ไขข้อข้องใจ ทำไมจึงไม่ใช่ “การบินไทย” ไปรับคนไทยที่อู่ฮั่น
สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่ตอนนี้มียอดผู้ติดเชื้อ ทั้งในจีนลุกลามไปอีกหลายประเทศทั่วโลก และเสียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนตื่นตัวและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ขณะที่คนไทยที่อาศัยอยู่ในอู่ฮั่น และประเทสจีน ต่างเฝ้ารอการช่วยเหลือจากทางรัฐบาลไทย ให้พากลับบ้าน หวั่นติดเชื้อ โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงจะใช้เครื่องบินของแอร์ เอเชีย ไปรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่นและอาจจะไปรับด้วยตัวเองด้วย
ทำให้โลกออนไลน์เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก มองว่าแล้วทำไมต้องใช้เครื่องของพานิชย์(เอกชน) แล้วเครื่องบินของการบินไทยล่ะ
ล่าสุด แอรอน กฤษณรัตน์ บูรณะสัมฤทธิ์ อดีตรองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า
"ทำไมจึงไม่ใช่ "การบินไทย" ไปรับคนไทยที่ อู่ฮั่น มีคนถามมาเยอะว่าทำไมจึงไม่ใช่การบินไทยที่ไปรับคนไทยในอู่ฮั่นกลับประเทศไทย
ขอชี้แจงดังนี้ว่า ทางการบินไทยในฐานะ "สายการบินแห่งชาติ" ได้เตรียมความพร้อมที่จะไปรับคนไทยที่ตกค้างในอู่ฮั่นกลับประเทศไทยโดยเตรียมเครื่องบินรุ่น 747-400 ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีกัปตันและลูกเรือ "จิตอาสา" จำนวนมากที่พร้อมไปบริการคนไทยทุกคน และยังได้เตรียมเครื่องบินของไทยสไมล์ อีก 1 ลำด้วย
แต่เนื่องจากทางประเทศจีนได้แจ้งกับทางรัฐบาลไทย ขอให้เป็นสายการบินพาณิชย์ที่มีใบอนุญาตลงจอดเมืองอู่ฮั่นเท่านั้น ห้ามเครื่องบินทหารเข้าไปรับ ซึ่งมีแอร์เอเชียที่มีเที่ยวบินปรกติอยู่แล้ว ทางรัฐบาลไทยจึงต้องให้แอร์เอเชียไปรับแทน
การบินไทย ในฐานะ"สายการบินแห่งชาติ" เราไม่เคยทอดทิ้งคนไทย ไม่ว่าจะตกระกำลำบากที่ไหน ไม่ว่าจะกี่สงครามหรือกี่วิกฤติ การบินไทยก็จะบินไปรับคนไทยให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ครั้งนี้ด้วยเหตุผลที่ทางประเทศจีนกำหนดมาให้แก่แต่ละประเทศ (ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ANA เข้าไปรับคนญี่ปุ่น ไม่ใช่ JAL ) จึงทำให้การบินไทยไม่ได้ทำหน้าที่ที่เราทำมาตลอด 59 ปีที่ผ่านมา จึงขอแจ้งมายังทุกท่านตรงนี้นะครับ "