สาววอนองค์กรไทย ไม่กีดกัน คนตาบอดอาศัยสุนัขนำทาง
สมาชิกเฟซบุ๊ก "ผมชื่อลูเต้อร์" ได้โพสต์เรื่องราวว่า เธอเป็นผู้พิการทางสายตา ได้นำสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนและได้รับการรับรองจาก Guiding Eyes for the Blind เข้ามาใช้ในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ธ.ค. 61 เพื่อช่วยในการสัญจรไปตามที่ต่างๆ แต่ก็ยังถูกปฏิเสธจากหลายสถานที่ในการนำสุนัขใช้นำทาง จึงอยากวอนหน่วยงานองค์กรเห็นใจ โดยได้ระบุข้อความว่า
*โปรดอย่ากีดกันคนตาบอดที่อาศัยสุนัขนำทาง*
จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ต้องการจะบอกกับผู้บริหารองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทุกแห่งในประเทศไทยว่า "โปรดทำความเข้าใจเครื่องมือสำหรับคนตาบอดที่เรียกว่า *สุนัขนำทาง* และเปิดสถานที่และบริการให้ผู้พิการทางสายตาพร้อมด้วยสุนัขนำทางได้เข้าถึง"
ถ้าเพื่อนๆ เข้าใจและเห็นใจในการต่อสู้ของทราย-ลูเต้อร์ เพื่อจะเข้าถึงสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ ในประเทศไทย แบบที่คนทั่วไปพึงมีโอกาส โปรดช่วยแชร์จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ออกไปให้กว้างไกลจนถึงหูผู้บริหารองค์กรต่างๆ ในบ้านเรา เพื่อเราจะได้รอฟังเสียงตอบกลับจากพวกเขาด้วยกัน
ขอบคุณทุกการกดแชร์ของคุณ ขอบคุณจากใจของทราย-ลูเต้อร์และครอบครัว
#เลิกกีดกันสุนัขนำทาง #ทรายลูเต้อร์
This open letter wishes to tell executives of both public and private organizations in Thailand to "please try to understand a tool for the blind called *guide dogs* and make your places and services accessible for blind people with this living tool."
If you, our friends, understand and "get" Sai-Luther's fight to gain access to public places and services open to all of us, PLEASE SHARE OUR OPEN LETTER far and wide, so it reaches the eyes and ears of executives of organizations throughout Thailand. And then, let's wait for their responses together.
#StopDiscriminatingAgainstGuideDogs #SaiLuther
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
เรียน ท่านผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำทุกแห่งในประเทศไทย
เนื่องจากดิฉันซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาชาวไทย ได้นำลูเต้อร์ สุนัขนำทางพันธุ์แลบราดอร์ที่ได้รับการฝึกและรับรองโดย Guiding Eyes for the Blind เข้ามาใช้ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เพื่อช่วยในการสัญจรไปตามที่ต่างๆ อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ดิฉันต้องเผชิญปัญหาจากการถูกปฏิเสธให้เข้าใช้บริการในสถานที่สาธารณะจำนวนมากรวมทั้งการใช้บริการขนส่งสาธารณะต่างๆ ด้วย
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประเทศไทยยังมีผู้พิการทางสายตาที่ใช้สุนัขนำทางเป็นจำนวนน้อยมาก ประชาชนทั่วไปและองค์กรต่างๆ จึงมักขาดความเข้าใจในเรื่องนี้ และอาจไม่ทราบว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฏหมายของผู้พิการ ทั้งนี้ มาตรา 20 พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ระบุไว้ว่า: ."คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ.ตลอดจนสวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ ดังต่อไปนี้
... (8) สิทธิที่จะนำสัตว์นำทาง เครื่องมือหรืออุปกรณ์นำทาง หรือเครื่องช่วยความพิการใดๆ ติดตัวไปในยานพาหนะหรือสถานที่ใดๆ เพื่อประโยชน์ในการเดินทาง และการได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ โดยได้รับการยกเว้นค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และค่าเช่าเพิ่มเติมสำหรับสัตว์ เครื่องมือ อุปกรณ์ ... หรือเครื่องช่วยความพิการดังกล่าว"
(**ทั้งนี้ผู้ประกอบการมีสิทธิที่จะแจ้งให้ผู้ใช้งานนำสัตว์นำทางออกจากสถานที่ของตนหากสัตว์นั้นทำสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น เป็นต้นว่า ส่งเสียงดัง หรือวิ่งไปมา ฯลฯ**)
ดิฉันจึงใคร่เชิญชวนให้ท่านและองค์กรของท่านร่วมเป็นผู้นำแถวหน้าในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมอารยะที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในด้านการให้สิทธิเท่าเทียมต่อผู้พิการ โดยตอบรับที่จะอนุญาตและอำนวยความสะดวกให้ดิฉันและผู้พิการทางสายตาอื่นๆได้นำสุนัขนำทางเข้าใช้บริการในสถานที่ของท่านดังเช่นบุคคลทั่วไปพึงจะมีโอกาส รวมทั้งแจ้งนโยบายนี้ให้บุคลากรและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในองค์กรของท่านทราบทั่วกันและโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ดิฉันยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูเต้อร์ สุนัขนำทางของดิฉัน รวมไปถึงแนวทางสากลในการปฎิบัติต่อผู้ใช้สุนัขนำทาง กับท่านและ/หรือเจ้าหน้าที่ของท่าน โดยท่านสามารถติดต่อดิฉันผ่านอีเมล tiksaisom@gmail.com
ดิฉันและครอบครัว รวมถึงผู้ติดตามข่าวสารด้านสิทธิและคุณภาพชีวิตผู้พิการในประเทศไทยจำนวนมาก ขอขอบคุณล่วงหน้าในการสละเวลาพิจารณาคำร้องของดิฉัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับคำตอบรับจากท่านและองค์กรในเวลาอันรวดเร็ว
ขอแสดงความนับถือ
คีริน "ทราย" เตชะวงศ์ธรรม และลูเต้อร์
วันที่ .............................................................
ข้าพเจ้าและองค์กรฯ ยินดีอำนวยความสดวกให้ นส.คีริน "ทราย" เตชะวงศ์ธรรม และผู้พิการทางสายตาอื่นๆ นำสุนัขนำทางเข้าใช้สถานที่และบริการขององค์กรตามที่เปิดให้บุคคลทั่วไปใช้ตามปกติ (ทั้งนี้บุคลากรของข้าพเจ้าสามารถแจ้งให้ผู้พิการทางสายตานำสุนัขนำทางออกจากสถานที่ ถ้าสุนัขดังกล่าวกระทำสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้สถานที่ เป็นต้นว่า วิ่งไปมา, ส่งเสียงดัง ฯลฯ )
(ลายมือชื่อ-ตำแหน่งและชื่อองค์กร)