บุ๋ม ท้า ทนายเดชา ดูหลักฐาน คดีสาวแจ้งถูกหมอสูติฯข่มขืน มั่นใจไม่พลิกแน่นอน!!
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล เป็นข่าว บุ๋ม ท้า ทนายเดชา ดูหลักฐาน คดีสาวแจ้งถูกหมอสูติฯข่มขืน มั่นใจไม่พลิกแน่นอน!!
จากกรณีข่าวสูตินรีแพทย์คลินิกแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์กระทำอนาจารคนไข้ระหว่างรับการรักษา และตรวจภายใน ซึ่งต่อมาพบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าเคยถูกหมอคนดังกล่าวกระทำในลักษณะเดียวกัน ทางด้านทนายเดชา กิตติวิทยานนท์ที่เผยว่าคดีมีพิรุธ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พร้อมแพทย์หญิงธาริณี ลำลึก สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ร.พ.พญาไท และทางรายการยังได้สัมภาษณ์กับดาราสาว บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี และผู้เสียหาย ผ่านทางโทรศัพท์
พี่เดชา พี่บอกแปลกๆ แปลกตรงไหน?
เดชา : “เวลาเราดูข่าวอะไรก็แล้วแต่ ก็เป็นเรื่องแปลก อยู่ดีๆ หมอข่มขืนคนไข้ ไม่เคยเกิดขึ้น ผมก็ถามทางแพทย์สภา หมอผู้ใหญ่วงการสูติฯ พอดีรู้จักหมอเยอะ เขาก็บอกไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ มันก็แปลกไง เราก็ตั้งใจฟัง ไปออกช่องนั้นช่องนี้ ทนายคนสวย เดินสายออกทีวี
โดยทั่วไปเวลาออกทีวี มีผู้เสียหายเกิดขึ้น ต้องพาผู้เสียหายไปนั่ง ให้เขาพูด เพราะทนายความไม่ได้นั่งอยู่ข้างเตียงตอนที่คุณหมอกระทำชำเรา เขาอยู่ข้างเตียงเห็นเหตุการณ์เหรอ ทุกคดี ผู้เสียหายออกทีวี ทนายนั่งข้างๆ เป็นกำลังใจ มันก็แปลก นี่เรื่องแรก เรื่องที่สองเหตุเกิดตั้ง 10 กว่าวัน ต้นเดือนก.ย. มาปลายเดือน และ 6 ต.ค. ก็เดือนกว่า ไม่แจ้งความ เพิ่งนึกได้ว่าถูกกระทำชำเรา แค่นี้มันก็แปลกแล้ว เพราะผมถามทนายน้องๆ ผู้หญิง ถ้าโดนแบบนี้เขาถีบ แหกปาก เต็มที่แล้ว มันแปลกไปหมด”
เมื่อวาน ตร.ลงพื้นที่ดูสถานประกอบการว่าเป็นยังไงไปดูในห้องก็ไม่ได้มิดชิดอะไรมากมาย?
เดชา : “ประตูก็ไม่มีก็เป็นบ้าน ก็ลองให้ตะโกนว่าสมมติถูกหมอข่มขืนให้ร้อง ก็ได้ยินไปถึงหน้าร้าน ให้ตะโกนเพื่ออะไร ธงก็บอกอยู่แล้ว คดีไม่มีมูล พนักงานสอบสวนดูข่าว เขาก็ให้ตะโกนสิ ช่วยด้วยๆ พนักงานให้สัมภาษณ์ช่อง 3 ได้ยินถึงหน้าร้าน ยังไม่รู้เลยผลคดีจะเป็นยังไง เขาให้ตะโกนทำไม ถ้าเรียนจบนิติศาสตร์ เนติบัณฑิต เป็นทนายจริงๆ ต้องรู้แล้วถ้าไม่มีพยานหลักฐานมากกว่านี้ ก็ออกมาขอโทษประชาชน”
แล้วในไลน์ที่มีการโต้ตอบกัน?
