สุวรรณภูมิแจงแล้ว! หลังโซเชียลวิจารณ์ถังสีเหลืองมารองรับน้ำ เหตุเพราะซิลิโคนบกพร่อง
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเร่งแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมหลังคาอาคารผู้โดยสาร
น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีผู้โพสต์ภาพน้ำรั่วจากหลังคาอาคารผู้โดสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จากกรณีดังกล่าว ทสภ. ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพเหตุการณ์บริเวณห้องพักรอขึ้นเครื่องบิน อาคารเทียบเครื่องบิน (Concourse) C 7 ซึ่งพบจุดน้ำรั่วจากหลังคา จำนวน 6 จุด ซึ่งทาง ทสภ. ได้นำถังรองน้ำสีเหลืองที่ระบุการแจ้งเตือน ป้องกันผู้โดยสารลื่นล้มมาจัดวางเพื่อการใช้บริการที่ปลอดภัย และจัดให้มีพนักงานทำความสะอาดประจำจุดพื้นที่บริเวณดังกล่าว สำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ทสภ. ขอชี้แจงว่าไม่ได้มีการปล่อยปละละเลยประการใด ทั้งนี้ ทสภ. ได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด
โดยได้แบ่งการดำเนินการแก้ไขออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1. งานจ้างซ่อมแซมน้ำรั่วจุดเร่งด่วนบริเวณหลังคาอาคารเทียบเครื่องบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นการบำรุงรักษาเชิงแก้ไข แบบเร่งด่วน โดยให้จัดพนักงานขึ้นไปตรวจสอบจุดที่น้ำรั่วจากการบริเวณที่ได้รับแจ้งหรือประสบปัญหาอยู่ แล้วทำการซ่อมแซมโดยการกรีดซิลิโคนเก่าที่เสียหาย ทำความสะอาด และ Re-Sealant ใหม่ แนวรอยรั่วทันที โดยเริ่มได้ดำเนินการมาตลอด จนถึงปัจจุบัน โดยจะขึ้นดำเนินการได้ในช่วงสภาพอากาศที่ไม่มีฝนตกเท่านั้น ในขณะเกิดฝนตกจะให้พนักงานเตรียมพร้อมและสำรวจพื้นที่ด้านในอาคาร
2. งานจ้างตรวจสอบและซ่อมแซมน้ำรั่ว หลังคาอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินทสภ. จะเป็นสัญญาจ้างแรงงานบำรุงรักษา โดยเป็นการบำรุงรักษาทั้งเชิงแก้ไข และเชิงป้องกันไปพร้อมกัน คือจัดตารางเวลาให้มีพนักงานคอยตรวจสอบ ข้อบกพร่องของซิลิโคนรอยต่อกระจกทุกวัน เมื่อพบรอยต่อที่สภาพมีปัญหาโดยหากมีฝนตกแล้วน้ำรั่วลงมาในอาคารก็จะเร่งเข้าแก้ไขโดยทันทีเมื่อสภาพอากาศอำนวย แต่หากยังไม่มีฝนตก ก็จะแบ่งโซนเริ่มสำรวจในจุดที่ซิลิโคนเสื่อมสภาพ และหรืออาจเป็นสาเหตุให้น้ำรั่วซึมเข้าอาคารได้ เมื่อพบเจอปัญหาลักษณะนี้ก็จะทำดำเนินการซ่อมแซมทันที ก่อนที่จะพัฒนาตัวเป็นรอยรั่วต่อไปและไล่สำรวจในจุดอื่นๆต่อไปจนเต็มพื้นที่
ทั้งนี้ โครงสร้างของหลังคาบริเวณ อาคารเทียบเครื่องบิน เป็นโครงสร้างที่ทำจากแผ่นกระจกวางตัวบนโครงเหล็ก ทำให้มีรอยต่อหลายจุดบนหลังคาอาคาร ต้องใช้ซิลิโคนในการอุดร่องกระจกกับเหล็ก ประกอบกับสภาพอากาศของประเทศไทยมีสภาพร้อนชื้นจึงทำให้ซิลิโคนเสื่อมสภาพได้เร็ว และสามารถเกิดรอยรั่วได้ ดังนั้นในช่วงฤดูฝน จึงทำให้อาจมีน้ำฝนสามารถไหลผ่านหยดลงมาในอาคารผู้โดยสารได้
น.ท.สุธีรวัฒน์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนี้ตามที่มีการเผยแพร่ภาพของกระจกภายในอาคาผู้โดยสาร มีฝุ่นละออง เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์อีกด้วยนั้น ทสภ. ขอชี้แจงว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพกระจกบริเวณ ห้องพักรอขึ้นเครื่องบิน อาคารเทียบเครื่องบิน (Concourse) B Gate B6 ที่พบคราบฝุ่นเกาะบริเวณกระจก ซึ่งโดยปกติ ทสภ. มีการทำความสะอาดกระจกโดยแบ่งออก 2 ด้านคือ กระจกด้านใน และกระจกด้านนอก ทั้งนี้ การทำความสะอาดกระจกด้านในได้มีการทำความสะอาดเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ที่พบฝุ่นนั้นเป็นส่วนกระจกด้านนอก โดย ทสภ. ได้ทำความสะอาดเป็นประจำตามวงรอบการทำความสะอาดอยู่แล้ว (วงรอบละ 4 เดือน ปีละ 3 วงรอบ ซึ่งได้ทำความสะอาดอาคารเทียบเครื่องบินทั้งหมดตั้งแต่อาคารเทียบเครื่องบิน A - G (Concourse A - G)) แต่เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอยู่ตลอด ทำให้ฝุ่นที่มีจับตัวเป็นก้อน และพบเห็นตามภาพ อีกทั้งการดำเนินการทำความสะอาดกระจกต้อง ทำในช่วงที่ไม่มีผู้โดยสารหนาแน่น ไม่มีเครื่องบินเข้าจอด โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะ จึงต้องทำในเวลาที่ไม่มีผู้โดยสารใช้บริการ และต้องไม่มีฝนตกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้โดยสารและผู้ปฎิบัติงาน ทั้งนี้ ทสภ. ยินดีรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการ และจะเร่งดำเนินการแก้ไขกรณีดังกล่าว พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาระดับการบริการให้ดียิ่งขึ้น จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้