กัปตันแอร์เอเชีย บินรับคนไทยจากอู่ฮั่น เล่าความประทับใจตลอดการทำงาน 18 ชม.
ตอนไวรัสโคโรนาเริ่มระบาด ทางด่านควบคุมโรคดอนเมือง ได้ทำงานร่วมกับสายการบิน ในการตรวจคนที่มาจากWUH อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ข่าวจะดังเสียอีก สายการบินเรา จากปกติ ที่ทำการฆ่าเชื้อตามวงรอบ...ก็มาทำถี่ขึ้น และกลายทำทุกเที่ยวบินทันที ที่กลับจาก WUH ก่อนนำไปใช้ต่อ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่า เครื่องเราสะอาดแน่ๆ สำหรับ ผดส ทุกคน
...พี่ต๊อกบอกว่า...เราอาจต้องทำเที่ยวบินรับคนไทยจากWUH มึงว่าไง... ม้งพูดกับผมระหว่างเดินไปห้องทำงาน CEO กูกำลังคิดเรื่องนี้พอดี ว่าทำไมรัฐบาลไม่เอาคนออกมา...ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวกูบินเอง...ผมบอกกะม้ง งั้นมึงกะกูบินด้วยกัน จะได้ตัดปัญหา...ไม่ต้องเอาคนอื่นไปเสี่ยง ม้งบอกผมก่อนเข้าห้อง CEO ...พี่ รบ ขอความร่วมมือมา...ให้เรารับคนไทย จากหวู่ฮั่นพี่ว่าไง...พี่ต๊อกเอ่ยขึ้น พร้อมครับ...ม้งตอบ เดี๋ยวผมสองคนบินเอง น้องลูกเรือก็ไม่น่ามีปัญหา...งั้นผมตอบตกลงเขาไปนะ น่าจะประมาณวันที่1-2 เราพร้อมนะ...พร้อมครับ...เราตอบพร้อมกัน
วันอาทิตย์ที่ 2 เราโดนเรียกเข้าประชุมวางแผนละเอียดอีกครั้ง...หลังได้รับไฟเขียวจากจีน ว่าคือวันที่4 ...การนัดหมายโหลดของ การเดินทาง สถานที่รับตัวคนไทย ถูกสรุปในวันนั้น...และทุกอย่างถูกกำชับให้เป็นความลับ แต่...มีคนเงยหน้ามาบอกว่า...ทุกคนรู้แล้ว ว่าเราจะไปลงอู่ตะเภา...ข่าวลงแล้ว
วันจันทร์ที่ 3 ทางทีมแอร์เอเชีย...ถูกนัดหมายให้ไปซ้อม การใส่ขุดป้องกัน(PPE) เพราะหมอบอกว่า การใส่น่ะง่าย แต่การถอด...อาจทำให้ติดเชื้อได้ การซ้อมรอบเช้ายังไม่สมบูรณ์ เพราะขั้นตอนการคัดกรอง ผดส ก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย สี่ชั่วโมง ต้องให้ลูกเรือช่วย เราจึงต้องบรีฟกันอย่างละเอียด และเราต้องเข้าพบนายกฯในตอนบ่าย ก่อนที่น้องๆจะกลับไปซ้อมอีกรอบ ส่วนผมกับอั๋นแยกตัวกลับ เมื่อเรากลับมาถึงบำราศนาดูร
เช้าวันที่4...วันออกเดินทาง ซึ่งคือเวลา 0710 ผมนัดลูกเรือ ทีมแพทย์7 คน และเจ้าหน้าที่ กต 2 คน บรีฟขั้นตอนสุดท้าย ตอน0510 ...ใครจะรับผิดชอบอะไรตอนไหน และ chain of command ในcabin เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป...ในขากลับ
เมื่อประตูเปิดที่WUH ขอให้ลูกเรือ เขื่อฟังคุณหมอ ซึ่งนำโดย ผอ.ของบำราศ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโดยไม่ตั้งใจ...แต่เมื่อประตูปิดแล้ว การสั่งการเป็นหน้าที่ของหัวหน้าลูกเรือนะครับ...จนกว่า sign off คุณหมอถึงกลับมานำอีกครั้ง...เกิดมีผู้ป่วยฉุกเฉินบนเครื่อง หมอเป็นคนสั่งการ แต่ถ้าเกิดEmergency ให้ลูกเรือเป็นคนสั่งการทั้งหมด...ผมบรีฟคร่าว... ก่อนขึ้นเครื่อง...รมต.สาธารสุขมาส่งที่เครื่อง มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก...
