกว่า อย่าง วัคซีนเชื้อตาย หรือไม่
(ซึ่งข้อมูลในเด็ก ก็มีจำกัด แต่คาดว่า ผลข้างเคียงและประสิทธิภาพต่ำกว่า เหมือนในผู้ใหญ่)
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้ว ผมมองไปถึงสถานการณ์ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่า การระบาดของโรคนี้ จะยังดำเนินต่อไป จนกลายเป็นโรคประจำถิ่น ดังนั้น ผมจึงมองว่า ความเสี่ยงในข้อสอง จึงจะสูงกว่าข้อแรกมากๆผม และ ภรรยาจึงตัดสินใจ ให้ลูกผู้หญิงอายุ 13 ปี รับ mRNA vaccine โดยถามความสมัคใจของเขาด้วยเพราะเขาเองก็ติดตามข้อมูลข่าวสารสามารถมีส่วนร่วมใน informed decision นี้ได้
นี่คือวิธีคิด ของผมที่ผมคิดว่าเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับลูกและสังคมโดยรวม ในฐานะพ่อ และหมอโรคหัวใจครับผู้ปกครองแต่ละท่าน คงต้องชั่ง นน. ข้อมูลหลักฐานทางวิทยาศาสตร์กันครับ"