เดชา : “ระหว่างคนที่ข่มขืนกับคนที่ถูกข่มขืนจะพูดกันแบบนั้นเหรอ ที่รัก รักตัวเองนะ ล้านเปอร์เซ็นต์นะ สิ่งที่คุณหมอพูดกับคนไข้ ดูลักษณะเหมือนสมยอม ฟังแล้วเหมือนคุยกันแบบตัวเองนะ”
ไลน์ล่ะ ที่บอกว่าหมออยู่กับแม่สองคน ไม่อยากให้มีปัญหาไม่อยากให้เรื่องถึงโรงถึงศาล โอนเงินให้?
เดชา : “ก็ขอเงิน อยู่ดีๆ โอนเงินให้หรือเปล่า”
เหมือนให้ไปถอนแจ้งความ?
เดชา : “อย่าไปขยายความ หลักฐานมีแค่ไหนแค่นั้น จบกฎหมายมานะ คนแถลงข่าว ถ้าเราโดนข่มขืน โดนล่วงละเมิดทางเพศ ครั้งแรกบอกว่าไม่โดนข่มขืนแต่ถูกลวนลาม”
พูดคุยกับบุ๋ม ที่ช่วยดูแลเคสนี้ ตอนนี้มีประเด็นสวนทาง ทางทนายเดชา บอกว่าเรื่องมีเงื่อนงำ คุณบุ๋มมองว่ายังไง?
บุ๋ม : “ก็อาจเป็นมุมมองที่ทนายเดชาไมได้คุยกับผู้เสียหายโดยตรง ที่สำคัญคือยังไม่ทราบว่าเรามีหลักฐานเพิ่มเติมอะไรมากกว่านี้บ้าง เพียงแต่ว่า ณ วันนี้หลักฐานบางอย่างเปิดเผยไม่ได้ มันเป็นเรื่องข้อมูลส่วนตัวผู้เสียหายด้วย การเป็นผู้หญิงมันเปิดเผยไม่ได้ทั้งหมด
แต่มุมมองทนายเดชาเราก็รับฟังและขอบคุณที่แสดงมุมมองอะไรต่างๆ แต่เชื่อว่าถ้าทนายเดชาได้มาคุยกับผู้เสียหาย บุ๋มเชื่อว่าทนายจะเข้าใจ และอาจจะใช้ความรู้ความสามารถทนายมาช่วยบุ๋มด้วยซ้ำไป เพราะบุ๋มอยากได้คนเก่งๆ มาช่วยเพราะตอนนี้ผู้เสียหายเยอะมากที่เข้ามา อย่างน้อยการทำงานของบุ๋ม บุ๋มไม่ใช่นายความและนักการเมือง มันไม่มีความจำเป็นต้องมีเรื่องกับคนนั้นคนนี้ บุ๋มอยากทำให้เสียงผู้เสียหายเขาดังขึ้น บุ๋มอยากแค่เป็นกระบอกเสียงให้เขามีพื้นที่ในการพูด”
กลัวเรื่องนี้จะพลิกมั้ยเพราะบางส่วนมองว่าเหตุการณ์ผ่านเป็นเดือนทำไมเพิ่งมาร้อง สองสถานประกอบการถ้ามีการล่วงละเมิดจริง ตัวน้องร้องก็ต้องดังมาถึงข้างนอก ถ้าไม่มีหลักฐานเพียงพอจะทำยังไง?
