จากกรณีเพจ Facebook ก้าว แจ้งว่า ในวันนี้ (18 พ.ย. 2560) นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม และ คณะ "ก้าวคนละก้าว" เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ จะหยุดวิ่ง เป็นเวลา 1 วัน เพื่อพักผ่อนเติมพลัง(ตามคำสั่งคุณหมอ) หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางคณะได้เดินทางมาถึง อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ ตูน และทีมงานก้าว จะกลับมาวิ่งต่ออีกครั้ง ในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ย. 2560 โดยยอดบริจาคล่าสุด ในเว็บไซต์ https://www.kaokonlakao.com เช้าวันนี้พบว่า พุ่งสูงถึงกว่า 273 ล้านบาทแล้ว
ขณะที่เฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า Chaichan Baimongkol ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานของโครงการก้าวคนละก้าว ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพบอกเล่าเรื่องราว เบื้องหน้า เบื้องหลัง ภาพร่างก่อนเริ่มโครงการ และผู้ชายคนหนึ่ง กับทีมงานผู้ร่วมเปลี่ยนความคิด ประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและประทับใจยิ่ง ทั้งเชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยรับรู้มาก่อน จึงขอนำมาเผยแพร่ต่อดังนี้
"ความคำนึง... คนที่มาทำงานในโปรเจค "ก้าว" นั้นมีกว่า 100 คน แต่ละคนก็มีความถนัดแตกต่างกันไปตามสาขาอาชีพของตนเอง ตอนที่มาร่วม "ก้าว" ในช่วงแรกๆนั้น ผมเองกังวลว่าจะไปร่วมโปรเจควิ่งนี้ยังไง ในเมื่อตัวเราเองดูโคตรไม่มีสุขภาพอะไรกะเค้าเลย นึกถึงผู้ชายตัวเล็กๆผอมๆพูดเบาๆอยู่ริมทะเลว่า "ผมอยากจะเป็นคนแรก ที่วิ่งจากจุดใต้สุดของประเทศไทยไปสู่จุดเหนือสุด" ทำให้คนทั้งประเทศเค้าฮือฮากับไอเดียบ้าระห่ำสุดๆนี้กัน
ภาพตัดมาที่ผู้จัดการโปรเจค 2 คน ยืนอ้วนๆเหงื่อๆเบียดๆกันอยู่ เหมือนหมีแพนด้ากองทับกัน...อ้วนเบลล์ อ้วนโอ๊ต บางจังหวะผมก็เห็นเฮียกุมขมับนะ เหมือนจะอับอายกะอ้วนสองตัวนี้เหลือเกิน... ผมพยายามอธิบายว่าโปรเจคก้าวเนี่ย มันมีคนทำงานอยู่ไม่กี่แบบ
แบบแรกใช้ขา แบบต่อมาใช้สมอง... แต่แบบผมใช้ปาก...คือเม้าท์มอยไปเรื่อย จับแพะชนแกะเอาตัวรอดไปวันๆ 5555 แต่บรรดาคนที่ใช้ขานั้นคือตัวจริง...และไม่ใช่เฉพาะขาของนักวิ่งเท่านั้น รวมถึงขาของทีมงานทุกคนที่วิ่งวุ่น จัดเตรียมพื้นที่เส้นชัย ลานจอดรถ รถบ้านรถพยาบาล คอยบล็อกเฮียตอนปล่อยตัว คอยกันเฮียโดนมหาชนรุมทึ้ง คอยจัดเตรียมขนมนมเนย ปั๊มลูกฟุตบอล ตามจุดมอบทุนต่างๆทั่วไทย...