ไม่จบ!ศึกทนายVSทะแนะ ตั้มโพสต์อีก มติเอกฉันท์ อัจฉริยะ ผิดจริง!(คลิป)

เมื่อช่วงคำของวันที่ 26 ม.ค.2562 ที่แฟนเพจเฟสบุ้ค "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ"

 ได้โพสต์ข้อความว่า

"หลังจากคณะกรรมการพนักงานสืบสวนสอบสวนฯ มีมติเอกฉันท์ว่าการกระทำของ พ.ต.ท.เรืองยศฯและพี่อัจฉริยะฯ มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีคัดทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายแล้ว คณะกรรมการยังเห็นว่าการกระทำของทั้งสองคนมีความผิดฐาน ร่วมกันทำและใช้เอกสารราชการปลอมอีกข้อหาหนึ่ง จากการลงบันทึกประจำวันย้อนหลัง

ดังนั้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 ที่ผ่านมาคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนฯ จึงส่งสำนวนการสอบสวนไปที่ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าเห็นควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไปตามกฎหมายใหม่ โดยอาจจะให้ สภ.บางปะอิน รับเรื่องและดำเนินการต่อ หรือจะส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ท. ซึ่งจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน"

ต้องถือว่าช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยจะดีมากนัก สำหรับ นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพราะก่อนหน้านี้่คู่อริตัวเอ้อย่าง ดร.สุกิจ พูนเกษมศรี ก็เพิ่งจะพสต์ข้อความถึงพี่ชายร่วมสาบานของทนายษิทธาไว้ว่า หากหายป่วยเมื่อไหร่ จะดำเนินการเช็คบิลทันที! โดยระบุว่า

"ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน

สิ่งที่น้องพูดถึงพี่ นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว พี่ร่วมสาบานน้องนั้นไม่ใช่ทำเฉพาะผมกับน้องคนเดียว แต่เค้าจะทำกับทุกคนที่ขัดใจและไม่ทำตามที่เค้าต้องการ

สื่งทีพี่ไม่ชอบการกระทำของพี่ชายร่วมสาบานน้องนั้นมันมีอำนาจเหนือตำรวจ.เหนือฝ่ายปกครอง. เหนืออำนาจรัฐ ทั้งที่ตนเองไม่มีหน้าทีหรือเกี่ยวข้องด้วยเลย มันทำตัวเหมือนDsi เลยนะ

ต้องบอกน้องตรงๆเลยว่า ผมป่วยตั้งแต่ถูกตำรวจกองปราบบอกว่าเข้าใจผิดที่เอาส้นตีนเหยียบคอผมโดยเฉพาะพี่ชายร่วมสาบานน้องนั้น ผมหายป่วยเมื่อไรผมเช็คบิลเมื่อนั้น ขอให้มันใหญ่จริง มันด่าพล.อ ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหานายกต่างๆนาๆตามคลิ๊บตำรวจยังทำอะไรมันไม่ได้เลย กลับได้รับการยกย่องจากสมาคมอะไรไม่รู้ว่า พี่ร่วมสาบานน้องเป็นวีรบุรุษ แล้วสังคมจะอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้

ดรสุกิจ พูนศรีเกษม"

ซึ่งโพสต์ข้างถือเป็นโพสต์ที่ต่อเนื่องจากคราวก่อนที่โพสต์พาดพิงและชื่นชมทนายษิทธาว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง จนเป็นสัญญาณดีว่าความสัมพันธ์ที่เคยร้าวฉาวแตก-หัก อาจจะกลับมาสมานกันได้แล้ว โดยโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า

"ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ขอให้พระคุ้มครองพี่นะครับ สิ่งที่พี่ทำกับผม ผมอโหสิกรรมให้ นี่คือลูกผู้ชายตัวจริงที่น่ายกย่อง ดีแล้วน้อง กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา แต่น้องยังแสดงถึงความมีน้ำใจเป็นห่วงพี่ร่วมสาบานอยู่ว่า"หลังจากนี้ อยู่ที่กรรมของพี่แล้ว คนที่พี่ทำกรรมอะไรกับเค้าไว้ ทำให้เค้าเดือดร้อน เค้าจะโห้สิกรรมให้พี่หรือเปล่า

"คนที่พี่ชี้ผิด "ชี้ถูก"ตัดสินคนอื่น โดยพละการตามใจพี่ ผมให้อภัย แต่คนอื่นจะให้อภัยพี่ด้วยไหม นี่คือคำพูดนักปราชญ์ ที่กินใจจริงๆ

ยังมีอีกหลายคดีรอพี่อยู่. แล้วแต่เวรแต่กรรมของพี่นะ นี่คือนักปราชญ์ตัวจริงที่รู้แพ้รู้ชนะ. คำพูดกินใจเหลือเกินแต่ใส่ด้วยยาพิษ.นั่นหมายถึงพี่คงไม่ใช่ชุปเแอร์แมนที่จะผ่านพ้นคดีได้โดยง่ายไปทุกเรื่องนะครับ.