บุ๋ม : “การพูด การที่ ตร.ไปเดินตามที่คุณหมอ พื้นที่ข้างในมีการเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้ว บุ๋มว่ามันไม่มีประโยชน์มั้งคะ เตียงทุกอย่างเปลี่ยน แต่บังเอิ๊ญบังเอิญเราโชคดีที่ผู้เสียหายบางคนเคยเข้าไปถ่ายรูปและส่งอันนี้ให้เราแล้วค่ะ รวมทั้งคลิปเสียงต่างๆ ในสถานที่ทุกอย่างก็มี เรามีหลักฐานบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างมาก
ซึ่ง ตร.ควรลงพื้นที่เมือสองเดือนก่อนแล้ว ไม่ใช่ไปลงคืนวันอาทิตย์และเดินตามคุณหมอ ซึ่งมันไม่ใช่เลย แล้วที่สำคัญหลักฐานบางอย่าง ถ้ามาดู มาเจอกับบุ๋มเนอะ ทนายอาจเห็นอะไรบางอย่าง และอาจมาช่วยผู้หญิงทุกๆ คนอยากให้คนเก่งๆ มาช่วยเพิ่มขึ้นก็ได้ค่ะ”
ทนายเดชาไปดูได้มั้ย?
เดชา : “ยินดีครับ ผมตั้งข้อสังเกตช่วยคุณบุ๋มนะครับ ไม่ใช่ใส่ร้าย ถ้าแก้ได้ก็ชนะนะ ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไปไม่รอดครับ ขนาดเถียงกับผมนอกศาลยังไม่รอด อันดับแรกมันไม่มีต่อสู้ขัดขวาง หรือร้อง ตำรวจให้ร้องก็แสดงว่าธงของมันคือไม่ร้อง”
บุ๋ม : “มีค่ะ”
เดชา : “อันดับสองแจ้งความช้า อธิบายได้มั้ย”
บุ๋ม : “อธิบายได้ค่ะ”
เดชา : “อันที่สาม ไม่ไปตรวจสอบภายในเลย ไม่ไปหาหมอ ไม่กลัวติดโรคเหรอ ผมก็รู้จักคุณบุ๋ม ผมไม่ต้องการทำลายผู้เสียหายอะไร เดี๋ยวเข้าใจคลาดเคลื่อน ผมตั้งข้อสังเกตให้แก้ ถ้าเรามีพยานหลักฐานมัดแน่นจริง เราแก้ 10 ข้อ ขึ้นศาลก็ต้องโดนซักค้านแบบนี้ ผมก็รู้วาหมอจะสู้คดี คุณบุ๋ม บอกว่าผมไม่เคยคุยกับผู้เสียหายจริง แต่ผมเคยคุยกับผู้สื่อข่าว ที่คุยกับผู้เสียหายและผู้สื่อข่าวที่เคยสัมภาษณ์หมอ เขาก็รู้ว่าหมอจะสู้คดี คุณบุ๋มทราบหรือเปล่า”
บุ๋ม : “ทราบค่ะ”
เดชา : “ถ้าพลาดท่าไป เขาจะฟ้องกลับ คุณบุ๋มทราบมั้ยครับ”
บุ๋ม : “ทราบค่ะ”
เดชา : “นั่นแหละ ผมก็เป็นห่วง แล้วน้องคนสวยก็ใจร้อน ด่าผมแรงเลย คุณบุ๋มว่างเมื่อไหร่นัดเลย ผมยินดีข้าไปช่วย ผมจะตั้งคำถามรก ๆ ไว้ให้แก้ เพราะขึ้นศาลก็โดนซักค้านอยู่แล้ว”
บุ๋ม : “สามข้อแรกมีคำตอบให้ค่ะ เพียงแต่ว่าบางคำตอบไม่สามารถเปิดตรงนี้ได้ เพราะมีรายละเอียดมากกว่านั้น ถ้าบุ๋มเปิดไปทางโน้นแก้มา มันเป็นข้อมูลผู้เสียหายซึ่งที่ผ่านมาผู้เสียหายโดยสื่อมวลชนที่ไม่มีจรรยาบรรณ เอาชื่อและที่อยู่น้องเขาไปลงในข่าว หนูโกรธมาก หนูเสียใจมาก ทนายเดชาแนะนำด้วยว่าหนูต้องทำยังไง หนูโกรธมากกับสื่อที่ทำแบบนี้ แล้วข้อมูลนั้นมาจากทางตร. แต่ทางตร.โบ้ยว่าผู้ต้องหามีการปล่อย”
สัมภาษณ์หนึ่งในผู้เสียหาย “คุณเอ” เหตุเกิดเมื่อไหร่?