วิ่งกันขาขวิดตั้งแต่ตีสามถึงสามทุ่มของทุกวัน บางวันแย่หน่อยไปตามถิ่นทุรกันดารก็ไม่มีร้านอาหาร จนต้องไปขอข้าววัดมากินก็มี...เมื่อวานนี้ผมเห็นสต๊าฟสองคนนอนหลับ บนพื้นหญ้าในปั๊มน้ำมัน ก็สะท้อนใจ แต่ก็คิดว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นแหละ...นี่มันงานเพื่อมวลชน ถ้ามันเป็นงานสบาย ที่ใครๆทำได้ง่ายๆ ก็ดีสิ!ประเทศเราจะได้เจริญรัวๆ สร้างจิตสำนึกได้รัวๆ แต่นี่อะไร...เอายายมานั่งเต็มถนน ตากแดดตากลม ใจร้ายยยยยยยยยย
(รอบหน้าผมขอความกรุณาวางกีต้าร์ไว้หน้าตักยายเลยนะครับ จะได้รวบตึงกันไปเลย #จากคนเทาเทา) แต่ในความลำบากนั้นผมไม่เห็นใครบ่นอะไร ตื่นมาตี 3 ทำงานของตัวเองกันอย่างยิ้มแย้ม เหมือนโดนตัวยาอะไรเข้าไปทั้งกอง คยั้น ขยัน 55555555555แต่พอไม่ได้เจอกันก็เริ่มคิดถึง...คิดถึงใครที่หายไป แม้ว่าจะไม่นานก็ตาม โดยเฉพาะเฮียที่น่าจะคิดถึงทุกคนที่หายๆไปไม่น้อยเพราะแกเป็นตัวยืนของโปรเจคนี้ เปลี่ยนหรือแว่บก็ไม่ได้ เฮียเลยไม่ค่อยอยากให้ทุกคนจากแกไปไหนไกลๆกลายเป็นตูนขี้เหงา...ไปซะงั้น
เฮียถามผมว่าอยู่ด้วยกันทุกวันไม่ได้เหรอ ผมก็ตอบไปว่า "ถ้าเฮียเลี้ยงดูผมกับครอบครัวล่ะก็ ผมจะเคลียร์ทุกคิวในชีวิตให้เฮียหมดเลย"ซึ่งเฮียเงียบไป....จนถึงวันนี้ สงสัยไม่ชอบเลี้ยงหมี 5555555 พรุ่งนี้ผมจะอยู่ที่ กทม. เพื่อมาสะสางงานบางอย่างที่ต้องมาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นมันจะคาใจไปตลอดชีวิต ก็เลยลาเฮียลาเพื่อนๆชาว "ก้าว" มาชั่วคราว และจะกลับไปทันทีที่ธุระเสร็จ จะบอกว่าผมเสพติดการนอนดึกตื่นเช้ามืด หรือ ชอบอดข้าวอดน้ำก็ไม่ใช่...แต่ผมติดใจภาพ"ความสุข"ภาพรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สดใสสวยงามอย่างที่หาชมได้เฉพาะที่กอง"ก้าว"เท่านั้น
ทุกคนที่ "ก้าว" เริ่มจากคนรู้จักพัฒนามาเป็นมิตรภาพ และส่งต่อความรักความปรารถนาดีแก่คนทั่วไป อย่างไม่มีเงื่อนไข นี่คือโลกแห่งอุดมคติที่มีอยู่จริง ทุกคนทำ...เพื่อคนอื่น ทุกคนคิด...เพื่อคนอื่น จึงทำให้งานของก้าวนั้นแตกต่าง และใครได้มาก็ติดใจ ลืมเหนื่อยขอกลับมา "ก้าว" ด้วยกันอีกครั้ง...จากความลังเล งงๆทุลักทุเล กลายเป็นขบวนรถไฟแห่งความทุ่มเท อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นำขบวนโดย ชายที่บ้าวิ่งที่สุดในประเทศไทย ตูน บอดี้สแลม ที่จะพาคณะก้าวและชาวไทย ออกเดินทางจากเบตง สู่ แม่สาย ระยะทางรวม 2,191 กม. แหม่...คิดถึงจัง เดี๋ยวจะกลับไปนั่งกินหนมที่ท้ายขบวน