‘ป๊อก อิทธิพล’ เล่านาทีคนยื่นเงิน 1 ล้านให้ ‘พี่ตูน’ เดินหนีไปโดยไม่พูดอะไร

เสร็จสิ้นภารกิจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับโครงการ "ก้าวคนละก้าว" ของ "พี่ตูน บอดี้สแลม" หรือนายอาทิวราห์ คงมาลัย ที่จะวิ่งตั้งแต่ อ.เบตง จ.ยะลา ไป อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำเงินบริจาคไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ 11 โรงพยาบาลศูนย์ทั่วประเทศ ซึ่งเวลา 18.25 น. ของวันที่ 25 ธ.ค. 60 พี่ตูนก็วิ่งถึงจุดหมายปลายทาง ใช้ระยะเวลา 55 วัน กับระยะทาง 2191 กิโลเมตร

ต้องยอมรับว่าโครงการนี้ให้อะไรหลายๆอย่างไม่ใช่แค่การช่วยเหลือโรงพยาบาลเท่านั้นแต่ยังทำให้หลายคนหันมาออกกำลังกาย และเกิดความรักและสามัคคี แถมยังเป็นตัวอย่างให้กับคนที่กำลังท้อ เป็นกำลังใจให้หลายคนสู้ ถึงแม้ว่าโครงการจะจบไปแล้วก็ตามแต่เรื่องเล่าทั้งเบิ้องหน้าและเบื่องหลังที่ให้จดจำนั้นมีเยอะ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ ซึ่งฟังแล้วก็ขนลุก มีคนยื่นเงิน 1,000,000 โดยไม่พูดอะไร

ด้านพี่ตูนขอเราเองก็ยังไม่ได้เดินทางกลับกรุงเทพ แต่ทีมงานที่ร่วมวิ่งเองก็ได้ทะยอยเดินทางออกจากโรงแรม พร้อมด้วยรถยนต์ของโครงการอีกหลายคัน ได้ไปส่งทีมงานที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยทีมงานที่เดินทางกลับทางเครื่องบินได้เดินทางออกไปในเวลาประมาณ 16.45 น.แล้ว ซึ่งมีทั้ง "พี่ป็อก" นายอิทธิพล สมุทรทอง ส.อ.สุพิศ จันทรัตน์ ที่ได้ร่วมวิ่งคู่กับตูน บอดี้สแลม มาตั้งแต่ อ.เบตง จ.ยะลา ไปจนถึงปลายทาง อ.แม่สาย รวมถึง พญ.สมิตดา สังขะโพธิ์ หรือหมอเมย์ ที่ดูแลสุขภาพให้ด้วย

นายอิทธิพล กล่าวว่า ตูนขอพักต่อที่ จ.เชียงราย อีก 2-3 วัน โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เท่าที่ได้ดูสภาพของตูนแล้ว พบว่าหลังการวิ่งครั้งนี้แล้วสุขภาพยังดีมาก โดยวันก่อนที่จะไปทำพิธีบายศรีสู่ขวัญที่ไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ยังมีการนัดหมายกันว่าจะวิ่งไปโดยตรวจเส้นทางได้ไกล 31 กิโลเมตร แต่เมื่อถึงวันจัดงานก็พากันวิ่งไม่ไหว ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บ แต่เกิดจากการสะสมอันเกิดจากการที่วิ่งมาไกลแล้วหยุดวิ่งกระทันหันเท่านั้น

จากการได้วิ่งกับตูน พบพลังบวกของคนมีมาก เป็นพลังที่ส่งต่อ คนที่ยื่นเงิน 1 ล้านบาทข้างถนนโดยที่ไม่ได้ต้องการอะไรเลย มาถึงลงจากรถเปิดประตู พูดไปขนลุกไป เปิดประตูเอาเงินทั้งปึกมายื่นให้โดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย พี่ตูนร้องเรียกให้มาถ่ายภาพด้วย ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าพลังคนไทย และการคิดทางบวกของคนไทยสามารถช่วยผู้คนได้มาก และคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันได้

ที่มา มติชน