นอท กองสลากพลัส โพสต์เพราะแบบนี้แหละ ถึงต้องการเงินทุน200ล.
"มีประเด็นคอมเมนต์กันมากมายถึงเรื่องที่ผมโพสหานายทุน จำนวนเงิน 200 ล้านบาท
- มีคนคอมเมนต์ แนวๆว่า ผมไม่ใช่เจ้าของตัวจริงหรือ?
- ไหนว่ามีหมื่นล้านทำไมต้องมาหาแค่ 200 ล้าน
- ประกาศหานายทุนบนเฟสบุ๊คเนี่ยนะ
- สงสัยนายทุนสีเทา
- นายทุนคือตู้ห่าวหรือเปล่า
และอีกหลายๆ เรื่องที่สรรหาจะคอมเมนต์กันตามสติปัญญาของแต่ละคน
เพียงแต่ว่าของผมมันกู้แบงค์ไม่ได้ เพราะวงเงินมันสูงมาก บริษัทยังมีอายุเพียงสองปี และบริษัทไม่มีทรัพย์สินมาค้ำประกัน
ผมเองเริ่มธุรกิจนี้ด้วยเงินเพียงไม่ถึง 2 ล้านบาทในตอนแรก หลังจากที่เริ่มขายลอตเตอรี่ได้ และเห็นว่ามันพอมีอนาคต ผมก็เอารถ เอาบ้าน เอาคอนโด ไปจำนอง,ขายฝากมาเพื่อทำธุรกิจ เพราะธุรกิจลอตเตอรี่เป็นธุรกิจเงินสด และกองสลากพลัส เราโตเร็วมาก เร็วจนผมเองก็ตั้งตัวไม่ทัน ลองคิดดูนะครับ ผมขายลอตเตอรี่ 1 ล้านใบต้องใช้เงินสดประมาณ 100 ล้านบาทในการซื้อของมาขาย และช่วงที่ผมเติบโตหนักๆ จนรันด้วยตัวเองไม่ไหวคือช่วง 1-8 ล้านใบ
ตอนที่ผมเริ่มหานายทุนหยิบยืมครั้งแรกนั้น ผมหอบเอาข้อมูลและยอดขายไปคุยกับเค้าว่าผมสามารถจ่ายดอกให้เค้าได้ทุกเดือน เพื่อกู้เงินเค้า ตอนนั้นผมมีลูกค้า 400,000 กว่าคน ขายได้ประมาณ 1.5 ล้านใบ ซึ่งตัวผมเองนั้นก็มีชื่อเสียงในวงการอินไลน์พอสมควร มีผลงานต่างๆ มากมาย ทำให้คนที่ให้ผมยืมเงินรู้จักนิสัยใจคอผมมาบ้าง
เงินทุนตอนนี้ของผมนั่นแบ่งออกเป็น 5 กอง
1. เงินส่วนตัว ที่ขายของได้กำไรก็เอามาโปะเข้าไปเรื่อยๆ
2. เงินทุนกลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นน้อง อันนี้มี 4 สัญญา
3. เงินทุนจากนักธุรกิจที่ทำแบรนด์สินค้าออนไลน์ อันนี้อีก 3 สัญญา
4. เงินทุนจากการที่ผมหาทุนผ่านเฟสบุ๊ค มีลูกค้าปล่อยกู้ผมราวๆ 7-8 ราย (ด้วยการโพสบนเฟสบุ๊คนี่ละ)
และที่ผ่านมาเงินทุกบาทยังอยู่ครบเป็นทุนหมุนซื้อลอตเตอรี่ ยืมใครมาเท่าไหร่อยู่เท่านั้น และผมเองก็ส่งดอกเบี้ยตรงเป๊ะไม่มีขาด เพื่อรักษาเครดิต และที่ผมโพสหาคนลงทุนเพิ่มนั้นเพราะ กลุ่มรุ่นน้องกลุ่มแรกไม่ต่อสัญญา 1 สัญญา เพราะเค้าจะเอาเงินไปลงทุนของเค้าเอง ก็เท่านั้น
ส่วนประเด็นที่ว่าเงินเทา ตู้ห่าว หรือเปล่านั้น ขอตอบว่าเงินที่ผมยืมมาจากนักธุรกิจของผมทุกคนก็ประกอบอาชีพสุจริต มีหน้ามีตาทางสังคม และเงินทุกบาทก็เป็นเงินที่ถูกนำเข้าระบบธนาคารตรวจสอบได้
สุดท้ายที่ผมจำเป็นต้องประกาศหาทุนเพิ่มก็เพราะ
1. ผมเพิ่งชำระ "ภาษีมูลค่าเพิ่ม vat 7%" ให้ลูกค้าไปประมาณ 190 ล้าน
2. นายทุนไม่ต่อสัญญาเงินกู้
ทั้งสองข้อทำให้ กระแสเงินสดในบริษัทเราลดลงไปจนอาจจะได้รับผลกระทบ ผมเลยต้องรีบหาทางแก้ไข
การที่ผมขอยืมหรือกู้เงินมาทำธุรกิจ ผมเองก็ว่าเป็นสิ้งที่เหมาะสม
เพราะผมเอากำไรมาจ่ายดอกเบี้ย ผมขายของได้กำไรขั้นต้น 3.50 บาท (หัก vat) ใน 3.50 นั่นผมเสียดอกตก 1.25 บาท ผมเองก็ยังเหลือกำไรให้บริหาร และทำการตลาด