เอ : “เมื่อปี 58-59 ค่ะ”
ไปหาสองครั้ง?
เอ : “ค่ะ”
ครั้งแรกไปหาเพราะอะไร?
เอ : “ครั้งแรกเป็นตุ่ม เป็นฝี มีพยาบาลมาซักประวัติ ซักพักหมอเรียกเข้าไปในห้อง มีหนูกับหมอสองคน เขาเรียกว่าที่รัก ไม่รู้จักกันมาก่อนค่ะ เขาให้ไปเปลี่ยนผ้าถุงแล้วมาขึ้นขาหยั่งเพื่อทำการตรวจ หลังจากนั้นก็ขึ้นขาหยั่ง แล้วสักพักก็ขอดูหน้าอก เอามือมาจับ เขาจะพูดว่าเกี่ยวกับฮอร์โมนเราเปลี่ยน ประมาณนี้ค่ะ”
ลักษณะเหมือนจับดูก้อนในหน้าอกหรือลวนลาม?
เอ : “ถ้าจับเป็นก้อนเขาก็จะบอกแต่ที่จับเราจะไม่พูดถึง แต่จะพูดทางเพศศึกษาซะมากกว่า เหมือนสอนค่ะ”
หมอจับหน้าอกระหว่างตรวจภายใน?
แพทย์หญิงธาริณี : “ไม่ได้จับค่ะ ถ้าคนไข้ไม่มีอาการผิดปกติเรื่องหน้าอกมา ตรวจภายในคือตรวจช่วงล่างค่ะ ปกติไม่ทำค่ะ”
เขาล่วงละเมิดมั้ย?
เอ : “เขาไม่ได้ล่วงละเมิดค่ะ แต่พยายามพูดโน้มน้าวให้เราเคลิ้มไปกับเขา สุดท้ายก็ออกมาได้ค่ะ”
แล้วกลับไปต่อว่าเขามั้ย?
เอ : “ปีแรกยังไม่ค่ะ”
ทำไมปีที่สองกลับไปอีก ไม่แปลกๆ เหรอ ไม่กลัวเหรอ?
เอ : “หนูแจ้งก่อนว่าปีสองหนูทำงานที่กรุงเทพฯ และไปรพ. คุณหมอสูฯ ตรวจเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าฝีหนูไม่มีหัว ประมาณนี้ เลยทำการรักษาให้ไม่ได้ เลยต้องรอ ประมาณอาทิตย์กว่าเลยตัดสินใจโทรที่บ้านให้เขาขึ้นมารับเพื่อลงมาที่นครสวรรค์”
เลยกลับไปที่เดิม ยอมกลับไปเหรอ?
เอ : “ใช่ค่ะ ต้องยอมกลับค่ะ เพราะทางกรุงเทพฯ ยังรักษาให้ไม่ได้ ซึ่งก็โดนเหมือนเดิม เขาจำเราได้ค่ะ เพราะมีประวัติ และเรียกที่รักเหมือนเดิม”
มีให้เงินชดเชยมั้ย?
เอ : “ครั้งที่สองมีควักเงินจากกระเป๋าตังค์เขาให้หนู 2 พัน บอกว่าให้เอาตังค์ตรงนี้ไปจ่ายหน้าเคาท์เตอร์”
คุณหมอเรื่องนี้จะทำยังไงดี?
แพทย์หญิงธาริณี : “ถ้ามีอาการก็ไปตรวจได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวค่ะ”
ที่มา khaosod
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น