ถ้าเรียนกฏหมายจะลึกชึ่งกว่านี้ ถ้าเป็นทนายคงจะใช้วิชาชีพได้ดี แต่เป็นเพียงแค่ทะแนะก็เลยถูกวางยา สุดท้ายก็เป็นที่รู้กันอยู่

ษิทรา เบี้ยบังเกิด ยังส่งข่าวถึงพี่รวมสาบานว่า "ไม่ต้องเป็นห่วงนะ" ตอนนี้สภาทนายความมีมติเป็นเอกฉันท์ #ยกคำร้องไม่รับคำกล่าวหา ในเรื่องให้สินบนพนักงานอัยการ ทั้งของพี่และของคุณวาสนาฯที่กล่าวหาผม พี่ฯต้องหยุดพฤติกรรมแบบนี้ เสียทีครับ ไม่ว่ากับผมหรือใครก็ตาม. แต่ก็ยังรักพี่อยู่นะ"

ด้านทนายตั้ม ษิทธา เบี้ยบังเกิด ก็ได้โพสต์ตอบกลับทนาย ศุกิจ ว่า

"เร็วๆนี้ทุกคนจะได้รู้ความจริงทั้งหมด แต่ตอนนี้มีเหตุการณ์หนึ่งซึ่ง ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ได้โพสข้อความในทำนอง รู้ผิดชอบชั่วดี ว่าใครทำอะไรกับชีวิตของ ดร.สุกิจฯ คงต้องรอให้ ดร.สุกิจฯ ออกมาพูด รวมทั้งฟ้า กนกพรรณ ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นคู่ขัดแย้งกับผมมาโดยตลอด คงจะไม่พูดถึงผมในแง่ดีหรอกครับ แต่คราวนี้ผมต้องการให้ทั้ง 2 คนพูดความจริงว่าใครทำอะไรกับชีวิตพวกเค้า

ผมขอเรียนให้ทราบว่า ผม ทนายรณรงค์ ทนายเกิดผล ทนายเดชา อาจารย์ปรเมศวร์ คือนักกฎหมายที่ออกสื่อเป็นประจำ รวมทั้งนักกฎหมายอีกหลายแสนท่านทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นทนายความ ตำรวจ อัยการ ศาล ท่านเหล่านี้ไม่ได้ออกสื่อ แต่ทุกคนช่วยผดุงความยุติธรรมให้แก่บ้านเมือง ให้ความเป็นธรรมแก่สังคมตามครรลองของกฎหมาย

แต่บุคคลที่ไม่มีอาชีพ ไม่มีหน้าที่รักษากฎหมาย มาทำพฤติกรรม #ชี้นำให้สังคมปั่นป่วน เกิดความสับสน วุ่นวายในบ้านเมือง มีไม่กี่คนหรอกครับ

อยากขอร้องสื่อมวลชน เชิญนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกันมาโดยตลอด มาออกรายการด้วยกัน ผมเชื่อว่าพิธีกรที่มีความเป็นกลาง มีจรรยาบรรณ สามารถทำความจริงให้ปรากฎ ว่ากระบวนการยุติธรรมมันผิดเพี้ยน หรือเป็นเพราะคนที่ไม่มีอาชีพต่างหาก ที่ชอบชี้นำสื่อ และสังคมให้เป็นไปตามใจของตัวเอง

แล้วท้ายที่สุดพวกเราทุกคนในสังคม ใช้หัวใจ ความจริงและเหตุผล มาตัดสิน #อย่าให้คนพวกนี้มาชี้นำครับ"

ในขณะที่ ทนาย เดชา กิตติวิทยานันท์ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทนายความที่มีความสนิทสนมกับ นายอัจฉริยะ มาสักระยะเวลาหนึ่ง ก็ได้ไลฟ์สดพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ตนขอเป็นกำลังใจและมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ รวมทั้งไม่ได้ถือข้างนายอัจฉริยะแล้ว เพราะเหตุการณ์วิกฤติเช่นนี้่ต่างคนก็ต่างต้องช่วยเหลือตัวเอง

>>>>>>>>
Cr:::  facebook ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ , ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ,ทนายคลายทุกข์