ย่อมาให้แล้ว! นิยายที่บิ๊กตู่แนะนำ “แอนิมอลฟาร์ม” เรื่องหมูๆ ที่มนุษย์ต้องอ่าน
หน้าแรกTeeNee ข่าวร้อนโลกโซเชียล เป็นข่าว ย่อมาให้แล้ว! นิยายที่บิ๊กตู่แนะนำ “แอนิมอลฟาร์ม” เรื่องหมูๆ ที่มนุษย์ต้องอ่าน
ขึ้นแท่นเป็น นวนิยายแปล ที่คนไทยไขว่คว้าหามาอ่านกันมากที่สุดในนาทีนี้ไปซะแล้ว สำหรับ"แอนิมอลฟาร์ม" (Animal Farm)นวนิยายประพันธ์ขึ้นโดย "จอร์จ ออร์เวล" (George Orwell) หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แนะนำให้คนไทยอ่าน บอกช่วยเสริมสร้างปัญญา อย่าโยงการเมือง
งานเขียนเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 สะท้อนเหตุการณ์การปฏิวัติรัสเซียและการครองอำนาจของสตาลิน โดยใช้สัตว์เป็นตัวดำเนินเรื่องได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ให้เป็นหนึ่งในนิยายภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด 100 เรื่อง ระหว่างปี พ.ศ. 2466-2548 และอยู่ในอันดับที่ 31 ของรายชื่อนิยายที่ดีที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ของสำนักพิมพ์มอเดิร์นไลบรารี
สำหรับเรื่องราวย่อๆนั้นว่าด้วย "สัตว์ทุกตัวเสมอภาคกัน แต่สัตว์บางตัวเสมอภาคยิ่งกว่าสัตว์อื่นๆ"
เรื่องราวที่เกิดขึ้นฟาร์มชื่อว่า ไมเนอร์ ฟาร์ม โดยเจ้าของฟาร์มแห่งนี้คือชาวไร่ขี้เมาผู้หนึ่งที่ทำปศุสัตว์ ใช้แรงงานสัตว์ในการหาเงินเลี้ยงชีพ
อยู่มาวันหนึ่งหมูเฒ่า ผู้ที่ใช้ชีวิตในฟาร์มมาอย่างเนิ่นนานและเป็นที่เคารพนับถือของสัตว์ทุกๆ ตัว ก็เล็งเห็นถึงความที่สัตว์ถูกกดขี่ทั้งใช้แรงงานแลกกับเศษอาหารอันน้อยนิด รวมถึงเมื่อสัตว์ตายไปก็ยังเอาเนื้อหนังไปขาย
หมูเฒ่าจึงได้เริ่มความคิด ‘ปฏิวัติ' ขึ้น...
ด้วยความที่หมูเฒ่าตัวนี้เป็นที่นับถือของบรรดาสรรพสัตว์ (มีความอาวุโส) รวมถึงการใช้วาทศิลป์ชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่เหล่าสัตว์ต้องเผชิญ สัตว์ทั้งหลายเมื่อได้ฟังคำพูดแล้วก็ต่างพากันชื่นชมแนวคิดของเขา และพากันเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อขัดแย้ง
หลังจากการพูดจบลงไม่นานหลังจากนั้นหมูเฒ่าก็ตายด้วยความแก่ชรา แต่ว่าพอการไว้ทุกข์ของหมูเฒ่าจบลง สิ่งที่เขาฝากไว้กับเหล่าสรรพสัตว์ก็เริ่มเกิดขึ้น...
เหล่าสัตว์ที่ทำการก่อกบฏด้วยการไม่ยอมทำตามหน้าที่ ไก่ไม่ยอมวางไข่ ม้าไม่ยอมลากเลื่อน รวมทั้งยังมีการวางแผนก่อการยึดเอานำแบบลับๆ จนในที่สุดวันหนึ่งก็สามารถปฏิวัติยึดครอง ไมเนอร์ ฟาร์ม มาเป็นของพวกมันได้สำเร็จ
จากนั้นไมเนอร์ ฟาร์ม ก็เปลี่ยนชื่อเป็น แอนิมอล ฟาร์ม!!
