เคยมั้ย? นัดเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียน แต่พอได้พบปะพูดคุย กลับรู้สึกว่า ฉันไม่น่ามาที่นี่เลย
A1 : "กางเกงยีนส์ที่แกใส่ราคาเท่าไหร่"
เรา: บอกราคาไป (หลักร้อย)
A1 : "โห แกกล้าใส่ได้ไง ไม่คันหรอ ของชั้นซื้อในห้าง ราคา X,xxx บาทอ่ะ เนี่ยๆดูดีกว่าเยอะ"
(เราคิดว่าเพื่อนคงแค่พูดแกมแซวแกมหยอก แต่ฟังแล้วมันก็เซ็งๆนิดนึง)
เพื่อนอีกคนสะพายกระเป๋าคองเก้น (ขอแทนว่า A3)
A1: "กระเป๋าแกทำไมทุเรศจัง ยี่ห้อไรวะ"
A3: ....เงียบ.....
A2: "เออจริง เห็นคนสะพายเยอะ โครต โหลเลย เห็นวางเต็มตลาดนัด ใบละสี่ห้าร้อยเองมั้ง"
A3: "ของปลอมมั้ง เราซื้อในช้อปมา สี่พันกว่าบาท"
A1 & A2 : ....ทำหน้าเย๋เก เบะปากใส่เพื่อน....
ก่อนอาหารมาถึง ส่วนใหญ่ก็จะพูดคุย ถามแต่เรื่องราคากระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายกันและกัน ส่วนเรากับเพื่อนคนอื่นอีกคน ก็ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ ถามบ้างตอบบ้าง จากนั้นก็วนมาคุยเรื่องแฟนกัน เพื่อนขอดูรูปแฟนเรา หลังจากนั้นก็พูดจาทับถมกันยาวเลยค่ะ เพราะว่า แฟนเราค่อนข้างท้วม สูงไม่ถึง 170 และผิวดำ (แฟนเป็นคนใต้ค่ะ) ผิวเลยจะเข้มเป็นพิเศษ A1,A2 และ A4 พอเห็นรูปแฟนเรา ก็หัวเราะกันยกใหญ่ บอกว่าเรารสนิยมแย่มาก "แฟนแกทำไมเตี้ยจังวะ ทั้งอ้วนทั้งดำ หาผัวไม่สงสารสีผิวลูกที่จะเกิดมาเลย 5555" เราก็อึ้งๆจุกๆไปพักนึง ไม่คิดว่า คนเป็นเพื่อนกัน จะมาพูดแขวะกันแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นพูด เราก็คงจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ เวลานั้น ความรู้สึกดีใจต่างๆนานาที่ได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าในวันนี้ มันเลยหดหายไปหมด เพื่อนที่เคยสนิทกัน พูดจาดีต่อกัน มันคงไม่มีอีกแล้ว บางทีก็แอบคิดในใจว่า เรามาทำอะไรที่นี่ เรามานั่งให้เค้าแขวะด่าทำไมเนี่ย บ้าจริง
คุยกันไปซักพัก ก็วนมาเรื่องราคาเสื้อผ้าที่แต่ละคนใส่ A1 บอกว่า A3 แต่งตัวดู low ดู 199 มาก ทั้งที่ในกลุ่มวันที่ไป เราว่า A3 แต่งตัวได้น่ารักสุด ดูกระฉับกระเฉงดี (เสื้อยืดสีขาว + กางเกงยีนส์ขายาว) เรากับ A3 ไม่เคยพูดแขวะ หรือ ดูถูกรสนิยมของเพื่อนในกลุ่มเลย ส่วนใหญ่จะถามกันเรื่องสารทุกข์สุขดิบกันมากกว่า ส่วน A1,A2,A4 จะเปิดประเด็นคุยแต่เรื่องราคาสิ่งต่างๆ เพื่อ บลัฟกันว่าใครสูงกว่า แพงกว่า เราจะโดนติเรื่องรูปร่างหน้าตาเยอะสุด เรื่องคิ้ว เรื่องจมูก เรื่องตาไม่เท่ากัน กรามใหญ่ หน้าใหญ่ ฯลฯ พอคุยเรื่องหน้าที่การงาน ก็เอาแต่บลัฟเรื่องเงินเดือนกันและกัน เพราะในกลุ่มเราก็ได้เงินเดือนน้อยสุดจริงๆค่ะ เป็นการนัดเจอกัน 3 ชั่วโมงที่ ไม่มีความสุขเอาซะเลย เราตื่นเต้นดีใจอยู่แค่ 5 นาที หลังจากนั้นก็นั่งนอยด์ๆ เบื่อๆ แต่ก็ดี ทำให้ได้รู้ถึงธาตุแท้ของแต่ละคน เราเลยเอาแต่นั่งฟัง ไม่อยากพูดไม่อยากเถียงอะไร ไม่อยากไปนั่งอวดอะไรกับเค้า รู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเองเลยจริงๆ
A1 เคยไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย 1 ครั้ง แต่ก็จะพูดอวดเหมือนตัวเองไปเที่ยวมาแล้วทุกประเทศทั่วโลก พูดข่มคนอื่น ว่าชั้นเคยไปต่างประเทศมาแล้วนะ ไม่มีใครในที่นี้รู้ดีกว่าชั้นแล้ว ถ้าชั้นพูดอะไรพวกเธอต้องเชื่อชั้น ฯลฯ ...... อย่าง A3 บอกว่า เคยไปมองโกเลีย กับ โอกินาว่า เพื่อที่จะบอกว่า ประเทศสวยๆน่าเที่ยวในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ที่เดียวนะ A1 ก็ไม่ยอม เถียงจนเอาเป็นเอาตายให้ได้ ว่ามาเลเซียที่ชั้นไปมาดีที่สุด เลิศเลอเพอเฟคที่สุด ประเทศไหนๆ ก็สู้มาเลเซียไม่ได้ พวกเธอไม่เคยไปก็อย่ามาพูด และ A1 ยังบอกว่าทริปหน้าไปมาเลเซียกันนะ เดี๋ยวชั้นจะแนะนำอาหารและที่พักให้เอง เราเลยรีบปฏิเสธล่วงหน้าไว้ก่อน และอย่างเราบอกว่า เราอยากไปไต้หวันตอนช่วงปลายปี A1 ก็พูดขึ้นมาว่า ประเทศกระจอก จะไปกินหมาหรอ? เรานี่ขึ้นเลยค่ะ ขอตัวลุกไปขี้ แล้วก็ขอเช็คบิลกลับ คงไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนสินะ แต่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อน พวกเค้าเหล่านี้ ไม่ใช่คนแบบนี้เลยค่ะ T__T เรากับ A3 เดินออกมาจากร้านอย่าง งงๆ มองหน้ากันแล้วยิ้ม แล้วกวักเรียกแท็กซี่กลับบ้าน สรุปว่า การมาพบเจอในครั้งนี้ เป็นการพบเพื่อจากจริงๆ คงไม่กลับไปนัดเจอกันแบบนี้อีกแล้ว