หม่อมเจ้าวัชรวีร์ มหิดล หรือปัจจุบันคือ ดร.วัชรวีร์ วิวัชรวงศ์ "ท่านอิน" เป็นราชโอรสองค์ที่สี่ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้ปลงผมออกบวช ถวายอาลัย แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็น ทูลกระหม่อมปู่
โดยเฟซบุ๊ค Vivacharawongse ได้ระบุไว้ว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านได้ตรัสไว้ว่า การบวชคือการทำบุญที่สูงสุด จึงเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใจของอาตมามาโดยตลอด ว่าซักวันหนึ่งอาตมาจะต้องดำเนินรอยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเข้ามาศึกษาหลักธรรมคำสอน ซักครั้งหนึ่งในชีวิต และยังส่งผลบุญต่อบรรพบุรุษ วงศ์ตระกูล คุณบิดามารดา อีกด้วย
เมื่อได้เข้ามาศึกษาธรรม ยิ่งเข้าใจคำว่า อนัตตา สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ทุกสิ่งไม่ใช่ตัวตน เกิดขึ้นและก็ดับลง ไม่แน่นอนเป็นของไม่เที่ยง เมื่อเราทุกคนเกิดมา เราทุกคนไม่มีอะไรติดตัวมาทั้งนั้นเหมือนกันหมด เราสมมุติขึ้นมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ หรือเผ่าพันธุ์ หรือเป็นผู้นำก็จะสมมุติ ชื่อยศศักดิ์ มากขึ้นตามลำดับ
แต่มีสิ่งที่แท้จริงคือชาติกำเนิดที่มาของวงศ์ตระกูล บรรพบุรุษมีรากเหง้า ปู่สู่พ่อ พ่อสู่ลูก มาจากสายเลือดที่บ่งบอกถึงวงศ์ตระกูล เราจึงต้องมีความสำนึกว่ารากเหง้าของเรามาจากไหน ต้องมีความกตัญญูต่อวงศ์ตระกูล บรรพบุรุษ ถ้าเกิดในสายสกุลใหญ่ที่บรรพบุรุษได้ทำคุณงามความดีไว้ เรายิ่งต้องดำรงในจารีตประเพณีที่ดีงามสืบไป และยังต้องสำนึกอยู่เสมอว่าชาติตระกูล วงศ์ตระกูล บรรพบุรุษท่านได้ทำอะไรไว้ให้เรา บารมีที่ท่านทำไว้ถึงได้ปกแผ่มาถึงลูก หลาน จนทุกวันนี้
ซึ่งคุณงามความดีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ นั้นมีมากล้นจะพรรณา พระองค์ท่านทรงตรากตรำพระวรกาย ทรงงานหนักมาอย่างยาวนาน พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนให้ผาสุกทั่วหน้า ถ้าเราได้ศึกษาอย่างถ่องแท้ อย่างจริงๆแล้วเราจะได้ทราบซึ้งในพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านมากกว่าที่เคยได้ยินได้ฟังมา พระองค์ท่านทรงมีมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นปูชนียบุคคล ที่หาได้ยากยิ่ง อาตมาถึงจะเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยในวงศ์ตระกูล เราต้องรักษาความดีเป็นคนดีและเจริญรอยตามคุณงามความดีตามที่พระองค์ท่านได้ทำไว้สืบไป ไม่ว่าพวกเราจะอยู่ที่ไหนที่ใดก็ตาม
การที่ได้ทดแทนพระคุณบรรพบุรุษ วงศ์ตระกูลนั้น นอกจากเป็นคนดี ประพฤติดีแล้ว ครั้งเมื่ออาตมายังเด็กประมาณ ๙ ปี ขณะนั้นสมเด็จพระศรี (สมเด็จย่าชวด) ได้สวรรคต ในครั้งนั้นอาตมาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ที่ทำหน้าที่บวชถวายสมเด็จย่าชวด เพื่อเป็นการตอบแทนคุณของวงศ์ตระกูลเป็นครั้งสุดท้าย
พอเสร็จภารกิจในครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงนำอาตมาเข้าไปกราบถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงขอบใจและดีพระทัยมากที่มีหลานได้บวชถวายสมเด็จย่าชวดในครั้งนั้น ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจมาจนทุกวันนี้ ที่อาตมาได้มีส่วนร่วมทำอะไรถวาย เพื่อวงศ์ตระกูลและทำเพื่อครอบครัว
พระพุทธเจ้าสอนให้สัตว์โลก ละความชั่วด้วย กาย วาจา ใจ ทำความดีด้วย กาย วาจา ใจ การทำความดีนั้นอยู่ที่ใจ ตั้งใจทำอยู่ที่ไหนก็ทำได้ ในครั้งนี้อาตมาได้บวชถวายด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ตั้งจิตตั้งใจอันแน่วแน่ในการทำความดี
ขออธิฐานจิตแห่งบุญและกระแสทานที่บริสุทธิ์ อีกทั้งบุญบารมีที่ได้สะสมมาทุกภพทุกชาติ นับภพนับชาติไม่ถ้วน และที่กำลังทำอยู่นี้ ขอถวายพระราชกุศลขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ (ทูลกระหม่อมปู่) เสด็จสู่สวรรคาลัย และจะระลึกถึงพระองค์ท่านดำเนินรอยตามแนวทางที่ทรงมอบให้วงศ์ตระกูลสืบไป
ขอถวายกุศแห่งบุญนี้แด่บุรพกษัตริย์ทุกพระองค์
ขอถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ (สมเด็จย่า) ให้ทรงพระเกษมสำราญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย
พระคุณของพ่อแม่ ท่านเป็นผู้ให้ ท่านทั้งสองได้ให้หัวใจ ให้เลือดเนื้อ ทั้งชีวิต อบรมเลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ ไม่สามารถทดแทนพระคุณท่านได้หมด ถ้าไม่มีท่านทั้งสองอาตมาคงไม่ได้มาต่อยอดในการสร้างบุญในชาตินี้ บุญกุศลที่อาตมาได้ทำมาไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติก็ดี และที่กำลังทำอยู่นี้ ขอถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ (ทูลกระหม่อมพ่อ) ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ขอให้โยมแม่และโยมพี่โยมน้องทุกๆท่าน มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป
และสิ่งสุดท้ายต้องกราบนมัสการ ขอบคุณพระอุปัชฌาย์ ที่ช่วยอาตมาได้บวชเพื่อบำเพ็ญบุญถวายพระราชกุศล แด่บรรพบุรุษวงศ์ตระกูลในครั้งนี้ รวมถึงพระอาจารย์ พระทุกรูปที่ให้ความสะดวกในครั้งนี้
ขอบารมีพระสัมมาสัมพุทธทุกพระองค์ และบุรพกษัตริย์ องค์พระสยามเทวาธิราช และบุญกุศลที่อาตมาได้บวชในครั้งนี้ ขอให้ประเทศชาติมีความร่มเย็น ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป
พระ วชิรธัมโม