ถอดรหัสคำโค้ชเอก “ผมขอโทษ” หมอชี้!! เครียด แต่สังคมช่วยได้!! (มีคลิป)

ภายหลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL เผยแพร่ภาพจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของทีมฟุตบอลเยาวชนและโค้ช ทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ข้อความของ "โค้ชเอก เอกพล" กลายเป็นสิ่งที่สังคมให้ความสนใจมากที่สุด

ล่าสุด นางคำเอ้ย พรมเทพ ยายของน้องดอม เปิดเผยว่า ตอนเห็นจดหมาย ก็รู้สึกดีใจที่หลานมีกำลังใจที่ดี แต่รู้สึกเป็นห่วงหลาน ที่บอกว่าอากาศด้านในถ้ำเย็น โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของน้องดอม ตนไม่เคยลืมวันเกิด และจะจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้หลานตามคำขอของหลาน

ทั้งนี้ ที่โค้ชเอกเขียนจดหมายขอโทษครอบครัวเด็ก ๆ ตนก็รู้สึกดี และทางครอบครัวไม่ติดใจ หรือโทษว่าเป็นความผิดของโค้ชเอก เพราะเชื่อว่าถ้าโค้ชเอกรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็คงจะไม่พาเด็ก ๆ ทุกคนเข้าไปในถ้ำ

นอกจากนี้ นางคำเอ้ย กล่าวว่า ถ้าหากได้เขียนจดหมายไปให้หลานบ้าง ตนอยากจะเขียนว่า "ให้มีสติ และรักษาสุขภาพ พร้อมทั้งอยากให้ดูแลโค้ชเอก เพราะก่อนหน้านี้โค้ชเอกก็ดูแลเด็ก ๆ มาตลอด"

ด้าน นางเกี๋ยงคำ จันทาพูน ยายของ ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม หรือ น้องโน้ต เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้อ่านข้อความที่หลานเขียนส่งออกมา ตนรู้สึกดีใจที่สุดในโลกที่หลานยังปลอดภัย และสามารถเขียนจดหมายมาให้ทางครอบครัวได้อ่าน

ส่วนแม่ของน้องโน้ต ก็เขียนจดหมายเข้าไปหาน้องแล้ว แต่ตนไม่ทราบว่าเขียนว่าอะไร เนื่องจากยังไม่มีโอกาสพูดคุยกัน นางเกี๋ยงคำเล่าต่อว่า หากตนมีโอกาสก็อยากจะเขียนบอกหลานบ้างก็จะบอกว่า "หมูป่าสู้ ๆ ทุกคนทั่วโลกเอาใจช่วย"

ขณะที่ นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตเวชทั่วไป เปิดเผยว่า หากเราต้องอยู่ในห้องมืดหลายวันก็ย่อมมีความเครียด เช่นเดียวกันที่น้องๆ ย่อมมีความเครียดแน่นอน แต่ไม่ถึงขั้นแย่ เพราะอยู่ด้วยกันหลายคน อีกทั้งตอนนี้ทุกคนมีความหวัง แต่สภาพแวดล้อมหรือสภาพอากาศ ก็มีผลต่อสุขภาพจิต ซึ่งยังไม่รวมถึงความเครียดที่สะสมมาก่อนเจ้าหน้าที่จะมาพบตัว

สำหรับภาพจดหมายจากในถ้ำที่มีการเผยแพร่ เมื่ออ่านดูแล้วก็สบายใจได้ในระดับหนึ่ง เมื่อน้อง ๆ ส่งสารออกมาเพื่อให้คนข้างนอกสบายใจ เพราะถ้าเขียนออกมาในทางลบ ตัวน้องเองจะยิ่งไม่สบายใจที่ทำให้คนอื่นเป็นห่วง นพ.กัมปนาทเชื่อว่าเนื้อหานั้นมีพื้นฐานจากความจริง แต่หากมีอะไรที่น้อง ๆ ไม่สบายใจ อึดอัดใจ ก็อยากจะให้น้องได้เขียนระบายออกมา ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นกดดันตัวเอง เช่น กินอาหารไม่อร่อย, คิดถึงบ้าน, นอนหลับไม่สบาย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ข้างนอกได้รับรู้และปรับตัวเพื่อหาทางแก้ไข แต่หากเป็นประเด็นที่สะเทือนใจมาก ๆ อาจจะต้องมีบุคลากรทางด้านสุขภาพจิตช่วยคัดกรอง เพื่อลดความกังวลของผู้ปกครอง ไม่ใช่ว่าสื่อสารกันไปมา ก็อาจทำให้ผู้ปกครองช็อกได้

ส่วนจดหมายของนายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก ที่เขียนว่า "ขอขอบคุณทุกกำลังใจและขอกราบขอโทษผู้ปกครอง" นพ.กัมปนาท มองว่าเป็นมารยาทของผู้ใหญ่ โค้ชเอกคงเข้าใจว่าเขาถูกทุกคนคาดหวัง การโทษตัวเองก็อาจจะมีบ้าง แต่จากข่าวก่อนหน้านี้โค้ชเอกก็ไม่ใช่สาเหตุของการติดถ้ำ เขาเป็นผู้ช่วยเหลือมากกว่า นพ.กัมปนาทเชื่อว่าทุกคนคงยินดีที่จะให้อภัยและขอบคุณโค้ชเอก หากไม่มีโค้ชเอกเด็กอาจเจอกับเหตุการณ์ที่ยากลำบากกว่านี้ก็ได้ อีกทั้งผู้ปกครองของทีมหมูป่าต่างฝากข้อความถึงโค้ชเอกในทำนองว่า "โค้ชเอกไม่ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องคิดมาก ขอขอบคุณที่ดูแลน้อง" จุดนี้คงทำให้โค้ชเอกสบายใจขึ้น และอยากให้น้อง ๆ รวมถึงโค้ชเอกได้รับรู้ว่ามีกำลังใจส่งถึงพวกเขามากมาย น่าจะทำให้มีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น

นอกจากนี้ นพ.กัมปนาท ยังฝากเตือนบุคคลที่จะสื่อสารกับน้อง ๆ ให้ระวังการใช้ภาษาและคำพูด อย่าโทษใคร อย่าทำให้ใครรู้สึกผิด รวมถึงฝากถึงเจ้าหน้าที่สุขภาพจิตที่อยู่ที่ จ.เชียงราย ให้ช่วยดูแลเรื่องการสื่อสารของน้อง ๆ กับผู้ปกครอง และแนะนำผู้ปกครองว่า อาจจะไม่ต้องมานั่งเฝ้าน้องทุกวัน ควรออกไปทำงานเพื่อจะได้ผ่อนคลายและเบี่ยงเบนความเครียดจากเหตุการณ์นี้