เรา Landing ที่ WUH ตอน 1115 เวลาหวู่ฮั่น เรารีบกินข้าว...และทำธุระส่วนตัว ก่อนที่จะบอร์ด ผดส เพราะหมอบอกหลังจากนั้น เราจะไม่สะดวกอีก เราใช้เวลาคัดกรองและบอร์ด เกือบ 6 ชม ซึ่งยาวนานมาก ผมกะอั๋นและ Engineer เก็บตัวในห้องนักบิน...น้องๆลูกเรือ ช่วยหมอในการจัดที่นั่ง ผดส และออกที่นั่งให้
ทำไมต้องทำขนาดนั้น...
1.เราต้องมั่นใจว่า คนที่อาจมีอาการ หรือติดเชื้อ ต้องถูกแยกไปนั่งต่างหาก และใช้ห้องน้ำที่แยกไว้ให้
2.คนที่มีแข็งแรงแต่อยู่พื้นที่เสี่ยง ต้องนั่งอีกโซน
3.กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มเสี่ยงน้อย จะจัดนั่งข้างหน้า
จากแผนไม่เสิร์ฟระหว่างเที่ยวบิน ต้องมาทำ Fulservice น้องๆลูกเรือ ต้องอุ่นอาหารแบบด่วน ทายสิครับ ใครจะเป็นคนเสิร์ฟ... ทีมหมอ และพยาบาลสิครับ แม้แต่...ผอ.บำราศนาดูร ก็ได้ทดลองอาชีพสจ๊วตครั้งแรก คุณหมอ พยาบาล ที่ข้างล่าง คนเรียกอาจารย์ วันนี้ต่างทำหน้าที่บริการอาหารอย่างแข็งขัน
เรามีหมอจิตเวช และเจ้าหน้าที่ กต ไปด้วย ทุกคนช่วยกันเอนเตอร์เทน ผดส ตลอดเวลา...เพื่อลดความเครียด ที่รอกลับบ้านเป็นเวลานาน ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างสุดยอดจริงๆ เราลงที่อู่ตะเภา...และตามคาด มีคนมากมายมารอทำข่าว...และคุณหมอก็ได้ทำหน้าที่สุดท้ายของตนเองบนเครื่องบิน คือ ทำความสะอาดเครื่องบิน เก็บขยะลงถุงปลอดเชื้อ พ่นสเปร์ยฆ่าเชื้อ ก่อนทีมฆ่าเชื้อของฝ่ายช่างแอร์เอเชียจำมาทำซ้ำอีกรอบ
ผมไม่รู้ว่า...เมื่อคืนนี้ ผดส ผมได้นอนเมื่อไหร่ ทีมหมอและ กต ได้กินข้าวมั้ย เพราะผม...แอบนำทีมลูกเรือหลบมาก่อน ผมยอมรับในหัวใจ ของคุณหมอ และ กต ชุดนี้จริงๆ ทำงานหนักตลอดวัน อย่างมีพลังและร่าเริงตลอดเวลา ลูกเรือผมก็เช่นกัน ...ถ้าจะมีใครถูกเรียกว่าฮีโร่...นั่นคือพวกเขาครับ ขอซูฮก...ทีมคุณหมอ และเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ทั้งสองคนด้วยใจจริง จบการทำงาน...18 ชั่วโมงอันยาวนานครับ"