หมอแล็บฯ ชี้! ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสgเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม แนะตรวจประจำตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป
1. แบบแนวนอนขึ้นลงขนานกับลำตัว ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง คลำสลับขึ้นลงและไปมาให้อย่างทั่วทั้งเต้านม
2. แบบก้นหอยหรือแบบตามเข็มนาฬิกา คลำจากบริเวณหัวนมวนออกตามเข็มนาฬิกา จนถึงบริเวณรักแร้ ใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้บีบหัวนมดูว่ามีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลออกมาหรือไม่
3. แบบรัศมีรอบเต้า เริ่มจากส่วนบนเต้านมเข้าหาฐานและขยับนิ้วหัวแม่มือจากฐานถึงหัวนมทำซ้ำเป็นรัศมีรอบเต้านม
ถ้าจะให้พูดแบบง่ายๆก็คือ ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ คลำให้มันทั่วๆนมเรานั่นแหละ และสัญญาณอันตรายที่เราต้องไปหาหมอ ก็คือ
*เจอก้อนหรือเนื้อที่เป็นไตแข็งผิดปกติตรงบริเวณเต้านม
*มีน้ำเหลืองและเลือดไหลจากหัวนม
*ผิวหนังบริเวณเต้านมเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นรอยปนัดดา (บุ๋ม) หรือผิวหนังบวมหนาตึง เหมือนผิวของเปลือกส้ม
*หัวนมถูกดึงรั้งจนผิดปกติ
*ผิวหนังบริเวณลานหัวนมมีลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีผื่นคันที่เป็นๆ หายๆ
*ขนาดและรูปร่างต่างกันอย่างผิดปกติ
ที่เล่ามาทั้งหมด คือความผิดปกติที่เราพบได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าไปหาหมอ หมอก็จะการตรวจวินิจฉัยโรคที่ละเอียดยิ่งขึ้น ได้แก่
*การตรวจ แมมโมแกรม (Mammogram) จะมีประโยชน์มากในการตรวจหามะเร็งเต้านมขนาดเล็กเพราะสามารถตรวจได้ตั้งแต่ยังคลำก้อนไม่เจอ แต่ประโยชน์นี้จะใช้ได้ดีในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ซึ่งเนื้อเต้านม จะไม่หนาแน่นมาก การตรวจแมมโมแกรมจะเห็นรายละเอียดได้มาก แต่ในส่วนคนอายุน้อยจะแปลผลแมมโมแกรมยากและในกรณีที่พบก้อน ก็บอกไม่ได้ว่าก้อนนั้นเป็นน้ำหรือเป็นก้อนเนื้อ
*การตรวจ อัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) มีข้อเด่นที่สามารถใช้ในคนอายุน้อย และสามารถช่วยวินิจฉัยว่าก้อนต่างๆ ในเต้านมเป็นน้ำหรือเป็นก้อนเนื้อ ทำให้การวางแผนการรักษาเป็นไปได้ง่ายขึ้น จากนั้นหมอจะทำการรักษาที่เหมาะสมต่อไป เช่น การผ่าตัด การฉายแสง การใช้ยาเคมีบำบัดและยาต้านฮอร์โมน
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมคลำนมตัวเองกันนะครับ ก่อนจบขอฝากคำคมไว้ว่า "อย่าเรียกว่า นมเล็ก ให้เรียกว่าเอ๊กซ์แบบพอเพียง"