โฆษณานี้เริ่มด้วยมีเด็กชายคนหนึ่งถูกเจ้าของร้านยาจับได้ขณะที่เขาขโมยยาแก้ปวด 3 แผงและยาธาตุ 1 ขวดจากร้านขายยาเพื่อนำไปให้แม่ที่ป่วย...
เจ้าของร้านยาจับแขนของเด็กชายไว้และตะโกนด่าเขาว่า "ขี้ขโมย" และได้แย่งเอายาจากมือของเขาไป และในขณะที่เด็กชายกำลังอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่
เถ้าแก่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ไม่ไกลก็เดินเข้ามาและยอมจ่ายค่ายาแทน นอกจากนี้ยังเรียกให้ลูกสาวนำเกาเหลาใส่ถุงมามอบให้แก่เด็กชายด้วย
จากนั้นเวลาได้ผ่านไป 30 ปี เด็กชายคนนี้ก็เติบโตขึ้น ส่วนเถ้าแก่ร้านก๋วยเตี๋ยวก็แก่ลงทุกวัน แต่ก็ยังคงค้าขายก๋วยเตี๋ยวไปวันๆ แต่แล้วอยู่ๆวันหนึ่งเขาก็เกิดอาการผิดปกติและล้มฟุบลงและหมดสติไป
ลูกสาวของเถ้าแก่จึงต้องรีบพาพ่อมายังโรงพยาบาลและจากผลการตรวจของแพทย์ทำให้เธอได้ทราบว่าพ่อของเธอป่วยหนักและต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลหลายแสนบาท
จนเธอตัดสินใจว่าจะขายร้านก๋วยเตี๋ยวของพ่อเพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลในครั้งนี้ แต่แล้วเรื่องทุกอย่างก็พลิกผัน...
ลูกสาวของเถ้าแก่ได้รับจดหมายซองหนึ่งซึ่งภายในมีใบสรุปรายการค่ารักษาพยาบาล ซึ่งค่าผ่าตัดค่าห้องและค่ายาไม่มียอดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยในท้ายจดหมายได้ระบุไว้ว่า "แพทย์เจ้าของไข้ได้รับค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วเมื่อ 30 ปีก่อน เป็นยาแก้ปวด 3 แผง ยาธาตุ 1 ขวด และเกาเหลา 1 ถุง"
ซึ่งก็คือสิ่งที่เถ้าแก่เคยมอบให้แก่เด็กชายคนนั้นในอดีตนั่นเอง เด็กชายคนนั้นเติบโตขึ้นเป็นคุณหมอ เมื่อเขาเห็นเถ้าแก่ป่วยเข้าโรงพยาบาล เขาจึงอยากจะตอบแทนบุญคุณด้วยการออกค่ารักษาพยาบาลให้กับเถ้าแก่ร้านก๋วยเตี๋ยวรายดังกล่าว จนกลายเป็นโฆษณาที่เรียกน้ำตาให้คนดูได้อย่างถ่วนหน้า มีชาวเน็ตบางคนแสดงความคิดเห็นว่า ดูกี่ครั้งก็ซึ้งน้ำตาไหล มันกินใจมาก