ถกกันสนั่นโซเชียล ดราม่าทุบตึกสถานทูตอังกฤษ ใน กทม. สิทธิ์ของเขา จะขายให้ใครก็ได้!

เป็นเรื่องที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจ สำหรับกรณีที่มีการทุบอาคาร อดีตสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ในกรุงเทพฯ ภายหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ได้ขายที่ดินดังกล่าวในราคา 420 ล้านปอนด์ หรือราว 19,000 ล้านบาท ให้กับ ฮ่องกง แลนด์ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มเซ็นทรัล ก่อนที่สถานทูตอังกฤษจะย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ณ อาคารเอไอเอ บนถนนสาทร

เฟซบุ๊กเพจ ICOMOSThailand Association ได้มีการโพสต์ภาพการทุบอาคารสถานฑูตอังกฤษหลังเก่า พร้อมตั้งคำถามว่าถูกทุบไปได้อย่างไร เนื่องจากเป็นโบราณสถาน แม้จะยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานก็ตาม แต่อาคารเหล่านี้มีคุณค่าตามนิยาม พ.ร.บ.โบราณสถาน อ้างอิงได้จากเป็นอาคารที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสยามฯ การทุบครั้งนี้ กรมศิลปากรทราบเรื่องหรือไม่ ซึ่งผู้ทุบทำลายจะมีโทษตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน พร้อมระบุว่า หากที่ดินยังเป็นของอังกฤษก็สามารถรื้อได้ แต่ในเมื่อมีการโอนที่ดินให้กับคนไทยแล้ว อำนาจในการทุบอาคารเป็นของอธิบดีกรมศิลปากรเท่านั้น

หลังจากนั้นก็ได้มีเฟซบุ๊กเพจดังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเพจ เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน ระบุว่า เคสนี้ตลก เดิมเป็นกรรมสิทธิ์ของอังกฤษ พอขายให้กลุ่มเซ็นทรัลปั๊บ เปลี่ยนจากของอังกฤษเป็นของคนไทย แต่มีคนมองว่านี่มันระดับโบราณสถาน จึงต้องให้เป็นโบราณสถานของไทยอย่างนั้นหรือ พร้อมระบุว่าเห็นด้วยกับความคิดที่ว่า "เอกชนซื้อที่ดินมาหมื่นกว่าล้าน จะให้มาอนุรักษ์ อิหยังอะ เขาซื้อมาเพื่อทำกำไรหรือเปล่า จะให้รัฐมาเสียเงินเป็นหมื่นล้าน เพื่อซื้อที่ดินคืน แล้วนำมาอนุรักษ์ รัฐคงจะยอมหรอก"

ส่วนอีกเพจ ปลั๊กไทย by มหาชะนี ก็มองว่า สถานทูตอังกฤษ กรรมสิทธิ์คือรัฐบาลอังกฤษ เขาจะขายให้ใครก็ได้เรื่องของเขา ดราม่าทำไม ถ้าอยากเอามาอนุรักษ์ ก็เอาเงินไปซื้อคืนมาเอง

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจำนวนมากเห็นด้วยว่าไม่ควรดราม่า เนื่องจากขนาดอังกฤษยังตัดสินใจขาย แสดงว่าอาคารหลังนี้ไม่ได้มีความสำคัญมากมายขนาดนั้น แล้วไทยเราจะคิดแทนเขา นำมาเก็บไว้อนุรักษ์ไว้ทำไม อีกทั้งเป็นมองว่าอาคารหลังนี้ยังไม่ถือเป็นโบราณสถาน เนื่องจากสร้างเมื่อปี 2465 อายุยังไม่ถึง 100 ปีด้วยซ้ำ ขณะที่บางส่วนก็รู้สึกเสียดายอาคารดังกล่าวเช่นกัน