ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง! ‘หมู Asava’ ร่วมออกแบบชุดยูนิเวิร์ส Thai Night
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล เป็นข่าว ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง! ‘หมู Asava’ ร่วมออกแบบชุดยูนิเวิร์ส Thai Night
เป็นที่จับตามองในกลุ่มแฟนนางงามและผู้ติดตามการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ว่า ชุดราตรีที่นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ว่าแบรนด์ใดจะได้รับหน้าที่ในการออกแบบตัดเย็บ ซึ่งผู้ที่รับหน้าที่สำคัญนี้ก็คือแบรนด์ดังของดีไซเนอร์ไทยระดับโลก Asava นำทีมโดย หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ล่าสุดเปิดเฮดออฟฟิศให้สื่อมวลชนได้มีโอกาสพูดคุยถึงแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ชุดราตรีสำหรับ นิ้ง-โศภิดา ที่จะสวมใส่บนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ ณ อาซาว่า กรุ๊ป แฟล็กชิพสโตร์ ซ.สุขุมวิท 45
แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง Asava Group ได้เผยถึงเรื่องน่ายินดีว่าแบรนด์ Asava ได้รับเกียรติอย่างสูงในการเป็น 1 ใน 19 ดีไซเนอร์ไทยในการออกแบบตัดเย็บชุดราตรีจากผ้าไทยเพื่อให้สาวงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ได้สวมใส่ในค่ำคืนThai Night ซึ่งกองประกวดจัดขึ้นตามพระดำริของ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้สาวงามจากทั่วโลกได้สัมผัสกับวัฒนธรรมไทยและความงดงามของผ้าไทย ซึ่งชุดราตรีสำหรับงาน Thai Night ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สีมงคลประจำวันของไทย” โดยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จะทรงร่วมออกแบบ พร้อม 19 ดีไซเนอร์ที่ได้รับมอบหมายให้ออกแบบชุดสำหรับนางงามคนละ 5 ประเทศในโทนสีที่ไล่เลียงสอดคล้องกัน โดยตัดเย็บจากผ้าไหมมัดหมี่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ภาพชุดราตรี Thai Night คอนเซ็ปต์ สีมงคลประจำวันของไทย
“สำหรับ Asava การออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยผ้าไทย เป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์แล้ว สิ่งที่เป็นความท้าทายในการทำงานไม่ใช่เรื่องของการออกแบบชุด แต่เป็นการที่เรายังไม่เคยเจอกับตัวนางงามผู้สวมใส่ เราได้มาแค่รูปถ่ายและสัดส่วน ซึ่งนางงามส่วนใหญ่จะชอบใส่ชุดที่เข้ารูปพอดีเป๊ะดูมีเชฟ ตอนนี้ชุดทั้งหมดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงต้องรอวันฟิตติ้งที่อาจจะต้องมีการแก้ไขชุด ในส่วนของคอนเซ็ปต์การออกแบบชุด Thai Night ของ Asava ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Asava มาเป็นโครงสร้างชุดหลัก คือความเรียบหรู แต่มีการเพิ่มดีเทลรายละเอียดในส่วนของดีไซน์ เช่น การนำผ้าไทย หรือผ้าชนิดอื่นๆ เข้ามาเสริมเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ เป้าหมายของงานคือการบอกเล่าเรื่องราวของผ้าไทยที่จะสื่อให้คนทั่วไปเห็นว่าผ้าไทยสามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส ที่สำคัญต้องส่งความงามของผู้เข้าประกวดที่ได้สวมใส่ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น”
สำหรับชุดราตรีของ นิ้ง-โศภิดากาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 หมู-พลพัฒน์ ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Asava เผยว่า Asava รับหน้าที่มาเป็นปีที่ 4 ในการออกแบบชุดราตรีสำหรับมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปีนี้ทำการบ้านอย่างหนัก มีการเอาชุดผู้เข้ารอบ 15 คนสุดท้ายใน 3 ปีที่ผ่านมามาวิเคราะห์ถึงดีไซน์ เทคนิค เพื่อที่จะดูแนวทางว่าแบบไหนที่ประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ
ชุดราตรีที่ประสบความสำเร็จในเวทีมิสยูนิเวิร์สมาแล้ว
“อย่าง 3 ปีที่ผ่านมา แนท- น้ำตาล มารีญา เขาค่อนข้างชัดเจนมีความเป็นนางแบบ มีลุคความเป็นนางแบบก็จะง่ายที่จะนำเสนอซิลลูเอตที่เป็นแฟชั่นหรือชุดที่มันใหญ่ แต่นิ้งเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านเสื้อผ้าน้อยกว่า ด้วยลุคของนิ้งเองด้วย ก็ต้องหาฟอร์ม หาเชฟ ที่มันส่งเขามากที่สุด จนได้โครงสร้างของชุดเป็นแบบนาฬิกาทราย ใช้โครงสร้างที่เกลี้ยงที่สุด เพื่อเป็นการทำให้นิ้งดูโดดเด่น ส่วนเรื่องสีเราก็เทียบกันสีต่อสีกับผิวน้อง สุดท้ายมาจบที่สีแดง ส่วนแรงบันดาลใจโดยส่วนตัว reference ที่ชอบใช้คือ ฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในยุคปี 1960 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เสด็จฯ เยือนต่างประเทศ และได้รับคำชื่นชมจากวงการแฟชั่นทั่วโลกถึงความงดงามของฉลองพระองค์ที่ทรงในงานต่างๆ
นอกจากความเรียบง่ายแล้วก็จะเป็นเรื่องของ sensual ที่เราต้องเติมเพื่อให้นิ้งทำให้เกิดความนุ่มนวลมากขึ้นจึงใช้ผ้าที่มีเท็กซ์เจอร์ที่นุ่ม เบา สบาย ส่งบุคลิกเขาให้ดูเฟมินีนขึ้น แต่ครั้งนี้
จะลดทอนเรื่องของซิลลูเอต แต่เพิ่มในรายละเอียดของงานปักและวิธีคิดมากกว่าทุกปีที่ Asava เคยทำ โดยรวมของชุดจะเป็นชุดราตรีเกาะอกระบายหางปลา (mermaid gown) ตัดเย็บด้วยผ้าซิลค์เครปสีแดง ผ้าตาข่าย ผสมผสานกับงานปักที่มีความละเอียดด้วยคริสตัลจากสวารอฟสกี้ ลวดลายงานปักก็จะยังคงแสดงถึงความรุ่งเรือง ความงดงามวิจิตรของวัฒนธรรมไทยแต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นสากล”
ในขณะนี้ความคืบหน้าในการตัดเย็บหมู-พลพัฒน์ เผยว่า อยู่ประมาณ 70-80% ทีมช่างตัดเย็บ โดยเฉพาะช่างแพทเทิร์น ช่างปักทำงานกันอย่างหนักเพราะยังมีการแก้ไขรายละเอียดอยู่ตลอดเวลา ในเรื่องความกดดันก็กดดันเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในฐานะดีไซเนอร์ ก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อส่งให้นางงามไทยสง่างามและส่องประกายบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018 อย่างแน่นอน
ฉลองพระองค์ในยุคปี 1960 คือแรงบันดาลใจในการออกแบบ
ที่มา naewna
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น