การปฏิวัติทำให้ชาวไร่ต้องหนีออกจากฟาร์มไป และผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ดูแลปกครองฟาร์มก็ได้แก่หมู 2 ตัวที่ชื่อว่านโปเลียน และสโนว์บอล ซึ่งทั้งสองมีแนวคิดรวมถึงนิสัยที่แตกต่างกันจึงมักจะต้องโต้แย้งกันอยู่บ่อยๆ ในการบริหารฟาร์ม
นั่นก็คือนโปเลียนอยากจะให้ตัวเองกลายเป็นที่เคารพนับถือของเหล่าสัตว์ในฟาร์มและมีแนวคิดแบบรวบอำนาจ ส่วนสโนว์บอล มีจุดมุ่งหมายอยากจะนำพาความเจริญเข้ามาสู่ฟาร์มเพียงเท่านั้น...
หลังจากการปฏิวัติสัตว์ทุกตัวจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป หมูเป็นผู้ปกครองเพราะฉลาดมากกว่า ม้าเป็นแรงงานหลักเพราะมีกำลังมากกว่า หรือสัตว์ตัวน้อยตัวอื่นก็มีหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ที่ตนถนัด
ในช่วงแรกๆ สัตว์ดูมีความสุขกันมากกับการเป็นอิสระไม่ต้องมีผู้มาข่มเหง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปก็กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะสัตว์ต้องทำงานมากขึ้นทว่ากลับได้รับอาหารที่น้อยลงกว่าเดิม
ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าหมูที่เป็นผู้บริหารทรัพยากร มีการแบ่งสันปันส่วนแบบไม่เป็นธรรม...
นั่นก็คือนโปเลียนอยากจะให้ตัวเองกลายเป็นที่เคารพนับถือของเหล่าสัตว์ในฟาร์มและมีแนวคิดแบบรวบอำนาจ ส่วนสโนว์บอล มีจุดมุ่งหมายอยากจะนำพาความเจริญเข้ามาสู่ฟาร์มเพียงเท่านั้น...
หลังจากการปฏิวัติสัตว์ทุกตัวจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป หมูเป็นผู้ปกครองเพราะฉลาดมากกว่า ม้าเป็นแรงงานหลักเพราะมีกำลังมากกว่า หรือสัตว์ตัวน้อยตัวอื่นก็มีหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ที่ตนถนัด
ในช่วงแรกๆ สัตว์ดูมีความสุขกันมากกับการเป็นอิสระไม่ต้องมีผู้มาข่มเหง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปก็กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะสัตว์ต้องทำงานมากขึ้นทว่ากลับได้รับอาหารที่น้อยลงกว่าเดิม
ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าหมูที่เป็นผู้บริหารทรัพยากร มีการแบ่งสันปันส่วนแบบไม่เป็นธรรม...
ด้วยวาทศิลป์ของโฆษกส่วนตัวของนโปเลียน ทำให้สัตว์อื่นๆ ที่ไม่ได้ฉลาดมากนักหลงเชื่อคารมอยู่ตลอด และไม่โต้แย้งถึงการเสียผลประโยชน์นี้ อย่างเช่นบอกว่าที่หมูต้องกินเยอะกว่าสัตว์อื่น เพราะหมูใช้สมองในการบริหารเยอะกว่า...
วันเวลาผ่านไปนโปเลียนก็ทำการยึดอำนาจตั้งตนขึ้นเป็นใหญ่ โดยการใส่ร้ายสโนว์บอลถึงเรื่องต่างๆ นานา จนทำให้สโนว์บอลต้องหนีออกจากฟาร์มไป ส่วนสัตว์ก็พากันเกลียดชังเขาจากคำป้ายสีที่เขาถูกกล่าวหา
นโปเลียนจึงกลายมาเป็นผู้ปกครองแอนิมอล ฟาร์มแต่เพียงผู้เดียว แต่ว่าชีวิตของสัตว์ก็ดูจะลำเค็ญขึ้นเรื่อยๆ จากการเอาเปรียบของนโปเลียน แต่ก็ไม่มีกล้าลุกขึ้นหือเพราะไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็จะมีโฆษกคอยแก้ต่างให้ตลอด
รวมถึงการที่นโปเลียนกลายมาเป็นเผด็จการที่เหล่าสัตว์เห็นว่าร้ายเสียยิ่งตอนที่ยังมีมนุษย์ปกครอง และที่สำคัญคือในภายหลังเขามีอำนาจจนเหล่าสัตว์ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ท้ายที่สุดเหล่าสัตว์จึงจำต้องรับชะตากรรมนี้ไปตลอดกาลจนกว่าจะตายจากโลกนี้ไป...
ก็นับได้ว่าเป็นหนังสือสนุกๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ควรค่ากับการหามาอ่านเสียจริงๆ สำหรับเรื่อง Animal Farm และไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจทำให้คุณตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นก็ได้...
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น